เริ่มแล้ว Big Cleaning Week จิตอาสาสู้ไวรัสโคโรนา

สธ.4 ก.พ.-ปลัด สธ.เปิดกิจกรรม Big Cleaning Week จิตอาสาสู้ไวรัสโคโรนา เชิญชวนประชาชนร่วมทำความสะอาดสถานที่พร้อมกันทั่วประเทศเพื่อตัดวงจรการแพร่เชื้อ พร้อมให้โรงพยาบาลและสาธารณสุขจังหวัดให้ความรู้กับประชาชนในการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา





นพ.สุขุม  กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม “Big cleaning Week จิตอาสาสู้โคโรนาไวรัส” โดยมีผู้บริหาร จิตอาสาและเจ้าหน้าที่ทุกคน ร่วมทำความสะอาดสถานที่ทำงานทุกกรม


นพ.สุขุม ให้สัมภาษณ์ว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุขและกรมอนามัย จัด “Big cleaning Week” ทำความสะอาดสถานที่พร้อมกันทั่วประเทศภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อตัดวงจรแพร่เชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 สร้างความรอบรู้ประชาชน ปรับพฤติกรรมสุขอนามัยส่วนบุคคล ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” สวมหน้ากากอนามัย และทำความสะอาดบ้านเรือน สถานที่ทำงาน สถานที่สาธารณะ เครื่องมือเครื่องใช้ จุดที่ประชาชนสัมผัสร่วมกัน ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนและประชาชน ประสานการทำงานจิตอาสา ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น รณรงค์พร้อมกันทั่วประเทศ และให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านกว่า 1 ล้านคนลงพื้นที่ให้ความรู้ประชาชนตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป

นพ.สุขุมกล่าวต่อว่า เพื่อให้การขับเคลื่อน Big cleaning Week ไปในทิศทางเดียวกันและ บรรลุผล ในวันนี้ ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดและโรงพยาบาลทุกแห่ง ให้ความรู้และเชิญชวนทำความสะอาดอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งจัดกิจกรรม Big cleaning Week ในพื้นที่เป้าหมาย 7 แห่ง พร้อมกันทั่วประเทศ ได้แก่ 1.สถานที่ราชการ/สถานที่ทำงาน 2.ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ คนขับรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง 3.รถประจำทาง ขสมก./ รถร่วมบริการ/ รถตู้โดยสาร 4.รถไฟฟ้า MRT  BTS และ Airport Rail Link และการรถไฟแห่งประเทศไทย 5.ผู้ประกอบการร้านอาหาร 6.ผู้ประกอบการโรงแรม/ ผู้ประกอบการฟิตเนส และ7.ผู้ประกอบการปั๊มน้ำมัน

ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กิจกรรม Big cleaning Week ที่จัดขึ้น จะเน้นในสถานประกอบการ และยานพาหนะสาธารณะที่ให้บริการประชาชน จุดเสี่ยงแพร่เชื้อต่างๆ โดยใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาด หรือ 70% แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดยานพาหนะทุกเที่ยวหลังมีการให้บริการ เน้นการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ เช่น ที่จับบริเวณประตู ที่จับเหนือหัวผู้โดยสาร แฮนด์มอเตอร์ไซค์ เบาะนั่ง ที่เท้าแขน กระจกภายในรถ เป็นต้น ส่วนผู้ประกอบการโรงแรม ฟิสเนส และปั๊มน้ำมัน ให้ทำความสะอาดราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ ลูกบิดประตู โต๊ะอาหาร พนักเก้าอี้ ห้องพัก รวมถึงห้องน้ำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ พร้อมกันนี้ รณรงค์ให้คนขับรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถร่วมบริการ รถตู้โดยสาร สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อและหมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำและสบู่บ่อยๆ รวมทั้งขอให้สถานที่ประกอบการต่างๆ จัดเตรียมหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจลไว้บริการด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง