สำนักงานผู้ตรวจฯ 9 มี.ค.-ชาวบ้าน ต.ลิดล จ.ยะลา ร้องผู้ตรวจฯ สั่งกรมศิลป์คืนเขตโบราณสถานภาพเขียนสีเขายะลา หลังลดพื้นที่เอื้อนายทุนเหมือง เกรงกระทบ 4 ภาพเขียน อายุ 3,000 ปี
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำชาวบ้าน ต.ลิดล จ.ยะลา เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้สั่งกรมศิลปากร ประกาศแก้ไขเขตที่ดินโบราณสถานภาพเขียนสีเขายะลา ซึ่งอยู่บริเวณ ต.ลิดล – ต.ยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ให้กลับมามีพื้นที่เท่าเดิม
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ประกาศฉบับใหม่ลดพื้นที่ จากกว่า 887 ไร่ เหลือประมาณ 697 ไร่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับโรงโม่หินเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างไปกว่า 190 ไร่ โดยอ้างปัญหาความมั่นคง-ลดความไม่สงบในพื้นที่ยะลาและใกล้เคียง เข้าข่ายกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ซึ่งสมาคมฯ ได้ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดและลงโทษไปแล้ว แต่เนื่องจากประกาศกรมศิลปากรฉบับดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้อยู่ ยังไม่มีการทบทวนแก้ไข หรือยกเลิก ทำให้เป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการโรงโม่หินอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีอยู่ 5-6 โรงรอบพื้นที่ภาพเขียนสีเขายะลา สามารถยื่นคำขอประทานบัตรเพื่อระเบิดหินนำหินมาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างต่อไปได้ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาพเขียนสีโบราณบนผนังหินที่มีอายุกว่า 3,000 ปี จำนวน 4 ภาพ คือ 1.ภาพเขียนสีแดงบริเวณเพิงผาตอแล หรือ ตอลัง ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเขายะลา 2.ภาพเขียนสีดำบริเวณโพรงถ้ำด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเขายะลา 3.ภาพเขียนสีแดงบริเวณเพิงผาด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขายะลา และ 4.ภาพเขียนสีบริเวณด้านทิศใต้ของเขายะลา ที่มีที่ตั้งอยู่ใกล้โรงโม่หินประมาณ 1-2 กม.เท่านั้น
“การหาแหล่งหินเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างในจังหวัดยะลายังมีอีกมากมายหลายพื้นที่มีปริมาณสำรองมากกว่า 634.45 ล้านเมตริกตัน แต่ภาพเขียนสีที่สะท้อนอารยะธรรมของชนชาติมาแต่โบราณ เป็นสมบัติที่ล้ำค่า จะหาสิ่งใดมาทดแทนกันไม่ได้ การรักษาภาพเขียนสีดังกล่าวให้คงอยู่คู่บ้านคู่เมืองต่อไปมีหนทางเดียว คือ ต้องยกเลิกประกาศแก้ไขเขตที่ดินโบราณสถานภาพเขียนสีเขายะลาฉบับดังกล่าวเท่านั้น จึงขอให้ผู้ตรวจฯ สั่งกรมศิลปากรยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าวเสีย หากยังเพิกเฉย ก็จะนำชาวบ้านยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง” นายศรีสุวรรณ กล่าว.-สำนักข่าวไทย