กรุงเทพฯ 4 ก.พ. – ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีขยายเวลายื่นแบบบุคคลธรรมดากระตุ้นเศรษฐกิจ หลังไวรัสโคโรนาทำเศรษฐกิจทรุด การท่องเที่ยวซบเซา พร้อมมาตรการอื่น ๆ คาดช่วยส่งเสริมการลงทุน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่ม
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการขยายเวลายื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ ภ.ง.ด. 90/91 ทั้งการยื่นภาษีแบบออนไลน์และการยื่นภาษีแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา จากเดิมจะสิ้นสุดภายในเดือนมีนาคมนี้ ออกไปอีก 3 เดือน เป็นสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2563 เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เสียภาษี และจะเป็นการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบในช่วงที่งบประมาณประจำปี 2563 มีความล่าช้า และเพื่อลดผลกระทบของผู้ยื่นภาษีบางส่วนที่จะต้องนำเงินมาชำระภาษีเพิ่มในปีนี้ได้ด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียภาษีที่ต้องการขอคืนภาษียังสามารถยื่นแบบชำระภาษีเข้ามาได้ตลอด โดยปีนี้ผู้ที่ยื่นภาษีเร็วก็จะได้ภาษีคืนเร็ว หากเอกสารครบถ้วน ซึ่งเวลานี้มีผู้ขอคืนภาษีเข้ามาแล้วกว่า 700,000 ราย และได้เงินคืนไปแล้วกว่า 500,000 ราย หรือ 73% ของผู้ที่ขอคืนทั้งหมด ซึ่งกรมสรรพากรใช้ระยะเวลาเฉลี่ยในการคืนภาษีประชาชนอยู่ที่ 3-7 วันเท่านั้น โดยเป็นการคืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์มากกว่า 90% เนื่องจากมีความสะดวกและรวดเร็วกว่า
สำหรับมาตรการภาษีอื่น ๆ ที่กรมสรรพากรจะนำมาใช้เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ได้แก่ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยว และจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่ให้กับบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำรายจ่ายที่เป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนา รวมทั้งรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่มัคคุเทศก์นำเที่ยว เพื่อการอบรมสัมมนาให้แก่ลูกจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้ 2 เท่า
นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังมีมาตรการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมทำการซ่อมแซม หรือปรับปรุงตัวอาคารให้ดีขึ้น โดยผู้ประกอบการสามารถนำรายจ่ายที่เกิดจากการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นของอาคาร มาหักรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 1.5 เท่า ของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริงได้อีกด้วย
“กรมสรรพากรเชื่อว่าการขยายเวลายื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมสิ้นสุดเดือนมีนาคม เป็นเดือนมิถุนายน 2563 จะช่วยให้ประชาชนมีเงินใช้จ่ายหมุนเวียนมากขึ้น อีกทั้งมาตรการภาษีต่าง ๆ ที่ออกมาช่วงนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการลงทุนภายในประเทศ และบรรเทาผลกระทบจากการท่องเที่ยวซบเซาปี 2563 ได้ โดยกรมสรรพากรยังมีแผนที่จะออกมาตรการภาษีด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก เช่น มาตรการสนับสนุนให้บริษัทเอกชนรับผู้พ้นโทษเข้าทำงาน ซึ่งจะช่วยเสริมทั้งด้านสังคมและตลาดแรงงานในประเทศที่ยังขาดแคลน โดยไม่ต้องพึ่งแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเป็นการสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อีกทางหนึ่ง” โฆษกกรมสรรพากร กล่าว.-สำนักข่าวไทย