กรุงเทพฯ 8 มี.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมผลักดันนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมไทย นำนวัตกรรมและการตลาดควบคู่ไปในทิศทางเดียวกัน เน้น “ผลิตได้ ขายได้ อยู่ด้วยกันได้” เตรียมดัน 1 อุตสาหกรรมจังหวัด 1 สตาร์ทอัพ ยกระดับเศรษฐกิจไทย
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ตลาดและนวัตกรรมนำอุตสาหกรรมไทย ตามมาตรการ “ผลิตได้ ขายได้ อยู่ด้วยกันได้” เป็นหนึ่งในกลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีศักยภาพ โดยมาจากความสำคัญของ 3 คำ คือ ผลิตได้ คือ ต้องมีการใช้งานวิจัยและพัฒนา นวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ขายได้ คือ ต้องมีการตลาดที่ดีทั้งออนไลน์ (Online) และออฟไลน์ (Offline) และอยู่ด้วยกันได้ คือ สินค้าและบริการ ต้องมีคุณภาพและมาตรฐาน ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายกอบชัย กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวเป็นการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันกับทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง ฯ เริ่มตั้งแต่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ที่ให้ความสำคัญกับเทรนด์โลก เช่น BCG Model หรือระบบเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว การสร้างความร่วมมือของโครงข่ายโซ่อุปทาน ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการตลาดไร้พรมแดน เป็นต้น กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นหน่วยกำกับดูแลการประกอบกิจการ ให้ได้คุณภาพ และมาตรฐาน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) เป็นหน่วยส่งเสริมด้านการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถขายได้ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน และสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หน่วยงานด้านวิจัยและพัฒนา และผู้ประกอบการภาคเอกชน เพื่อบูรณาการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด มุ่งสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการนำอุตสาหกรรมผลักดันเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะท่ามกลางสภาพปัญหาวิกฤติไวรัสโควิด-19 และช่วยรัฐบาลในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย จึงได้เตรียมความพร้อมยกระดับการพัฒนา เพื่อเพิ่มรายได้เข้าสู่ประเทศระยะยาว โดยจัดทำโครงการ 1 อุตสาหกรรมจังหวัด 1 สตาร์ทอัพ และกำหนดให้มีจังหวัดนำร่องอย่างน้อย 12 จังหวัดทั่วประเทศ ในการสนับสนุนและผลักดันสตาร์ทอัพให้มีการกระจายสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายที่เป็นของกระทรวงฯ และนำสินค้าไปขายโรงงานขนาดใหญ่ทุกสิ้นเดือน และให้อุตสาหกรรมจังหวัดช่วยหาโรงงานอุตสาหกรรมที่มี Big Brother สามารถใช้เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้า ซึ่งจะมุ่งให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปีนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่เป็นการช่วยพยุงผลกระทบทางเศรษฐกิจให้สามารถมีการขับเคลื่อนไปได้ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย