เพิ่มความเข้มกรองคนเข้าเมืองแทนปิดประเทศ

ทำเนียบรัฐบาล 17 มี.ค.-นายกฯ ย้ำโควิด-19 ยังไม่เข้าระยะ 3 ยังไม่ปิดเมือง ไม่ปิดประเทศ แต่จะเพิ่มความเข้มข้นการคัดกรองคนเข้าประเทศมากขึ้น เลื่อนวันหยุดสงกรานต์จนกว่าสถานการ์คลี่คลาย มีวันหยุดเหมาะสม ให้ประชาชนเลื่อนตั๋วเดินทางไม่เสียค่าธรรมเนียม เตรียมพร้อมมาตรการรองรับประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย นายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอุตตม เสาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจะสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย แต่ขณะนี้ยังไม่เข้าสู่ระยะที่ 3 แต่มีแนวโน้มว่าการแพร่กระจายจะมากขึ้น ดังนั้น เพื่อลดการแพร่ระบาดจากรุงเทพฯ ไปสู่จังหวัดอื่น จึงต้องเพิ่มมาตรการเตรียมพร้อมรองรับ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา(โควิด-19)  ได้นำเรื่องเสนอครม.เพื่อพิจารณา 6 ด้าน คือ 1.ด้านสาธารณสุข 2.ด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน 3.ด้านข้อมูลการชี้แจงและรับเรื่องร้องเรียน 4.ด้านการต่างประเทศ 5.ด้านมาตรการป้องกัน และ 6. ด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยา โดยที่ประชุมครม.มีมติ ดังนี้ 1.ด้านสาธารณสุข ไม่ปิดเมืองหรือปิดประเทศ ไม่ห้ามการเข้า-ออก แต่จะป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศทุกช่องทางทั้งบก น้ำ อากาศ  โดยชาวต่างชาติที่มาจาก 4 ประเทศและ 2 เขตปกครองพิเศษ ประกอบด้วย จีน เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี ฮ่องกง ไต้หวัน ต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 3 วัน ต้องยินยอมให้ใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัวของรัฐ เจ้าหน้าที่จะดูรายละเอียดในหนังสือเดินทางว่าประเทศสุดท้ายก่อนเข้าไทยเป็นประเทศที่มีโรคแพร่ระบาดหรือไม่ เพื่อแจ้งกระทรวงมหาดไทยและเข้าสู่กระบวนการกักตัว เฝ้าระวังสังเกตุอาการ 14 วัน 


“ส่วนชาวต่างชาติที่มาจากประเทศแพร่ระบาดต่อเนื่อง แต่ไม่ได้ประกาศเป็นเขตติดต่ออันตราย ต้องแจ้งสถานที่พำนักในไทยที่สามารถติดต่อได้  ห้ามข้าราชการ พนักงานรัฐวสาหกิจเดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็น เตือนประชาชนงดเดินทางไปในประเทศซึ่งเป็นพื้นที่เขตโรคติดต่ออันตรายและพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาระบบกลไกการกักกันหรือมีเหตุสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย ณ ที่พำนักตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 จัดหาและเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์เครื่องมือที่จำเป็นให้เพียงพอต่อการแพร่ระบาดระยะที่  3 แนะนำคนไทยที่อาศัยในต่างประเทศชะลอเดินทางกลับไทยจนกว่าสถานการณ์ในประเทศจะดีขึ้น หรือหากกลับมาต้องเข้าสู่มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและกักตัว” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 2. ด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน ให้เร่งผลิตหน้ากากอนามัย หนากากผ้า เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ทั้งในประเทศและจัดหาจากต่างประเทศให้เพียงพอ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้หน้ากากผ้าเมื่อเข้าพื้นที่ชุมชน ขณะเดียวกันกระทรวงอุตสาหกกรรมได้ปลดล็อคให้นำแอลกอฮออล์มาใช้ผลิตเจลล้างมือได้ ให้นำหน้ากากอนามัยที่เป็นของกลางที่ยึดมาได้นำมากระจายต่อไป ตรวจสอบการขายออนไลน์ การกระจายและกักตุนสินค้า โดยรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานทำหน้าที่แล้ว ให้สำรวจเวชภัณฑ์ที่จำเป็น เช่น ชุดป้องกันของบุคลากรทางการแพทย์  หน้ากาก N 95 และอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยประสานและจัดหาจากต่างประเทศ 3. ด้านข้อมูล การสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ ของรัฐบาลมาจาก 2 แหล่งคือ ข้อมูลทางการแพทย์จะแถลงที่กระทรวงสาธารณสุข ส่วนภาพรวมของข้อมูลโควิด-19 แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล 4. ด้านการต่างประเทศ ให้กระทรวงการต่างประเทศใช้ทีมไทยแลนด์ โดยเอกอัครราชทูตเป็นหัวหน้าทีมดูแลคนไทยในต่างประเทศ 

“5.ด้านมาตรการป้องกัน ให้ลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูง สถานที่ที่คนมาทำกิจกรรมร่วมกันเป็นกิจวัตรที่อาจแพร่ระบาดเชื้อได้ง่าย แม้จะป้องกันแล้ว ได้แก่ มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา สถานศึกษา ให้ปิดชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมเป็นต้นไป เป็นเวลาสองสัปดาห์ สถานที่ที่คนไม่ได้มาชุมนุมเป็นกิจวัตร แต่ทำกิจกรรมที่เบียดเสียดใกล้ชิด เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อง่ายทางปาก สัมผัสถูกตัวหรือใช้สิ่งของร่วมกัน ให้ปิดชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เช่น สนามมวย สนามกีฬา สนามม้าในพื้นที่กรงุเทพฯและปริมณฑล ส่วนผับ สถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณ โรงมหรสพในกรุงเทพฯและปริมณฑล ให้ปิดชั่วคราวเป็นเวลาสองสัปดาห์ ลดจัดกิจกรรมการรวมตัวของคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด เช่น คอนเสิร์ต การแสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรมและกีฬา โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพิ่มมาตรการป้องกันสำหรับพื้นที่และสถานที่ที่ยังต้องเปิด ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานที่ราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ลดความสี่ยงของการแพร่เชื้อโดยให้ดำเนินมาตรการตามที่กระทรวงสาธาสรณสุขกำหนด ร้านค้า ร้านอาหารให้หมั่นทำความสะอาด คัดกรองอุณหภูมิ ใช้หน้ากากอนามัย ลดความแออัดการเดินทางเพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาด ยับยั้งการแพร่เชื้อในประเทศ โดยเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2563 จนกว่าจะมีวันหยุดชดเชยที่เหมาะสม ให้ทุกหน่วยงานพิจารณาการเหลื่อมเวลาทำงาน การทำงานที่บ้าน ส่งเสริมให้ใช้ระบบอินเตอร์เน็ตประชุมทางไกล โดยให้ทุกหน่วยงานทำแผนการทำงานจากที่บ้าน และรายงานผลการปฏิบัติงานต่อศูนย์โควิด-19 ให้หน่วยปฏิบัติควบคุมโรคทุกอำเภอ เขต หมู่บ้าน ให้บุคคลที่มาจากภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 6. มาตรการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มธุรกิจ แรงงาน สถานประกอบการ โรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องพิจารณามาตรการรองรับช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมจากเจ้าของกิจการโรงงาน ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจะมีมาตรการช่วยเหลือเกี่ยวกับภาระการผ่อนชำระ อาทิ รถจักรยานยนต์ ให้สถานบันการเงินผ่อนผันการชำระค่างวด ส่วนประชาชนที่ประกอบอาชีพต่าง ๆ ที่อยู่นอกระบบ พ่อค้า แม่ค้า ลูกจ้างรายวันและกลุ่มเกษตรกร จะเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจระยะที่ 2 ต่อไป

“ประเทศไทยจะควบคุมและชะลอสถานการณ์ในระยะที่ 2 ให้นานที่สุด  โดยใช้ทุกมาตรการทั้งการควบคุม ป้องกัน รักษาและสื่อสารด้านต่าง ๆ โดยให้ถือว่าปัญหาโควิด-19 เป็นปัญหาสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศ ส่วนการออกรายการโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิอจวานนี้ (16 มี.ค.) ที่ผมเรียกร้องให้คนไทยร่วมใจสู้โควิด-19 ประเทศไทยต้องชนะ หมายถึงสถานการณ์ต้องคลี่คลายเป็นปรกติด้วยความร่วมมือของทุกคน และนอกจากการดูแลป้องกันตนเองแล้ว ขอความร่วมมือผู้ที่จะเข้ารับการตรวจโควิด ควรเป็นผู้ที่มีอาการป่วย ส่วนผู้ที่ไม่มีอากรอะไร ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจให้สิ้นเปลือง เพราะการตรวจปริมาณมาก ส่งผลต่อการคัดกรองผู้ติดเชื้อยากลำบากขึ้น ซึ่งรัฐบาลไม่ได้กีดกันคนเข้ารับการตรวจโรค และวันนี้ผมจะออกรายการโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจเพื่อชี้แจงมาตรการที่ครม.อนุมัติอีกครั้ง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อวิจารณ์ว่าการที่ประเทศไทยไม่ประกาศการแพร่ระบาดระยะที่ 3 เป็นการไม่สะท้อนสถานการณ์ความเป็นจริงในจุจบัน ว่า ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นการประเมินและการตัดสินใจของแพทย์ ยืนยันว่าขณะนี้ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่การแพร่ระบาดระยะที่ 3 ยังไม่ปิดเมือง ไม่ปิดประเทศ แต่จะดำเนินมาตการคัดกรองที่เข้มข้นกับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ ส่วนผู้ที่จองตั๋วโดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว และครม.มีมติให้เลื่อนวันหยุด สามารถเลื่อนตั๋วโดยไม่มีค่าธรรมเนียม ส่วนการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากมาตการของรัฐบาล กระทรวงการคลังจะนำเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในสัปดาห์หน้า .-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]