BIG STORY : ผลกระทบหลัง “ผีน้อย” โผล่ท่องเที่ยวเกาะภูเก็ต เกาะพีพี

กระบี่ 6 มี.ค. – หลังโลกโซเชียลแห่แชร์ภาพและข้อมูลผีน้อยไม่ยอมกักตัวเองหลังจากเดินทางกลับจากเกาหลีใต้แต่ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในภูเก็ตและกระบี่ ไม่เพียงสร้างความรู้สึกวิตกกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเกรงว่าจะมีการติดเชื้อโควิด-19 แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วย


ภาพกล้องวงจรปิดจากโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพีพี จ.กระบี่ แสดงให้เห็นแรงงานสาวไทยที่เพิ่งกลับจากเกาหลีใต้ และมาท่องเที่ยวพร้อมกลุ่มเพื่อนบนเกาะพีพีเมื่อวานนี้ หญิงสาวรายนี้ได้โพสต์เฟซบุ๊กเช็กอินตามจุดต่างๆ ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวทั้งบนเรือ ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก


ขณะที่หญิงสาวอีกรายซึ่งโลกโซเชียลแชร์กันอย่างกว้างขวาง หลังเธอโพสต์เฟซบุ๊กว่าเพิ่งเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ และเดินทางมาท่องเที่ยวเยี่ยมครอบครัวที่ภูเก็ตต่อในทันที เธอพร้อมกับครอบครัวซึ่งมีเด็กเล็กรวมอยู่ด้วย ได้ไปรับประทานอาหารหลายแห่งในภูเก็ต จนสร้างความหวาดกลัวและวิตกกังวลต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ทราบข่าว เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมของหญิงสาวทั้งสองรายนี้อย่างกว้างขวาง 


เจ้าหน้าที่จากกองสาธารณสุข เทศบาลนครภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วบริเวณร้านอาหารแห่งนี้ หลังเจ้าของร้านตัดสินใจหยุดให้บริการเป็นเวลา 3 วัน เพื่อทำความสะอาดร้าน ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังผีน้อยมาใช้บริการ 

นายปรเมษ สุขสมัย เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้บอกว่า ร้านอาหารเพิ่งเปิดกิจการมาได้ราว 1 เดือนแต่ละวันมีลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวไทย มาใช้บริการเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่าพันคน หลังทราบข่าวผีน้อยมาใช้บริการที่ร้าน ทางร้านตัดสินใจปิดให้บริการทันที เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า และพนักงาน แม้ว่าทางร้านจะต้องสูญเสียรายได้ไปไม่น้อย พร้อมฝากถึงผีน้อยรายอื่นๆ ควรมีจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อส่วนรวมให้มากกว่านี้ 

ขณะที่ผู้ประกอบการร้านค้าย่านถนนถลาง และผู้ให้บริการรถตุ๊กตุ๊ก ยอมรับว่า การปรากฏตัวของผีน้อยที่กลับจากเกาหลีใต้ในเมืองท่องเที่ยวทั้งภูเก็ตและเกาะพีพี กระบี่ เสมือนเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ท่องเที่ยวที่เลวร้ายอยู่แล้วของผู้ประกอบการให้เลวร้ายหนักลงไปอีก เพราะอาจเป็นปัจจัยให้นักท่องเที่ยวไทยที่อยากพาครอบครัวมาพักผ่อนในช่วงปิดเทอมแทนการเดินทางไปต่างประเทศ ไม่กล้ามาเที่ยว เพราะวิตกกังวลต่อความปลอดภัยและการแพร่เชื้อโควิด-19 วอนผีน้อยกักตัวเองอย่างน้อย 14 วัน ตามมาตรการที่รัฐกำหนด เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ครอบครัวที่รัก รวมถึงสังคมด้วย 

การออกมาท่องเที่ยวและใช้ชีวิตตามปกติของหญิงสาวทั้งสองราย ทั้งที่เพิ่งกลับจากเกาหลีใต้ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง โดยไม่คำนึงว่าการกระทำจะผลกระทบต่อผู้อื่นอย่างไร สะท้อนให้เห็นถึงการขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ต้องติดตามต่อไปว่าเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดในการดำเนินการกับการกระทำของคนกลุ่มนี้อย่างไร มีข้อมูลว่าจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่จากทางในภูเก็ตและกระบี่ ยังไม่สามารถติดตามตัวพี่น้อยทั้งสองรายนี้ได้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง เล็งออกมาตรการช่วยผู้สูงอายุ

นายกฯ เป็นประธานประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก เผยจีดีพีรวม 3 ไตรมาส 2.3% ฟื้นตัวต่อเนื่อง เล็งออกมาตรการช่วยกลุ่มผู้สูงอายุต่อไป

นายกฯคุยทรัมป์

“แพทองธาร” นายกฯ สนทนาทางโทรศัพท์กับ “โดนัลด์ ทรัมป์”

“แพทองธาร” นายกฯ สนทนาทางโทรศัพท์ กับ “โดนัลด์ ทรัมป์” แสดงความยินดีชนะเลือกตั้งยืนยัน ประเทศไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ ด้าน “ทรัมป์” ชื่นชม นายกฯ

ศาลยกฟ้อง “ชัยวัฒน์” คดีอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ฟ้องปมจับส่วย

ศาลยกฟ้อง “ชัยวัฒน์” ไม่ผิดคดี “รัชฎา” อดีตอธิบดีกรมอุทยาน ฟ้องแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งรับโทษ ปมรับส่วย 9.8 หมื่นบาท ชี้เป็นการแจ้งข้อมูลข้อเท็จจริงไม่ได้แต่งเติม