จับตา มาตรการรัฐกระตุ้นดัชนีหุ้นไทย???


กรุงเทพฯ 7 มี.ค.-จับตา ที่ประชุม ค.ร.ม. จะผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือ Covid-19  อย่างไร  กสิกรไทย คาดเงินบาทเคลื่อนไหว 31.20-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,355 และ 1,335 จุด แนวต้าน 1,380 และ 1,400 จุด


บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด  รายงาน  ว่า ในสัปดาห์นี้ (2-6 มี.ค.)  แม้เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นปลายสัปดาห์ แต่ภาพรวมทั้งสัปดาห์ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด   เนื่องจากเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค) ประกอบกับมีปัจจัยกดดันในระหว่างสัปดาห์จากสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าและสามารถฟื้นตัวขึ้นได้บางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ร้อยละ0.50 แบบฉุกเฉินนอกรอบการประชุมตามวาระปกติ 

นอกจากนี้เงินบาทยังได้รับอานิสงส์จากแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับทิศทางก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ในวันศุกร์ (6 มี.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 31.56 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (28 ก.พ.)


ด้านดัชนีตลาดหุ้นไทยลดช่วงบวกปลายสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์นี้ ดัชนี SET ยังเพิ่มขึ้น ร้อยละ1.79 จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ระดับ 1,364.57 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 64,402.74 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ21.77 จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น ร้อยละ2.90 จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 269.34 จุด   

 

โดยหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ ก่อนจะดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา ขานรับการทยอยปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศต่างๆ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงการเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพื่อลดผลกระทบของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ลดช่วงบวกลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจีนมีสัญญาณรุนแรงมากขึ้น ซึ่งกระตุ้นความกังวลต่อการชะลอตัวของทั้งเศรษฐกิจโลกและไทย

สัปดาห์ถัดไป (9-13 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.20-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ  บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,355 และ 1,335 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,380 และ 1,400 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ครม. และสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ.ของจีน -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่