สินค้าปศุสัตว์ไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ ระบุสินค้าปศุสัตว์ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดในและต่างประเทศ เกษตรกรไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ด้านกรมปศุสัตว์เผยเมียนมาเปิดตลาดรับเนื้อโคไทยแล้ว


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการระบาดของ COVID-19 ทำให้ภาคส่วนต่าง ๆ ได้รับผลกระทบ แต่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่าภาคการเกษตรมีผลกระทบน้อยที่สุดเนื่องจากทุกคนต้องบริโภคอาหาร แม้การส่งออกสินค้าเกษตรบางชนิดจะชะลอตัว เช่น สินค้าประมง ไม้ดอกไม้ประดับ แต่สินค้าปศุสัตว์ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เกษตรกรยังขายได้ราคาดี เช่น สุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มปลายปี 2562 อยู่ที่ 64 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันอยู่ที่ 72-76 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นกับแต่ละภาค โดยการส่งออกสุกรขุนตามแนวชายแดนยังมีต่อเนื่องตามคำสั่งซื้อ สำหรับไข่ไก่ซึ่งเป็นอาหารโปรตีนที่มีราคาถูกที่สุด ขณะนี้ความต้องการทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ราคาไข่คละหน้าฟาร์มฟองละ 2.60 บาท โดยหลายประเทศส่งคำสั่งซื้อเข้ามา แต่ความต้องการบริโภคในไทยมีมากจึงยังไม่ส่งออก ล่าสุดเมียนมาเปิดตลาดรับเนื้อโคขุนของไทยเป็นครั้งแรก 

“ขณะนี้การส่งสินค้าเกษตรไปยังจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ของไทยสามารถส่งออกได้มากขึ้น เนื่องจากทางการจีนเปิดด่านพรมแดน ซึ่งเคยปิดในช่วงการระบาดของ COVID-19 จึงคาดการณ์ว่าเมื่อสถานการณ์การระบาดของประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ของไทยคลี่คลายจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาสในการจำหน่ายสินค้าเกษตรไทย” นายเฉลิมชัย กล่าว


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ไทยเริ่มส่งเนื้อโคขุนไปเมียนมาแล้ว จากการยกระดับมาตรฐานการผลิตเนื้อโคคุณภาพสูงของไทยอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ระดับฟาร์มให้ได้รับรองมาตรฐาน GAP จนกระทั่งถึงโรงชำแหละและการแปรรูปที่ได้มาตรฐาน GMP เพื่อการส่งออก ตามมาตรฐานฮาลาล ทำให้การเปิดตลาดส่งออกสินค้าเนื้อโคคุณภาพสูงสู่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นผลสำเร็จ โดยผู้ประกอบการรายแรกที่ส่งเนื้อโคไปเมียนมา คือ บริษัท พรีเมี่ยม บีฟ จำกัด (EST.333) อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นผู้นำเครือข่ายโคเนื้อไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร (FTA) 

นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวต่อว่า ปี 2562 ไทยออกสินค้าผลิตภัณฑ์เนื้อโคแปรรูป 2,604 ตัน คิดมูลค่า 297 ล้านบาท การส่งออกเนื้อโคไปเมียนมาเป็นครั้งแรกถือเป็นผลดีต่อภาพรวมของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโคเนื้อ เนื่องจากเป็นการเพิ่มช่องทางระบายผลผลิตเนื้อโคได้มาก

“สินค้าปศุสัตว์ไทยได้เปรียบประเทศอื่น ๆ หลายด้านทั้งในแง่มาตรฐานการผลิตที่อยู่ในระดับสากล ตั้งแต่ระดับฟาร์ม กระทั่งถึงโรงชำแหละ และการแปรรูป สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีเป้าหมายส่งเนื้อโคออกไปยังกัมพูชาและมาเลเซียต่อไป นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์จะผลักดันให้เกษตรกรผลิตเนื้อโคคุณภาพภายใต้คำขวัญ “นิยมไทยบริโภคเนื้อโคไทย” เพื่อลดการนำเข้าเนื้อโคที่อยู่ในตลาดระดับบนและพร้อมเข้าสู่การแข่งขันในตลาดอาเซียน” นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว