นนทบุรี 19 มี.ค. – นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลการจับกุมดำเนินคดีผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ของวันที่ 18 มีนาคม 2563 จำนวน 7 ราย กรุงเทพฯ 2 ราย เป็นประเภทร้านค้าทั่วไป พบขายหน้ากากอนามัยแพ็ค 10 ชิ้น ในราคาแพ็คละ 160 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 16 บาท 1 ราย จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม และขายราคาเกินสมควร ส่วนอีก 1 ราย กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบโดยไม่ปิดป้ายแสดงราคา
ต่างจังหวัด 5 ราย ได้แก่ อุดรธานี 1 ราย เป็นประเภทร้านค้าทั่วไปกระทำความผิดข้อหาขายหน้ากากอนามัยเกินราคาควบคุม ราคาชิ้นละ 18 บาท เชียงใหม่ 1 ราย เป็นโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย พบความผิดไม่แจ้งข้อมูลปริมาณ สถานที่เก็บตามประกาศ กกร. จึงแจ้งข้อหามาตรา 25(5) เป็นผู้ผลิตไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อราคาจำหน่ายปริมาณการผลิตปริมาณคงเหลือรายวัน ปทุมธานี 2 ราย เป็นการล่อซื้อหน้ากากอนามัย ราคาชิ้นละ 20 บาท โดยทั้ง 2 ราย พบการกระทำความผิดข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคา ขายเกินราคาควบคุมและขายแพงเกินสมควร ศรีสะเกษ 1 ราย พบขายหน้ากากอนามัยกล่องละ 50 ชิ้น ราคา 1,000 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 20 บาท แจ้งข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและขายราคาเกินเกินสมควร
สำหรับสถิติการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดถึงวันที่ 18 มีนาคม 2563 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 176 ราย แบ่งเป็นการจับกุมในเขตกรุงเทพฯ 99 ราย และต่างจังหวัด 77 ราย นอกจากจับกุมคนขายหน้ากากอนามัยแพงอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศแล้ว ที่ผ่านมากระทรวงฯ ยังตรวจสอบจับกุมผู้กระทำความผิดขายเจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบซึ่งเป็นสินค้าควบคุม ในข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาและข้อหาขายแพงเกินสมควรอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ด้วย
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้เน้นย้ำเรื่องการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุม หากพบขายแพงเกินสมควรก็มีความผิดในข้อหาขายสินค้าแพงเกินสมควรตามมาตรา 29 จึงขอให้ผู้ค้าสินค้าทั้งหลายห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยเด็ดขาด สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ในข้อหาขายเกินราคาควบคุม จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ในข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท และหากเป็นผู้นำเข้าหรือตัวแทนจำหน่ายต้องแจ้งปริมาณการถือครองสินค้าต่อกรมการค้าภายใน หากฝ่าฝืนจะมีความผิด ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หากพบเห็นผู้กระทำผิด โปรดแจ้งร้องเรียน สายด่วน 1569 หรือเว็บไซต์กรมการค้าภายใน www.dit.go.th กระทรวงพาณิชย์.-สำนักข่าวไทย