หวั่นค่าไฟฟ้าเพิ่มจากนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – เวทีแสดงความเห็นแผนหลักพลังงานของประเทศ หวั่นค่าไฟฟ้าแพงจากโรงไฟฟ้าชุมชน 1,933 เมกะวัตต์ ไฟฟ้าล้นจากจีดีพีต่ำกว่าเป้าหมาย ด้านปลัดพลังงานเชื่อมั่นค่าไฟฟ้าอาจไม่แพงขึ้น หากนำเข้าแอลเอ็นจีราคาถูกมาผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ส่วนไอพีพีตามแผนพีดีพีฉบับปรุงหดเหลือ 6,900 เมกะวัตต์ 



วันนี้ (18 ก.พ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) จัดเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงแก้ไขแผนแม่บทพลังงานของประเทศระยะยาว 20 ปี (2561-2580) ซึ่งหนึ่งในแผนงาน คือ ปรับปรุงแผนไฟฟ้า (ร่างแผนพีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุง) ที่ปรับปรุงใหม่ หลังรัฐบาลกำหนดนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากปี 2563-2567 รวม 1,933 เมกะวัตต์ โดยยังคงปริมาณโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนไว้เช่นเดิมตลอดทั้งแผน 18,696 เมกะวัตต์ ซึ่งการกำหนดโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น เป็นการลดสัดส่วนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดแผน 10,000 เมกะวัตต์ เหลือเพียง 9,290 เมกะวัตต์ (เนื่องจากโครงการโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนที่กำหนดซื้อ 100 เมกะวัตต์/ปี เป็นเวลา 10 ปี ปรากฏว่า ปี 2562 มีการขายเข้าระบบจริงเพียง 3 เมกะวัตต์) ปรับเพิ่มเป้าหมายโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 69 เมกกะวัตต์ ปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน)  ชะลอโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐภาคใต้ ปีละ 60 เมกะวัตต์ จากปี 2564– 2565 ไปเป็นปี 2565–2566 เร่งรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลม จากเดิมปี 2577 มาเป็นปี 2565 ขณะที่รถไฟฟ้าหรืออีวีจะเข้ามามีบทบาทการใช้น้ำมันก็จะน้อยลง 


สำหรับแผนพีดีพี 2018 ฉบับปรับปรุงรวมกำลังผลิตไฟฟ้าจนถึงสิ้นปี 2580 ยังคงเท่าเดิมที่ 77,211 เมกะวัตต์ โดยจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่เข้าระบบ 56,431 เมกะวัตต์ ในส่วนนี้จะมีการรับซื้อโรงไฟฟ้าใหม่หรือทดแทนที่จะเป็นโรงไฟฟ้าไอพีพีลดลง จาก 8,300 เมกะวัตต์ เหลือ 6,900 เมกะวัตต์ (เนื่องจากมีการอนุมัติโรงไฟฟ้าภาคตะวันตกหินกองเข้าระบบไปแล้ว 1,400 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าถ่านหินลดลงจาก 1,740 เมกะวัตต์ เหลือ 1,200 เมกะวัตต์ (เนื่องจากโรงไฟฟ้าเอ็นพีเอสเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นก๊าซ) โรงไฟฟ้าความร้อนร่วมเพิ่มขึ้นจาก 13,156 เมกะวัตต์ เป็น 15,096 เมกะวัตต์ (เพิ่มจากเอ็นพีเอสและโรงฟ้าฟินกอง)  (ใส่ภาพกราฟฟิก เหตุผลปรับพีดีพี 2018  ) 


ขณะที่แผนก๊าซฯ นั้น ประเมินความต้องการใช้ปี 2580 อยู่ที่ 5,348 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 0.7 ต่อปี ซึ่งการผลิตก๊าซฯ ในประเทศเพิ่มขึ้นจากแผนเดิม เนื่องจากการประมูลแหล่งบงกช-เอราวัณเสร็จสิ้น ทำให้ความต้องการใช้แอลเอ็นจีลดลงจาก 34 ล้านตัน/ปี เหลือ 26 ล้านตัน/ปี อย่างไรก็ตาม จากแผนโครงสร้างพื้นฐานการนำเข้าแอลเอ็นจีที่อนุมัติไปแล้วและรองรับการนำเข้าใหม่ในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ ไทยจะมีคลังนำเข้ารวม 39.8 ล้านตัน/ปี จึงทำให้รัฐบาลเร่งทำแผนการนำเข้าเพื่อการส่งออกทั้งทางเรือและทางรถบรรทุกและรถไฟ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการจำหนายในภูมิภาคนี้ โดยคลังแอลเอ็นจีตามแผนจะมีทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วย คลังมาบตาพุด 11.5 ล้านตัน/ปี ,คลังหนองแฟบ 7.5 ล้านตัน/ปี ,คลังร่วมทุน ปตท.-กัลฟ์ ในโครงการมาบตาพุดระยะที่ 3 ปริมาณ 10.8 ล้านตัน/ปี ,คลังในภาคใต้ 5 ล้านตัน/ปี ( ใส่ภาพโครงสร้างพื้นฐานแอลเอ็นจี   )

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีดังกล่าวมีการแสดงความคิดเห็นหลากหลาย เช่น การมองสมมติฐานแผนพลังงานที่คำนวณจากเศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 3 ต่อปี เป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่ เพราะในช่วง 2 ปีนี้จีดีพีโตต่ำกว่าแผนค่อนข้างมาก การสนับสนุนโรงไฟฟ้าชุมชนทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าแพงขึ้นทั้งที่สำรองไฟฟ้าไทยสูงมากกว่าร้อยละ 30 การสร้างคลังแอลเอ็นจีมาบตาพุดระยะที่ 2 เป็นเรื่องที่จำเป็นหรือไม่ ขณะที่ความต้องการก๊าซฯ ไม่ได้สูงเหมือนในอดีต (ใส่กราฟฟิก ภาพเปรียบเทียบค่าไฟฟ้าขายปลีก )

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แม้นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนจะมีผลทำให้ค่าไฟฟ้าตามแผน 20 ปี เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.69 สตางค์/หน่วย เป็น 3.6672 บาท/หน่วย จากแผนเดิม 3.5903 บาท/หน่วย แต่เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศช่วยเศรษฐกิจฐานราก คาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนรวมกว่าแสนล้านบาท และช่วยให้เกิดการกระจายลงทุนมากกว่า 200 ชุมชน  อย่างไรก็ตาม จากราคาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจีตลาดโลกลดลงเหลือไม่ถึง 3 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู ขณะนี้ทางกระทรวงจึงมีแผนนำเข้ามาผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซอ่าวไทย ซึ่งมีราคาสูงกว่า ดังนั้น จึงอาจทำให้ค่าไฟฟ้าทั้งแผนไม่ปรับขึ้นตามคาด 

ส่วนการประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์นั้น จะมีการประกาศรับซื้อเดือนเมษายนนี้และประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ โดยโครงการเร่งด่วน หรือควิกวินจะมี 100 เมกะวัตต์ จะต้องเข้าระบบหรือซีโอดี ภายในปีนี้ และอีก 600 เมกะวัตต์ จะเข้าระบบปีหน้า หนึ่งในเหตุผลที่จะคัดเลือก คือ จะต้องสร้างประโยชน์ต่อชุมชนที่ชัดเจน

ขณะเดียวกันปีนี้โรงไฟฟ้าชุมชนจะนำร่องโดยรัฐวิสาหกิจรวม 4 โครงการ  ประกอบด้วย การร่วมดำเนินการของ กฟผ. 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าจากหญ้าเนเปีย จัดตั้งที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าชุมชนที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซชีวมวลจากข้าวโพด ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์  และโครงการของไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA ที่ จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส กำลังการผลิตรวม 6 เมกะวัตต์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ชนกัน 10 คันรวดทางลอดอุโมงค์แยกดาราสมุทร จ.ภูเก็ต

ภูเก็ต 23 ก.ย.-รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกเสาเข็มเบรกแตก พุ่งชนระเนระนาดในอุโมงค์ดาราสมุทร จ.ภูเก็ต รถเสียหาย 10 คัน บาดเจ็บ 4 คน คนไทย 3 คนและชาวมาเลเซีย 1 คน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2568 ศูนย์วิทยุพิทักษ์วิชิตได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันภายในอุโมงค์ทางลอดแยกดาราสมุทร ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต มีรถได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้บาดเจ็บ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบการจราจรติดขัดอย่างหนัก รถไม่สามารถผ่านอุโมงค์ได้ทั้ง 2 เลน เบื้องต้นตรวจสอบพบรถชนกันเสียหายรวม 10 คัน มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย อาการแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแล้ว ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า […]

ผลตรวจยืนยัน “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง โครงสร้างผิดปกติตั้งแต่เกิด

สุพรรณบุรี 23 ก.ย. – ทีมสัตวแพทย์สรุปผลตรวจ “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียแรกเกิดที่พลัดหลงจากแม่ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พบความผิดปกติทางโครงสร้างร่างกายตั้งแต่เกิด เร่งวางแผนการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าซึ่งร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตรวจสุขภาพ “น้องข้าวต้ม” อย่างละเอียด โดยผลมีดังนี้ สัตวแพทย์สรุปว่า “น้องข้าวต้ม” มีภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติตั้งแต่กำเนิดในลูกสัตว์ นอกจากนี้จากภาวะร่างกายที่อ่อนแอ จำเป็นต้องเอาตัวรอด รวมถึงความพยายามช่วยประคับประคองโดยฝูงทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้น เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ได้ฉีดยาลดปวดและลดอักเสบให้แล้ว พร้อมวางแผนรักษาตามอาการระยะยาว โดยเน้นการให้อาหารและเสริมโภชนาการควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกช้างป่าสามารถยืนและเคลื่อนไหวได้ในอนาคต หากอาการไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่คาด จะตรวจ X-ray และ Ultrasound ซ้ำอีกครั้ง ลำดับเหตุการณ์การช่วยเหลือลูกช้างป่าตัวนี้ • 21 ก.ย. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกช้างเพศเมียนอนอยู่เพียงลำพังในสภาพอ่อนแรงและบาดเจ็บที่ขาหลัง จึงรีบประสานทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้าช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายมาดูแลที่ทำการอุทยานฯ โดยเบื้องต้นได้ป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อให้พลังงาน […]

กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม

ก.ต่างประเทศ 23 ก.ย.- กต.ยันบังคับใช้กฎหมายไทยในดินแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน และปฏิบัติตามหลักสากล ใช้ตํารวจควบคุมฝูงชน ไม่ใช่กําลังทหาร จี้ “เขมร” หยุดปลุกระดม-บิดเบือนประชาคมโลก ส่งผลสัมพันธ์ร้าวลึก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการบังคับใช้กฎหมายไทยต่อพลเมืองกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงในบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยยืนยันว่า ไทยบังคับใช้กฎหมายภายในของไทยกับบุคคลที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือน ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวของฝ่ายไทยเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักอธิปไตยของรัฐและเป็นไปตามหลักสากลที่ทุกประเทศยอมรับ สําหรับกรณีที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทย จงใจบิดเบือนแผนผัง ที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตําแหน่ง หลักเขตแดนที่ 42 และ43 ว่าเป็นเขตแดนจริงนั้นขอเรียนยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่เคยระบุ แผนผังดังกล่าวกําหนด เส้นเขตแดนเพราะการเจรจาเส้นเขตแดนอยู่ภายใต้อาณัติ ของกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี ทั้งนี้แผนผังที่ไทยนําแสดงดังกล่าว เป็นเพียงการนําพิกัดหลักเขตแดน ไปทําภาพจําลองเส้นเขตแดน บนแผนที่แบบไม่เป็นทางการเท่านั้นเพื่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวถึง สําหรับข้อกล่าวหาที่กัมพูชาระบุว่าไทยละเมิดเอ็มโอยู 2543 ว่าด้วยการสํารวจและการจัดทําหลักเขตแดนทางบกนั้น กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาเองที่เป็นฝ่ายละเมิดโดยปล่อยให้มีการสร้างอาคาร บ้านเรือนชุมชนทั้งในเขต พื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และในเขต ขณะที่เป็นอธิปไตยของไทยซึ่งฝ่ายไทยได้ทําการประท้วงในกรอบเอ็มโอยูแล้วกว่า 500 ครั้ง ในห้วง 20ปีที่ผ่านมาแต่ฝ่ายกัมพูชากลับเพิกเฉยและไม่ยอมแก้ไข ส่วนกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยยุติกิจกรรม ที่บ่อนทําลายความพยายามลดความตึงเครียด ข้อตกลงหยุดยิงนั้น นายนิกรเดช กล่าวย้ำว่าประเทศไทยมุ่งมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง […]

ตร.จราจร นำส่งอวัยวะ ถูกรถพุ่งชน

23 ก.ย. – รถแท็กซี่พุ่งชนตำรวจจราจรขณะขี่จยย.นำส่งอวัยวะ บริเวณแยกสวนมิสกวัน กรุงเทพฯ ตำรวจบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา เปิดเผยว่าช่วงเที่ยงวานนี้เกิดเหตุผู้ขับรถแท็กซี่ ไม่ชะลอความเร็วเพื่อหยุดรถเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดง ประกอบกับมีขบวนรถของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริที่เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินขณะปฏิบัติภารกิจนำส่ง “ปอด” จากจังหวัดชลบุรี ไปยังโรงพยาบาลศิริราช ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบริเวณแยกสวนมิสกวัน กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ โชคดีรถแท็กซี่ไม่เฉี่ยวชนกับรถพยาบาลที่บรรทุกอวัยวะ จึงสามารถนำส่ง “ปอด” ให้ถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา จึงขอเน้นย้ำไปยังผู้ขับขี่ว่า “เมื่อเห็นสัญญาณไฟและเสียงไซเรน โปรดให้ทาง” ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เพื่อรักษากฎหมายและช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์.-สำนักข่าวไทย