นายกฯประชุมหามาตรการรองรับ“ผีน้อย” พรุ่งนี้

ทำเนียบรัฐบาล 3 มี.ค.-นายกฯเผย ที่ประชุมครม.ออกมติป้องกันโรคโควิด-19 ครอบคลุมทุกด้าน ของดจัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก ให้ท้องถิ่นผลิตหน้ากากอนามัยผ้าแทนแบบใช้แล้วทิ้ง เพิ่มผลผลิต สร้างรายได้ชุมชน เตรียมประชุมหามาตรการรองรับกรณี “ผีน้อย” ที่จะกลับมาจำนวนมาก 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับมาตรการดูแลประชาชนขณะที่ไวรัสโควิด- 19 ยังแพร่ระบาดว่า วันนี้(3 มี.ค.) ได้สั่งการโดยออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทั้งมาตรการเร่งด่วนด้านการป้องกันโรคและสุขภาพ มาตรการบรรเทาผลกระทบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวกับการควบคุมโรคและการสังเกตุอาการระหว่างกักตัว ซึ่งแต่ละขั้นตอนจะมีระเบียบวิธีปฏิบัติ โดยจะประกาศให้ประชาชนทราบและนำไปปฏิบัติ เพื่อให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน

“มาตรการที่ออกมาจะครอบคลุมเรื่องการศึกษาดูงาน การสังเกตุอาการเมื่อมีการกักตัว ถ้าพบเชื้อต้องทำอย่างไร ไม่มีอะไรทำได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซนต์ แต่การจัดกิจกรรมที่จะมีคนจำนวนมากไปร่วม ทั้งการขายสินค้าต่าง ๆ การประชุม การท่องเที่ยว และการกีฬา ขอให้เลื่อนทั้งหมด ขอฝากทุกคนที่จะไปร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก ๆ  อะไรเลี่ยงได้ ขอให้เลี่ยงไปก่อน หรือถ้าจำเป็นต้องจัดงาน เจ้าของงานก็ต้องมีมาตรการดูแลสถานที่ ปัญหาของประเทศคือเรามีคนหลายกลุ่ม หลายกิจกรรมที่ต้องดู บางอย่างรัฐบาลเข้าไปควบคุมไม่ได้ สิ่งสำคัญคือสุขภาพของคนไทยต้องเป็นหลัก ” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย  ว่า พรุ่งนี้(4 มี.ค.) จะประชุมหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องว่าจะมีมาตรการอย่างไร โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ว่าถ้าจะกักตัวทั้งหมดจะต้องทำอย่างไร เนื่องจากผู้ที่เดินทางกลับมาไม่ใช่หลักร้อย แต่มีหลายพันและอาจถึงหมื่นคน จึงต้องดูด้วยว่าประเทศต้นทางจะให้กลับมาจำนวนเท่าใด

“เขามีมาตรการป้องกันโดยการกัก 14 วันแล้ว ถ้ากลับมาเราจะกักอีก 14 วันทั้งหมดหรือจะทำอย่างไร จะกักบางส่วนที่มีอาการหรือไม่ ต้องหามาตรการที่เหมาะสม ผมรู้ว่าประชาชนยังไม่ค่อยมั่นใจเพราะกลัว สังคมจึงต้องช่วยกันทำความเข้าใจว่าโรคนี้ติดต่อกันได้อย่างไร ไม่ใช่แก้ไขไม่ได้ เราหวังผลอะไรไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของไวรัสที่อุบัติใหม่ แต่ความพร้อมเรื่องสาธารณสุข ยาที่ผลิตเองในประเทศไทย เรามีบ้างแล้ว แต่ก็ต้องทดลองใช้ต่อไปเหมือนประเทศจีน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีหน้ากากอนามัยขาดแคลน ว่า ได้คุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าจะหาทางออกอย่างไร เนื่องจากกำลังผลิตในประเทศทั้งหมดมีทั้งสิ้น 11 โรงงาน สามารถผลิตได้ 30 ล้านชิ้นต่อเดือน เฉลี่ย 1 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งรัฐบาลเร่งกำลังผลิตให้ได้มากขึ้น เพราะในจำนวน 1 ล้านชิ้น ส่วนหนึ่งจะต้องจัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุขใช้ในสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 350,000 ชิ้นต่อวัน ที่เหลือจึงจะแบ่งไปจำหน่าย ฃ


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูการกระจายสินค้าให้ทั่วถึง ทั้งร้านสะดวกซื้อ  ร้านประชารัฐธงฟ้าและจำหน่ายในท้องถิ่น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ประจำทุกโรงงาน เพื่อควบคุมการแจกจ่ายและป้องกันการกักตุน เนื่องจากขณะนี้หน้ากากเป็นที่ต้องการของต่างประเทศด้วย ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้น และขอเตือนไม่ว่าจะเป็นร้านค้าทั่วไปหรือออนไลน์ หากพบการหลอกลวงจะดำเนินคดี

“รัฐบาลจะจัดทำหน้ากากทางเลือก โดยกระทรวงสาธารณสุขรับประกันว่าสามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจากการไอได้ เป็นหน้ากากอนามัยผ้า จะเร่งผลิต 1 วันให้ได้ 50 ล้านชิ้นแจกจ่ายให้ถึงมือประชาชน โดยให้ชุมชนและท้องถิ่นเป็นผู้ผลิตเพื่อให้เกิดรายได้ในชุมชน ซึ่งหน้ากากผ้าสามารถนำมาใช้สลับหน้ากากที่ใช้แล้วทิ้งได้ เนื่องจากมีความเป็นห่วงเรื่องการทิ้งหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะที่พบการนำไปทิ้งในคูคลอง ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากทำความเข้าใจ เรื่องวัถุดิบที่นำมาผลิตหน้ากากอยามัยที่โรงงานต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ อาทิ จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย ซึ่งแต่ละประเทศมีความต้องการสูงเช่นกัน ทำให้หาวัตถุดิบได้ยาก ดังนั้น การใช้หน้ากากผ้าจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนช่วยกันได้ เพราะถ้าเราไม่ช่วยกัน และการแพร่ระบาดเข้าสู่ระยะ 3 ทุกคนจะลำบากกันหมด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเตรียมมาตรการดำเนินกดารไว้ล่วงหน้าแล้ว       

ส่วนการกักตัวในบ้านพัก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะใช้มาตรการทางสังคมโดยให้ท้องถิ่นรับผิดชอบ เช่น การขึ้นรายชื่อบนบอร์ดและตรวจสอบรายงานทุกวัน ถ้าพบอาการต้องสงสัยให้ส่งโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลที่รับผิดชอบการรักษาโดยตรงอีกทอดหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]