กรุงเทพฯ 16 มี.ค.- หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน และโรงพยาบาลรัฐอาจรองรับผู้ป่วยได้จำกัด โรงพยาบาลเอกชนเตรียมพื้นที่รับผู้ป่วยโควิด-19 เข้ามารักษา เช่น ที่โรงพยาบาลธนบุรี ที่จะสร้างคลินิกคัดแยก และห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อ พร้อมจัดสถานที่รักษาและพักฟื้นโดยเฉพาะ
คนงานเร่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เพื่อเตรียมสถานที่ให้พร้อม ก่อนจะปรับปรุงเป็นคลินิกธนบุรี บางซื่อ เพื่อใช้คัดแยกผู้ป่วย และเป็นห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามแผนการแล้วที่นี่จะแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ตั้งแต่ห้องตรวจหาเชื้อ ห้องพบแพทย์ และห้องพักรอผลตรวจ ซึ่งทั้งหมดเป็นห้องความดันลบ ที่ช่วยควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค จุดนี้ยังทำหน้าที่หมือนจุดคัดกรองผู้ป่วย เพราะหากพบใครติดเชื้อโควิด-19 ก็จะถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง ที่ขณะนี้เตรียมพื้นที่บางชั้น เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ ซึ่งคาดการณ์ว่า รับผู้ป่วยอาการไม่หนักได้ 400 คน และผู้ป่วยวิกฤติในห้องไอซียู 50 คน
อย่างตรงจุดนี้ที่วางแผนใช้เป็นจุดรักษา และพักฟื้นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ก็มีการเตรียมความพร้อมทั้งสถานที่ และเครื่องมือโดยเฉพาะ เช่น เครื่องช่วยหายใจ ที่สำคัญมากสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการวิกฤติ
ผู้บริหารโรงพยาบาลระบุว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 กว่าร้อยละ 90 นั้นมีอาการไม่หนักมาก รักษาตามอาการได้ แต่ส่วนของผู้ป่วยวิกฤติ เครื่องช่วยหายใจสำคัญมาก จึงต้องหาเครื่องช่วยหายใจ มาเตรียมพร้อมไว้ให้มาก
ที่สำคัญที่สุดคือ เครื่องช่วยหายใจ เราจองทุกเครื่องทั้งที่โรงงาน และที่สหรัฐขอร้องทางจีน เครื่องไหนที่ว่างให้ส่งมาด้วย เพราะผู้ป่วยหนัก 1% จำเป็นต้องมี
นอกจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย, ชุด PPE , แว่นตา และยารักษา ที่เตรียมพร้อมแล้ว ยังต้องเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ และฝึกซ้อมหลายขั้นตอน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อขณะปฏิบัติหน้าที่ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ส่อเค้าวิกฤติ พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน วันละหลาย 10 คน จนโรงพยาบาลรัฐ อาจจะสามารถรองรับคนไข้ติดเชื้อโควิด-19 ได้จำกัด
คลินิกธนบุรีบางซื่อ ซึ่งทำเป็นจุดคัดแยกผู้ป่วย และห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จะมีกำหนดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ และในอนาคตยังเตรียมทำโรงพยาบาลสนาม กรณีที่การแพร่เชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระยะที่ 3 สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ แต่ไม่วิกฤติ บนพื้นที่ 4 ไร่ ตรงข้ามกับโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพราะคาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มจากเดิมอีกหลายเท่าตัว.-สำนักข่าวไทย