ตั้งกรรมการสอบคนปชป.เอี่ยวกักตุน-ส่งออกหน้ากากอนามัย

พรรคประชาธิปัตย์ 19 มี.ค.- พรรคประชาธิปัตย์เพิ่งตั้งกก.สอบคนปชป.เอี่ยวกักตุนและส่งออกหน้ากากอนามัย เชื่อหากข้อเท็จจริงปรากฏ ทุกฝ่ายพร้อมรับผิดชอบ 


นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่มีการกล่าวหาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนและส่งออกหน้ากากอนามัย ว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความกระจ่างกับทุกฝ่าย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรค แต่งตั้งนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมีนายอิสระ สมชัย นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ นายวิรัช ร่มเย็น เป็นกรรมการ และนายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ เป็นเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ และให้รายงานผลการตรวจสอบให้หัวหน้าพรรคทราบโดยเร็ว ขณะเดียวกันหากใครมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยง ก็สามารถส่งมาให้กับคณะกรรมการชุดนี้ได้  ยืนยันว่าหากมีข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีคนในพรรคเข้าไปเกี่ยวข้อง พรรคก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น

“เมื่อหัวหน้าพรรคได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ข้อมูลต่าง ๆ ก็จะนำเข้าสู่คณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งความเชื่อถืออยู่ที่ผลจากการกระทำ สังคมสามารถตรวจสอบได้ หากข้อเท็จจริงตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่ามีคนทำผิดไม่ว่านามสกุลใดหน้าไหน พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีละเว้น แต่หากผลสอบออกมาแล้วสมาชิกพรรคไม่ได้ทำผิดผู้ที่กล่าวหาก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริง คณะกรรมการได้รวบรวมข้อเท็จจริงทั้งจากทนายอัจฉริยะและจากฝ่ายที่ถูกกล่าวหาด้วย” นายราเมศ กล่าว


ต่อข้อถามว่าทำไมเพิ่งมาแถลง เพราะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมตรวจสอบฯ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม  นายราเมศ กล่าวว่า มีกรรมการบางคน แจ้งมาว่าอาจจะติดขัดในเรื่องของเวลา และไม่สะดวกในการเดินทาง เพิ่งตอบรับมาจึงเพิ่งแถลง ต่อข้อถามว่าน.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะต้องลาออกหรือไม่ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ แต่มีองคาพยพในการตรวจสอบแบบเต็มรูปแบบแล้ว ทั้งกระบวนการตรวจสอบตามกฎหมาย และตรวจสอบในส่วนของพรรค ดังนั้นขอร้องนายอัจฉริยะ เรื่องรัตนพงศ์ ทนายความอิสระ ว่า อย่าหยุดตรวจสอบในเรื่องนี้ ส่วนความรับผิดชอบทางการเมืองนั้นเชื่อว่า ทุกฝ่ายพร้อมจะรับผิดชอบ โดยเฉพาะคนที่ถูกพาดพิง เมื่อความจริงปรากฏ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม