รัฐบาลประกาศยกเลิก VOA 18 ประเทศ- Free Visa 3 ประเทศ

ทำเนียบฯ 11 มี.ค.-รัฐบาล ออกมาตรการเข้มรับมือโควิด-19 ยกเลิกฟรีวีซ่า 3 ประเทศ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง และ Visa on Arrival ( VOA)  18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ (ไต้หวัน) สั่งปิดศูนย์กักตัวสัตหีบ และทั่วประเทศ ให้กักตัวที่บ้านพักแทน ตั้งเจ้าพนักงานมาดูแล หากผ่าฝืนดำเนินคดีตามกฏหมายเด็ดขาดทั้งจำและปรับ ยันมาตรการที่ออกมาไม่ได้ปิดประเทศ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งด่วน เพื่อติดตามและรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 หลังจากพบการแพร่ระบาดในต่างประเทศมากขึ้น

ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมแถลงข่าว 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะมีการคัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้าประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อมเข้มงวดขึ้นโดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยมีการคัดกรองมาตั้งแต่ประเทศต้นทาง จึงขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจ รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตาม ต่อจากนี้สถานการณ์อาจจะควบคุมต่อไปไม่ได้ และเพื่อไม่ให้ประเทศเข้าสู่ระดับที่ 3 จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติมออกมา ขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่ 2 

นายกรัฐมมนตรี กล่าวว่า มีข้อเสนอให้ปิดประเทศ แต่รัฐบาลคงไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะจะส่งผลกระทบตามมาในหลายด้าน แต่การเข้มงวดในการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวน้อยลง จึงขอให้ผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิการทำงานของรัฐบาลตาม Social Media ใช้คำสุภาพ และรู้สึกไม่สบายใจ  

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เพื่อลดโอกาส เสี่ยงของการแพร่ระบาดในอนาคต จึงจะใช้อำนาจตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง ประกาศยกเลิก Visa on Arrival (VOA) 18 ประเทศเป็นการชั่วคราว หากนักท่องเที่ยวจาก 18 ประเทศดังกล่าวต้องการเดินทางเข้ามาประเทศไทยจะต้องไปติดต่อสถานทูตไทยในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังให้ยกเลิก Free Visa เป็นการชั่วคราวกับนักท่องเที่ยว 3 ประเทศ คือ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศจะต้องผ่านการตรวจร่างกายและมีใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 3 วัน มายืนยันกับสถานทูต หรือสถานกงศุล เพื่อเป็นการยืนยัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย  และหากชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 4 ประเทศได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน เมื่อผ่านเข้ามาประเทศไทย จะต้องถูกกักตัวไว้ ที่โรงแรมโนโวเทล สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากไม่ยินยอมจะส่งกลับประเทศต้นทางทันที สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยง กระทรวงคมนาคมจะจัดรถรับส่งตั้งแต่สนามบินจนถึงบ้านพัก และไม่อนุญาตให้แวะส่งกลางทาง การดำเนินการมาตรการต่าง ๆ จะใช้ อำนาจตามมาตรา 16 ของกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ 

” มาตรการนี้ถือเป็นการคัดกรองจากประเทศต้นทาง โดยคนที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องได้รับอนุญาตจากสถานทูตในประเทศนั้น ๆ จะต้องมีใบรับรองแพทย์และต้องได้รับการยืนยันว่า มีสุขภาพแข็งแรงไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถขึ้นเครื่องบินเดินทางไปไหนมาไหนได้ ในส่วนนี้เป็นไปตามมาตรฐานการบินสากล ที่จะมีการคัดกรองในอีกชั้นหนึ่ง ดังนั้นคนไทยที่จะเดินทางกลับจากต่างประเทศก็อาจจะมีขั้นตอนการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะปิดศูนย์ควบคุมที่ อำเภอสัตหีบ และ ในจังหวัดต่าง ๆ โดยผู้ที่ถูกควบคุมในศูนย์ต่าง ๆ ทางสาธารณสุขจะส่งแพทย์ไปตรวจคัดกรองเชื้อก่อนส่งไปเฝ้าระวังที่บ้านพักของตนเองในภูลำเนาต่าง ๆ จะมีการใช้อำนาจตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดสาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร เพื่อไปติดตามดูแลผู้ที่ถูกส่งกลับมาดูอาการต่อที่บ้านพักอย่างต่อเนื่อง และหากผู้ที่กลับมาไม่กักตัว หรือ ไม่ปฏิบัติตามจะถูกลงโทษตามกฎหมาย คือถูกจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ 

ถ้าหากกลับมากักตัวที่บ้านพัก อาจถูกกระแสต่อต้านจากคนในพื้นที่นั้น  พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คนไทยทุกคนมีสิทธ์ กลับมาอยู่ในแผ่นดินไทย และหากต้องกลับ พื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือบ้านพัก ในภูมิลำเนาต่าง ๆ จึงอยากให้สังคมเข้าใจและอธิบายว่าการกลับมากักตัวจะมีเจ้าหน้าที่ ช่วยในการดูแลและตรวจตราหากพบว่ามีอาการป่วย ผู้ที่กลับมา และบุคคลในครอบครัวจะต้อง ถูกนำตัวไปทำการรักษา เพราะบ้านพักถือเป็นพื้นที่ควบคุม 

“กระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่าหากนำเอาบุคคลที่กลับจากประเทศเสี่ยง หรือบุคคลที่มีความเสี่ยง มากักตัวรวมกันเป็นจำนวนมาก โอกาสที่จะมีการติดเชื้อและแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 สูง เหมือนกรณีของเรือ Diamond Princess  ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือจะต้องไปกักตัวอยู่บ้านพักภายในภูมิลำเนา โดยใช้เจ้าหน้าที่พนักงานที่แต่งตั้งขึ้นรวมถึงคนในครอบครัวช่วยดูแล” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวไม่ใช่เป็นการปิดประเทศ หรือห้ามคนเดินทางเข้าประเทศไทย แต่การที่จะเดินทางเข้าประเทศจะต้องมีเงื่อนไขบางประการที่มากขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการสากลที่สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงมาตรการดูแลการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ในหลายพื้นที่ จึงได้เรียกประชุมด่วน โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการเชิงรุก ปรับแผนการทำงานจากเดิม โดยสอบถามถึงแนวทางการปิดประเทศ ไม่ให้คนจาก 4 ประเทศเสี่ยง เข้ามายังประเทศไทย แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อภาพลักษณ์และความสัมพันธ์กับประเทศนั้น ๆ 

พล.อ.อนุพงษ์ จึงสอบถามกระทรวงสาธารณสุขว่าหากไม่ปิดประเทศจะรับมือไหวหรือไม่ สำหรับบุคคลที่จะเข้าและออก จาก 4 ประเทศเสี่ยง ซึ่งผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะรับมือไหวหรือไม่ แต่เมื่อกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า ไม่ควรใช้แนวทางการปิดประเทศ จึงเป็นที่มาของมาตรการยกเลิกฟรีวีซ่า และ Visa On Arrival  

นายกรัฐมนตรี ได้ตำหนิและสั่งให้ฝ่ายบริหารไปฟังความเห็นจากลูกน้องผู้ปฏิบัติงานบ้าง ว่าจะปฏิบัติงานไหวหรือไม่ เพราะเท่าที่ได้รับการร้องเรียนมานั้น ผู้ปฏิบัติงานหลายคนเหนื่อยล้า ทำจะไม่ไหวอยู่แล้ว 

สำหรับรายชื่อ 18 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ (ไต้หวัน) ที่สามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival มี  1. สาธารณรัฐบัลแกเรีย (The Republic of Bulgaria) 2. ราชอาณาจักรภูฏาน (Kingdom of Bhutan) 3. สาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) 4. สาธารณรัฐไซปรัส (Republic of Cyprus) 5. สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย (Federal Democratic Republic of Ethiopia) 6. สาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ (The Republic of Fuji)

7. จอร์เจีย (Georgia) 8. สาธารณรัฐอินเดีย (Republic of India) 9. สาธารณรัฐคาซัคสถาน (The Republic of Kazakhstan) 10. สาธารณรัฐมอลตา (The Republic of Malta)11. สหรัฐเม็กซิโก (The United Mexican States) 12. สาธารณรัฐนาอูรู (The Republic of Nauru) 13. ปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea) 14. โรมาเนีย (Romania) 15. รัสเซีย (The Russian Federation) 16. ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (Kingdom of Saudi Arabia) 17. ไต้หวัน (Taiwan – China) 18. อุซเบกิสถาน (The Republic of Uzbekistan) 19. สาธารณรัฐวานูอาตู (The Republic of Vanuatu) ยกเลิก Free Visa 3 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี เกาหลีใต้ ฮ่องกง  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“จิรายุ” ไม่เชิญแล้ว “ไมเคิล” บอก “จบข่าวไม่ต้องมาเหยียบแผ่นดินไทย”

