กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – TOP-GPSC มั่นใจธุรกิจไม่สะดุด ปรับตัวรับผลกระทบทั้งภัยแล้งและ Covid-19
แม้ปีนี้ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งและผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOPกล่าวว่า บริษัทติดตามสถานการณ์และร่วมกันวางแผนแก้ปัญหาในการปรับตัวให้เร็วที่สุด ซึ่งปีนี้กำลังกลั่นจะเต็มที่แม้ความต้องการกลุ่มดีเซล น้ำมันเครื่องบินจะชะลอตัวบ้าง ประกอบกับขณะนี้ตลาดกำลังเข้าหาสมดุลจากที่ข้อกำหนดขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่กำหนดให้เรือเดินสมุทรใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ 0.5% จากเดิม 3.5% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 นั้น ซึ่งช่วงก่อนข้อกำหนดมีผลบังคับใช้ ตลาดมีการสตอกน้ำมัน สตอกน้ำมันเตากำมะถันต่ำในปริมาณที่มาก แต่ขณะนี้สตอกลดลงความต้องการน้ำมันกำมะถันต่ำก็จะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ โรงกลั่นไทยออยล์มีความยืดหยุ่นสูง จึงปรับตัวตามตลาด โดยกำลังดูว่าสามารถนำน้ำมันดิบจากตลาดสหรัฐ แอฟริกาเหนือ ซึ่งมีกำมะถันต่ำมาผสมกลั่นเพิ่มได้หรือไม่ และในส่วนของผลิตภัณฑ์ เมื่อความต้องการกลุ่มดีเซลช่วงนี้ชะลอตัวก็จะปรับไปผลิตผลิตภัณฑ์อื่น ๆ แทนอย่างไร เช่น น้ำมันเรือ ยางมะตอย หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งไทยออยล์เป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพที่ดีก็ต้องปรับตัวให้ดีที่สุด
“ปีที่แล้ว Shut down ซ่อมบำรุงรอบใหญ่สุดกำลังกลั่นลดลงไปอยู่ที่กว่าร้อยละ 90 ปีนี้กลั่นเต็มที่แน่นอน แต่จะผลิตภัณฑ์ไหน ก็ต้องดูมาร์จินเป็นหลัก ส่วนเรื่องน้ำ ได้ให้ความร่วมมือภาครัฐในการลดการใช้น้ำ และมีการกลั่นน้ำเค็มมาเป็นน้ำจืด และวางแผนสำรองไม่ให้เกิดผลกระทบ” นายวิรัตน์ กล่าว
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC บริษัทได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และได้เตรียมมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงมั่นใจว่าโรงไฟฟ้าของบริษัทจะสามารถดำเนินงานและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง และส่วนหนึ่งบริษัทก็ได้มีการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล แม้ต้นทุนจะสูงบ้างก็ตาม.-สำนักข่าวไทย