6 รมต.ผ่านฉลุยญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

รัฐสภา 28 ก.ย.- สภาฯ ลงมติไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน “พล.อ.ประวิตร” มีคะแนนนำโด่ง ขณะที่ “ร.อ.ธรรมนัส” คะแนนน้อยที่สุดตามคาด


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (28 ก.พ.) มี นายชวนหลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อลงมติญัตติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หลังจากอภิปรายมา 4 วัน  ซึ่งที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับญัตติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลทั้ง 6 คน โดยให้ความไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนน 272 ต่อ 49 เสียง งดออกเสียง 2   พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนน 277 ต่อ 50 เสียงงดออกเสียง 2 เสียง

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนน 272 ต่อ 54 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง  พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้วยคะแนน 272 ต่อ 54 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้คะแนน  272 ต่อ 55 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วยคะแนน 269 ต่อ 55 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงการลงคะแนน ร.อ.ธรรมนัส มีอาการลุ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงกับยกมือขึ้นพนม ขณะที่ นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร มีสีหน้ายิ้มแย้ม 

จากนั้น นายชวนได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงผลการทำงานในสมัยประชุมนี้ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2563 มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 32 ครั้งประชุมร่วมรัฐสภา 2 ครั้ง ร่างพระราชบัญญัติได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา 3 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ 3 ฉบับรอการบรรจุระเบียบวาระ 14 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาให้คำรับรองจากนายกรัฐมนตรี 21 ฉบับ เนื่องจากเป็นพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการเงิน 


ร่างพระราชบัญญัติที่เข้าชื่อโดยประชาชน ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการเงินอยู่ระหว่างการรอการอนุมัติอีก 2 ฉบับ อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ 7 ฉบับ พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 1 เรื่อง ญัตติที่เสนอโดยสมาชิก 125 ญัตติ ส่งรัฐบาลรับไปดำเนินการ 9 ฉบับ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ 98 เรื่อง ส่งสภา 1 เรื่อง แล้วเห็นชอบหนังสือสัญญา 4 ฉบับ ร่างพระราชบัญญัติที่ตราขึ้นตามหมวด 16 เพื่อการปฏิรูปประเทศ 1 ฉบับ

จากนั้น ลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ปิดสมัยประชุมรัฐสภา 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเอกสารการลงมติของสมาชิก พบว่า 5 เสียง ที่ลงคะแนนไว้วางใจให้ พล.อ.ประวิตร ได้แก่ ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย 2 คน คือ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ  และ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร  ส.ส.จากพรรคเสรีรวมไทย 3 คน คือ นายวัชระ วังขนาย และ นายอำไพ กองมณี  และ น.ส.นราพร เพ็ชรจินดา   และพบว่า 5 ส.ส.จากพรรคเศรษฐกิจใหม่ งดออกเสียงให้กับ ร.อ.ธรรมนัส  แต่ลงมติไว้วางใจให้กับรัฐมนตรีคนอื่นทุกคน .- สำนักข่าวไทย         

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง