สธ.19 ก.พ.-สบส.ห่วงขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ อาจโยงขบวนการหิ้วอสุจิ และค้ามนุษย์ แจงสถานพยาบาลเอี่ยวมี 4 โรงพยาบาล 5 คลินิก
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการกวาดล้างขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ ว่า จากการตรวจสอบสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้อง รวม 9 แห่ง แบ่งเป็นคลินิก 5 แห่ง โรงพยาบาล 4 แห่ง ในจำนวนนี้ 6 แห่งได้รับอนุญาตให้สามารถใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ หรือทำอุ้มบุญได้ แต่ 3 แห่งไม่ได้รับอนุญาต และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจผลการตั้งครรภ์ของหญิงทั้ง 7 คนว่า มีการตั้งครรภ์หรือไม่ และตรวจดีเอ็นเอของเด็กที่เจอในที่เกิดเหตุว่ามีดีเอ็นเอ ตรงกับหญิงที่ตั้งครรภ์หรือไม่ เพื่อดูว่าหากไม่ตรงเท่ากับเป็นการรับจ้าง อุ้มบุญ
นพ.ธเรศ กล่าวว่า ขณะเดียวกันในที่เกิดเหตุ พบยากระตุ้นฮอร์โมนที่ผิดกฎหมายทั้งแผนปัจจุบันและแผนโบราณ พร้อมพบเครื่องมือแพทย์ในการผสมไข่ มีโทษจำคุก 5ปี ปรับ 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ 2551 โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามยังได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากหญิงตั้งครรภ์ว่า มีแพทย์ 4 คนเกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ทพ.อาคม ประดิษฐ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า เชื่อว่ากระบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ มีหลากหลายวิธีด้วยกัน ทั้งนำตัวหญิงไปทำอุ้มบุญต่างประเทศ หรือทำในไทย และอาจมีการเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกระบวนการหิ้วอสุจิข้ามประเทศด้วย และประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ร่วมตรวจสอบ เพราะห่วงถึงเรื่องการค้ามนุษย์ เนื่องจากเรื่องนี้น่ากลัว การนำเด็กอุ้มบุญออกนอกประเทศอายุ 8ปีไปแล้วถือว่าอวัยวะมีความสมบูรณ์
ส่วนโทษตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ 2558 คือ 1.ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ขออนุญาตดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3. เป็นคนกลาง นายหน้า โดยเรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อเป็นการตอบแทนในการรับตั้งครรภ์แทน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ – สำนักข่าวไทย