กทม. 17 ส.ค. – “จิรายุ” ยันรัฐบาลเตรียมนำสื่อระดับโลกลงพื้นที่กองกำลังสุรนารี ดูจุดกัมพูชาถล่มพื้นที่พลเรือน ส่วนกรณี “ไมเคิล” บอก “จบข่าว” ไม่เชิญมาแล้ว หลังอ้างตัวเป็น “สื่อประจำทำเนียบขาว” ที่แท้เป็นล็อบบี้ยิสต์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่ารัฐบาลเตรียมนำสื่อมวลชนระดับโลกลงพื้นที่กองกำลังสุรนารี จังหวัดสุรินทร์ สัปดาห์หน้า ในจุดที่ไทยถูกอาวุธหนักของกัมพูชาถล่ม อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียนและพื้นที่พลเรือน จากนั้นจะเชิญสื่อมวลชนระดับโลกไปยังพื้นที่ที่รวบรวมกับระเบิดที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้โดย TMAC ก่อนจะให้ชมการปฏิบัติการทำลายวัตถุระเบิดที่ตกค้างจากการรุกล้ำอธิปไตยไทย ส่วนกรณีสำนักข่าวของกัมพูชารายงานข่าวของนายไมเคิล อัลฟาโร ชาวสหรัฐ ที่ไลฟ์สดชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้วยการเซตฉากและกล่าวอ้างว่าตนเองเป็นสื่อมวลชนประจำทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และกล่าวหาประเทศไทย ด้วยถ้อยคำรุนแรง ใส่ร้ายป้ายสีไทยด้านเดียว “สัปดาห์ที่แล้วอยากเชิญนายไมเคิลที่กล่าวอ้างว่าเป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาว อยากให้มาเห็นของจริงในฝั่งไทยที่โดนเขมรถล่มหนักแค่ไหน นายไมเคิลมีการไลฟ์สดพูดโกหกใส่ร้ายป้ายสีไทยไปทั่วโลก และบอกว่าตนเองเป็นสื่อรัฐบาลสหรัฐ จะฟ้องประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งตนเห็นว่าหากมาเห็นอีกมุมที่ประเทศไทยโดนกัมพูชาโจมตีทั้งโรงเรียน พื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ก็เป็นประโยชน์หากเป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาวจริง แต่ขณะนี้พบว่านายไมเคิล ไม่ได้เป็นนักข่าวประจำทำเนียบขาวจริง แถมยังแอบอ้างถึงประธานาธิบดีสหรัฐ วันนี้ตนจึงขอบอกว่า “จบข่าว” ไม่ต้องมาเหยียบแผ่นดินไทยต่อไป” นายจิรายุ กล่าว. -สำนักข่าวไทย

ศูนย์ทุ่นระเบิดจบภารกิจหนุนชายแดน เก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก

17 ส.ค. – ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1-16 สิงหาคมที่ผ่านมา TMAC ได้เก็บกู้สรรพาวุธที่ตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ประกอบด้วย กระสุน BM-21 ลูกปืนใหญ่ ปืน ค จรวด ก่อนหน้าสถานการณ์ตึงเครียด กัมพูชาขัดขวางการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ไม่จริงใจแก้ปัญหา ทั้งที่เป็นประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล สำหรับอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ 81 หลังคาเรือน […]

ตรวจสอบ รร.ประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ

ขอนแก่น 17 ส.ค.- กองปราบจ่อประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” เชื่อเจ้าตัวไม่หนี ขณะที่ทนายวัดพระบาทน้ำพุเลื่อนแถลงข่าว อ้างเอกสารชี้แจงยังไม่เรียบร้อย ตรวจสอบโรงเรียนประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ กรณีเพจดังตั้งข้อสงสัยวุฒิการศึกษาพระอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ้างว่าปี 2518 ยังเรียน มศ.2 จะจบวิศวฯ ปี 2519 ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ข้อมูลว่ากรณีพระอลงกต ระบุว่าจบการศึกษาที่โรงเรียนระดับประถม(นันทวิทยาลัย) ปรากฏว่าไม่มีชื่อโรงเรียนนี้อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตของพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ ใน จ.ขอนแก่น หรือถ้ามี ก็อาจจะปิดตัวไปแล้ว   ส่วนระดับมัธยมศึกษานั้น ข้อมูลยืนยันว่า พระอลงกต ศึกษาจบระดับชั้น มศ.2 ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่นจริง มีศิษย์เก่าทั้งระดับชั้นเดียวกัน และรุ่นพี่รุ่นน้องต่างยืนยันว่า พระอลงกต จบจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยจริง ในปี 2518 แต่ยังสงสัยในระดับปริญญาตรีว่าจะจบจริงหรือไม่   เชื่อ “หมอบี” ยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ […]

รวบแล้ว “ลุงคลั่ง” ใช้ไม้หน้าสามตีหลานสาวดับ

ตรัง 17 ส.ค.- ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รวบลุงคลั่งใช้ไม้หน้าสามฟาดหลานสาวแท้ๆ เสียชีวิตคาบ้านพัก สารภาพอ้างแค้นใจสะสมมานาน มีปากเสียงบ่อยครั้ง ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง คุมตัวนายสุริยัณห์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี น.ส.ปาริชาติ หรือน้องเชียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก จากนั้นหลบหนีขึ้นไปบนเขา คลองมวน  ต.หนองปรือ อ.รัษฎา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมภูเขา ก่อนจับกุมตัวได้พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร  สอบสวนนายสุริยัณห์ รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่ามีปัญหากับหลานสาวมานาน มักมีปากเสียงบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุได้บุกเข้าไปในห้อง ใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยของหลานสาว 6–7 ครั้งจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีออกจากบ้าน ผู้ต้องหาระบุว่า เคยทำงานเป็นช่างสักตามเกาะท่องเที่ยว เช่น เกาะพะงัน และเกาะพีพี แต่มีปัญหาจึงกลับมาอยู่บ้าน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกส่งตัวเข้าบำบัดหลายครั้ง ขณะถูกสอบสวนยังสามารถโต้ตอบคำถามได้ปกติ แต่ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป สำหรับศพของ “น้องเชียร์” ล่าสุด […]