รัฐบาลประกาศยกเลิก VOA 18 ประเทศ- Free Visa 3 ประเทศ

ทำเนียบฯ 11 มี.ค.-รัฐบาล ออกมาตรการเข้มรับมือโควิด-19 ยกเลิกฟรีวีซ่า 3 ประเทศ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง และ Visa on Arrival ( VOA)  18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ (ไต้หวัน) สั่งปิดศูนย์กักตัวสัตหีบ และทั่วประเทศ ให้กักตัวที่บ้านพักแทน ตั้งเจ้าพนักงานมาดูแล หากผ่าฝืนดำเนินคดีตามกฏหมายเด็ดขาดทั้งจำและปรับ ยันมาตรการที่ออกมาไม่ได้ปิดประเทศ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งด่วน เพื่อติดตามและรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 หลังจากพบการแพร่ระบาดในต่างประเทศมากขึ้น

ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมแถลงข่าว 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะมีการคัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้าประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้มงวดขึ้นโดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยมีการคัดกรองมาตั้งแต่ประเทศต้นทาง จึงขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตาม ต่อจากนี้สถานการณ์อาจจะควบคุมต่อไปไม่ได้ และเพื่อไม่ให้ประเทศเข้าสู่ระดับที่ 3 จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติมออกมา ขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่ 2 

นายกรัฐมมนตรี กล่าวว่า มีข้อเสนอให้ปิดประเทศ แต่รัฐบาลคงไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจะส่งผลกระทบตามมาในหลายด้าน แต่การเข้มงวดในการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวน้อยลง จึงขอให้ผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิการทำงานของรัฐบาลตาม Social Media ใช้คำสุภาพ และรู้สึกไม่สบายใจ  

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เพื่อลดโอกาส เสี่ยงของการแพร่ระบาดในอนาคต จึงจะใช้อำนาจตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง ประกาศยกเลิก Visa on Arrival (VOA) 18 ประเทศเป็นการชั่วคราว หากนักท่องเที่ยวจาก 18 ประเทศดังกล่าวต้องการเดินทางเข้ามาประเทศไทยจะต้องไปติดต่อสถานทูตไทยในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังให้ยกเลิก Free Visa เป็นการชั่วคราวกับนักท่องเที่ยว 3 ประเทศ คือ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศจะต้องผ่านการตรวจร่างกายและมีใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 3 วัน มายืนยันกับสถานทูต หรือสถานกงศุล เพื่อเป็นการยืนยัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย  และหากชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน เมื่อผ่านเข้ามาประเทศไทย จะต้องถูกกักตัวไว้ ที่โรงแรมโนโวเทล สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากไม่ยินยอมจะส่งกลับประเทศต้นทางทันที สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง กระทรวงคมนาคมจะจัดรถรับส่งตั้งแต่สนามบินจนถึงบ้านพัก และไม่อนุญาตให้แวะส่งกลางทาง การดำเนินการมาตรการต่าง ๆ จะใช้ อำนาจตามมาตรา 16 ของกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ 

” มาตรการนี้ถือเป็นการคัดกรองจากประเทศต้นทาง โดยคนที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องได้รับอนุญาตจากสถานทูตในประเทศนั้น ๆ จะต้องมีใบรับรองแพทย์และต้องได้รับการยืนยันว่า มีสุขภาพแข็งแรงไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขึ้นเครื่องบินเดินทางไปไหนมาไหนได้ ในส่วนนี้เป็นไปตามมาตรฐานการบินสากล ที่จะมีการคัดกรองในอีกชั้นหนึ่ง ดังนั้นคนไทยที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศก็อาจจะมีขั้นตอนการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะปิดศูนย์ควบคุมที่ อำเภอสัตหีบ และ ในจังหวัดต่าง ๆ โดยผู้ที่ถูกควบคุมในศูนย์ต่าง ๆ ทางสาธารณสุขจะส่งแพทย์ไปตรวจคัดกรองเชื้อก่อนส่งไปเฝ้าระวังที่บ้านพักของตนเองในภูลำเนาต่าง ๆ จะมีการใช้อำนาจตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร เพื่อไปติดตามดูแลผู้ที่ถูกส่งกลับมาดูอาการต่อที่บ้านพักอย่างต่อเนื่อง และหากผู้ที่กลับมาไม่กักตัว หรือ ไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษตามกฎหมาย คือถูกจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ 

ถ้าหากกลับมากักตัวที่บ้านพัก อาจถูกกระแสต่อต้านจากคนในพื้นที่นั้น  พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนมีสิทธ์ กลับมาอยู่ในแผ่นดินไทย และหากต้องกลับ พื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือบ้านพัก ในภูมิลำเนาต่าง ๆ จึงอยากให้สังคมเข้าใจและอธิบายว่าการกลับมากักตัวจะมีเจ้าหน้าที่ ช่วยในการดูแลและตรวจตราหากพบว่ามีอาการป่วย ผู้ที่กลับมา และบุคคลในครอบครัวจะต้อง ถูกนำตัวไปทำการรักษา เพราะบ้านพักถือเป็นพื้นที่ควบคุม 

“กระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่าหากนำเอาบุคคลที่กลับจากประเทศเสี่ยง หรือบุคคลที่มีความเสี่ยง มากักตัวรวมกันเป็นจำนวนมาก โอกาสที่จะมีการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 สูง เหมือนกรณีของเรือ Diamond Princess  ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือจะต้องไปกักตัวอยู่บ้านพักภายในภูมิลำเนา โดยใช้เจ้าหน้าที่พนักงานที่แต่งตั้งขึ้นรวมถึงคนในครอบครัวช่วยดูแล” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวไม่ใช่เป็นการปิดประเทศ หรือห้ามคนเดินทางเข้าประเทศไทย แต่การที่จะเดินทางเข้าประเทศจะต้องมีเงื่อนไขบางประการที่มากขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการสากลที่สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงมาตรการดูแลการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ในหลายพื้นที่ จึงได้เรียกประชุมด่วน โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการเชิงรุก ปรับแผนการทำงานจากเดิม โดยสอบถามถึงแนวทางการปิดประเทศ ไม่ให้คนจาก 4 ประเทศเสี่ยง เข้ามายังประเทศไทย แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์กับประเทศนั้น ๆ 

พล.อ.อนุพงษ์ จึงสอบถามกระทรวงสาธารณสุขว่าหากไม่ปิดประเทศจะรับมือไหวหรือไม่ สำหรับบุคคลที่จะเข้าและออก จาก 4 ประเทศเสี่ยง ซึ่งผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะรับมือไหวหรือไม่ แต่เมื่อกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า ไม่ควรใช้แนวทางการปิดประเทศ จึงเป็นที่มาของมาตรการยกเลิกฟรีวีซ่า และ Visa On Arrival  

นายกรัฐมนตรี ได้ตำหนิและสั่งให้ฝ่ายบริหารไปฟังความเห็นจากลูกน้องผู้ปฏิบัติงานบ้าง ว่าจะปฏิบัติงานไหวหรือไม่ เพราะเท่าที่ได้รับการร้องเรียนมานั้น ผู้ปฏิบัติงานหลายคนเหนื่อยล้า ทำจะไม่ไหวอยู่แล้ว 

สำหรับรายชื่อ 18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ (ไต้หวัน) ที่สามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival มี  1. สาธารณรัฐบัลแกเรีย (The Republic of Bulgaria) 2. ราชอาณาจักรภูฏาน (Kingdom of Bhutan) 3. สาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) 4. สาธารณรัฐไซปรัส (Republic of Cyprus) 5. สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย (Federal Democratic Republic of Ethiopia) 6. สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ (The Republic of Fuji)

7. จอร์เจีย (Georgia) 8. สาธารณรัฐอินเดีย (Republic of India) 9. สาธารณรัฐคาซัคสถาน (The Republic of Kazakhstan) 10. สาธารณรัฐมอลตา (The Republic of Malta)11. สหรัฐเม็กซิโก (The United Mexican States) 12. สาธารณรัฐนาอูรู (The Republic of Nauru) 13. ปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea) 14. โรมาเนีย (Romania) 15. รัสเซีย (The Russian Federation) 16. ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (Kingdom of Saudi Arabia) 17. ไต้หวัน (Taiwan – China) 18. อุซเบกิสถาน (The Republic of Uzbekistan) 19. สาธารณรัฐวานูอาตู (The Republic of Vanuatu) ยกเลิก Free Visa 3 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

งานวันเด็ก

วันเด็กทั่วไทยคึกคัก สร้างความสุขและรอยยิ้ม

ผู้ใหญ่ใจดี ทั้งภาครัฐ เอกชน หลายหน่วยงานทั่วประเทศ จัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ร่วมสนุก สร้างรอยยิ้มเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2568

ดับไฟป่าดงพญาเย็น

ระดมกำลังดับไฟป่า ป่าสงวนแห่งชาติ “เขาลอย” ต่อเนื่อง

กรมป่าไม้ – กรมอุทยานฯ – อบต. พญาเย็น ระดมกำลังดับไฟป่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “เขาลอย” ต่อเนื่อง โดยปฏิบัติการทั้งทางภาคพื้นและใช้ ฮ. ทิ้งน้ำดับไฟ

นั่งเก้าอี้นายกฯ

ทำเนียบคึกคัก! “น้องพอร์ช” นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรก

ทำเนียบคึกคัก! วันเด็กแห่งชาติ “น้องพอร์ช” วัย 3 ขวบ มาจากเมืองกาญจน์ ตื่นเที่ยงคืน เกาะรั้วทำเนียบตี 3 นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรกสมใจ