ส่งม็อบหนี้สินเกษตรกรกลับบ้าน หวั่นชุมนุมเสี่ยง COVID-19

กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ รับข้อเสนอม็อบหนี้สินเกษตรกร เตรียมนำเข้าที่ประชุมบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯ สัปดาห์หน้า ให้ผู้ชุมนุมรอฟังข่าวดีที่บ้าน หวั่นอยู่รวมกันจำนวนมากเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 



นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้รับข้อร้องเรียนของกลุ่มเกษตรกร ซึ่งมาชุมนุมให้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน โดยจะนำเรื่องหารือในที่ประชุมกองทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ในสัปดาห์หน้า หากที่ประชุมคณะกรรมการ กฟก.มีมติให้ดำเนินโครงการปรับโครงสร้างหนี้แล้วจะส่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป


ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรของพระราชาซึ่งเดินทางมาจังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ และพิษณุโลกประมาณ 600 คน ชุมนุมต่อเนื่อง 90 วัน เรียกร้องให้กระทรวงเกษตรฯ ปรับโครงสร้างหนี้สมาชิกกลุ่ม 2,400 ราย โดยให้ดำเนินการครอบคลุมธนาคารของรัฐทั้ง 5 แห่งและสหกรณ์ รวมถึงให้นำหลักเกณฑ์ของการปรับโครงสร้างหนี้ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 และวันที่  2 ตุลาคม 2561 มาใช้ร่วมกัน คือ ให้เกษตรกรชำระหนี้ 50% ภายในระยะเวลาที่กำหนดในส่วน 50% ที่เหลือและดอกเบี้ยที่พักไว้ให้ยกให้ทั้งหมดและมีแผนฟื้นฟูอาชีพอย่างเข้มข้น โดย กฟก.ตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิกของกลุ่มเกษตรกรของพระราชาพบว่า ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของ กฟก. ซึ่งขณะนี้ กฟก.กำลังปรับโครงสร้างหนี้ให้สมาชิกภายใต้เงื่อนไขที่ใกล้เคียงกันกับที่ทางกลุ่มเสนอ


นายสุธัญญ์ ฤทธิขาบ ผู้อำนวยการ สำนักบริหารกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและรับเรื่องร้องเรียน (สกร.) กล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรมอบเงินให้แก่ กฟก. เพื่อชำระหนี้งวดแรก 1,650,000 บาท พร้อมรับข้อเรียกร้องให้ชะลอการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ที่มีหนี้ โดยชี้แจงเกษตรกรว่าจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 การชุมนุมของเกษตรกรจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ขอให้กลับไปรอฟังมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ภูมิลำเนา โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการ กฟก.จะเร่งนัดประชุมกับทุกภาคส่วนทั้งสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงินเจ้าหนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้หนี้ให้เกษตรกรทั้งประเทศ ล่าสุดขอความอนุเคราะห์จากกรมชลประทานจัดรถบัส 6 คัน รถตู้  1 คัน และรถบรรทุก 6 ล้อ  2 คัน เพื่อส่งเกษตรกรเดินทางกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง