เกษตรฯ เร่งสางปัญหาทุจริตใน กยท.

กรุงเทพฯ 11 ก.พ. – รมว.เกษตรฯ สั่งตรวจสอบข้อร้องเรียนการทุจริตใน กยท. ย้ำฟันไม่เลี้ยงทุกกรณี เร่งสางทั้งปัญหาภาคเอกชนค้างชำระหนี้ กยท. บริหารบริษัทร่วมทุนที่ยังมีปัญหายางค้างสตอก และการจัดซื้อปุ๋ยราคาสูงเกินจริง


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จะติดตามข้อร้องเรียนการทุจริตในการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ทุกกรณี โดยจะไม่ปล่อยให้ผู้กระผิดลอยนวล ตั้งแต่เข้ามากำกับดูแล กยท.มีกลุ่มเกษตรกรเรียกร้องให้ดำเนินการเรื่องการซื้อขายยางพาราระหว่าง กยท.กับบริษัท โอเรียนน่า เวิลด์ รับเบอร์ จำกัด ที่ยังค้างชำระหนี้ กยท.กว่า 94 ล้านบาท 


นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย  ระบุว่า หน่วยธุรกิจของ กยท. หรือบียู ซึ่งมีหน้าที่ซื้อยางชี้นำตลาดกลางเพื่อยกระดับราคายางแต่ละวันให้สูงขึ้นตามนโยบายรักษาเสถียรภาพราคายาง เมื่อซื้อแล้วต้องหาพันธมิตรขายยาง ซึ่งได้รับการแนะนำจากบริษัทเอเชีย รับเบอร์ (ประเทศไทย) ให้นำบริษัท โอเรียนน่า เวิลด์ รับเบอร์ เข้ามาเป็นคู่ค้า เพื่อรับซื้อยางพาราที่บียูประมูลมาได้ไปขายอีกทอดหนึ่ง

สำหรับกระบวนการซื้อขาย ก่อนที่ กยท.จะเข้าไปประมูลยางตลาดกลาง บียูจะติดต่อบริษัทคู่ค้าว่า สามารถรับซื้อยางราคาที่เข้าไปประมูลได้หรือไม่ หากคู่ค้ายินดีรับซื้อราคาดังกล่าว กยท.จะเข้าไปประมูลยางในตลาดกลาง เมื่อประมูลได้จะติดต่อบริษัทที่จะรับซื้อ ส่งใบสั่งซื้อแล้ว กยท.จึงส่งเอกสารยืนยันราคา พร้อมใบแจ้งหนี้ให้แก่บริษัทคู่ค้า จากนั้นส่งใบขนส่งสินค้าให้แก่สำนักงานตลาดกลางยางพาราที่ประมูลได้ ซึ่งพบว่าบริษัทคู่ค้าไม่ปฏิบัติตามสัญญา ทั้งนี้ กยท.มีใบแจ้งหนี้ 29 ฉบับ ซึ่งในสัญญาซื้อขายระะบุให้บริษัทชำระมัดจำล่วงหน้า 10% ในวันส่งมอบยาง ส่วนที่เหลือ 90% ต้องชำระภายใน 30 วัน หลังรับมอบยาง ที่ผ่านมา กยท.แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพบว่าบริษัทไม่ปฏิบัติตามสัญญา โดยชำระค่ายางมาเพียง 21 ล้านบาท จึงยังมีหนี้ค้างชำระสะสม 94 ล้านบาท 


ด้านนายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานบอร์ด กยท. ได้รับเรื่องเพื่อตรวจสอบเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563 โดยสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางฯ ตั้งข้อสังเกตว่า กยท.ละเลยทำให้มีการปฏิบัติผิดระเบียบซํ้า ๆ สัญญาถึง 29 ฉบับและชำระไม่ตรงตามสัญญา อีกทั้งก่อความเสียหายต่อเงินเงินที่เก็บจากการส่งออกยางและหักจากเกษตรกร 2 บาทต่อกิโลกรัม (Cess) ข้อร้องเรียนเรื่องทุจริตอีกประการ คือ การที่ กยท. ตั้งบริษัท ร่วมทุนยางพาราไทย จำกัด กับบริษัทผู้ค้ายางพาราใหญ่ 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) บริษัท เซาท์แลนด์รับเบอร์ บริษัท ไทยฮั้วยางพารา บริษัท วงศ์บัณฑิต และบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอเรชั่น ซึ่งออกทุนรายละ 200 ล้านบาท รวมทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านบาท ซึ่งบอร์ด กยท. ชุดก่อนพิจารณาแล้วเห็นว่าการไปร่วมลงทุนเป็นการปฏิบัติตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) 

ทั้งนี้ นายจิตติน วิเศษสมบัติ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กยท. (สร.กยท.) กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 มาตรา 65 การร่วมทุนตั้งบริษัทต้องให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะดำเนินการ ไม่ใช่แค่รับทราบ มองว่าเป็นความผิดของนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. ซึ่งต่อมามีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้นายธีธัช ไปปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ โดยยังไม่พ้นจากตำแหน่งเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นประการอื่น

ทั้งนี้ ประธานสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางฯ ระบุว่า ผลการพิจารณาของบอร์ด กยท. ชุดที่หมดวาระไปชี้ว่า นายธีธัช ไม่มีความผิดเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ควรตั้งคณะกรรมการกลางตรวจสอบ ไม่ใช่บอร์ด กยท. ตรวจสอบเอง เพราะไม่มีความชอบธรรม โดยเรื่องนี้พบความเสียหายชัดเจนจากที่ราคายางแผ่นรมควันช่วงก่อนประกาศขายยางเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2559 อยู่ที่กิโลกรัมละ 81 บาท ต่อมามีกระบวนการทุบราคายางจนตกต่ำลงมาก ทำให้ไม่สามารถขายยางได้ จึงยังคงมียางค้างในสตอก 310,000 ตัน ถือว่าเป็นการบริหารงานที่ล้มเหลว 

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ตรวจสอบการซื้อขายปุ๋ยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2560 ที่พบพิรุธว่ามีการทุจริตเนื่องจากการประกาศประมูลใช้ระยะเวลาเพียง 5 วัน โดยคร่อมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เหลือวันทำการเพียง 3 วัน ทำให้มีผู้ประมูลน้อย และผ่านคุณสมบัติปุ๋ยเคมี 5 ราย และปุ๋ยอินทรีย์ 6 ราย โดยผู้เข้าประมูลทั้งหมดชนะการประมูลทุกราย โดยปุ๋ยเคมีที่ประมูลได้ราคาสูงกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะปุ๋ยอินทรีย์ราคาแพงผิดปกติ ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใด กยท.จึงตั้งราคากลางสูงมาก ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประมูล โดยสมาคมสมาพันธ์ชาวสวนยางฯ ส่งหลักฐานกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตรวจสอบแล้ว แต่เรียกร้องให้รัฐมนตรีเกษตรฯ เร่งสางปัญหาที่เกิดขึ้นให้เกิดความโปร่งใส เพื่อเกษตรกรจะได้มั่นใจในการบริหารงานของ กยท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว