นายกฯ ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น

ทำเนียบ 3 ก.พ.-นายกรัฐมนตรี เผย “ในหลวง” ทรงห่วงคนไทยและคนจีนในฐานะมิตรประเทศ รับมือไวรัสโคโรนา ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจเตรียมการพร้อมรับคนกลับ ดูแลช่วงระยะฟักตัว 14 วัน ระบุ สิ่งอันตราย คือ โรคตื่นตระหนก เตรียมคาดโทษรัฐมนตรี -ผู้ว่าฯ หากแก้ปัญหาที่ต้นตอไม่ได้ จะพิจารณาการทำงาน ยอมรับเหนื่อย แต่ไม่ลาออก


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการระดับชาติแก้ปัญหาไวรัสโคโรนา และ แก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ว่า ทั้งสองเรื่องยังไม่ถึงขั้นตอนที่ต้องใช้อำนาจรัฐมนตรีเต็มรูปแบบ โดยในเรื่องของไวรัสโคโรนา ยังอยู่ในระดับป้องกันการแพร่กระจายในประเทศ รวมถึงการเตรียมมาตรการในการรับกลับ และป้องกันการแพร่กระจาย ในการรับกลับ ซึ่งไทยสามารถตั้งรับได้เป็นอย่างดี จนได้รับคำชมเชย โดยทูตที่มาพบบางคนอยากใช้ประสบการณ์ในการป้องกันโรคอุบัติใหม่ของไทยเป็นต้นแบบ เพราะไทยเป็น 1 ใน 6 ประเทศของโลกสามารถรับมือกับโรคอุบัติใหม่ได้เป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา และย้ำว่าสิ่งสำคัญคือประชาชนต้องตื่นตระหนก ดูแลสุขภาพตนเองให้ดีที่สุดส่วนรัฐบาลจะดูแลขั้นพื้นฐานในพื้นที่สาธารณะ รวมไปถึงการคัดกรองในสนามบิน ตามแนวชายแดน โดยอาศัยความร่วมมือ พลเรือน ตำรวจ ทหาร อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขได้มีการติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้ขอความร่วมมือรณรงค์ สถานที่ท่องเที่ยว ให้มีการรณรงค์ใส่หน้ากากอนามัย และย้ำว่าหากประชาชนพบตัวเองป่วยก็ให้รีบไปหาหมอ เฝ้าดูอาการโรคนี้ ที่มีระยะฟักตัว 14 วัน รวมไปถึงกรณีที่จะไปรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่น ก็ต้องอยู่ในระยะกักตัว 14 วัน เช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนที่จะรับกลับมาต้องผ่านการคัดกรองจากทางการจีน  และขอให้มั่นใจกับมาตรการของไทย ในการดูแลและรับมือ โดยหลังเหตุการณ์นี้ยุติแล้ว ก็จะมีการประชุมสรุปผลการทำงานอีกครั้ง เพราะไทยถือเป็นผู้นำด้านโรคอุบัติใหม่ และต้องเข้มงวดตามสถานการณ์ ที่เกิดขึ้น เพราะสถานเปลี่ยนแปลงได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ก็ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ดังนั้นต้องเตรียมไว้เผื่อเหลือ เผื่อขาด 

นายกรัฐมนครี ยังกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้ คือ โรคตื่นตระหนกโดยขอเตือนการนำเสนอข่าว ให้ระมัดระวัง ควรให้เครดิต ชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงาน เพื่อมีกำลังใจในการทำงาน ซึ่งหากตื่นตระหนกมาไป ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จะยิ่งบานปลาย ยืนยันว่ารัฐบาาลไม่เคยปิดปังข้อมูลทั้งหมด และไม่พบผู้เสียชีวิตในประเทศไทย สามารถควบคุมได้ รักษาพยาบาลจนหายเป็นปกติได้ และขออย่าไปสร้างความตื่นตระหนกทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา ส่วนการติดตามสถานการณ์ ขอให้รับฟังขอมูลจากการแถลงข่าวของคณะกรรมการเท่านั้น พร้อมยืนยันอีกว่า การร้องเรียนเรื่องหน้ากากอนามัยแพง จากการตรวจสอบทางกระทรวงพาณิชย์ก็มีรายงานไม่แพงจนเกินไป ส่วนที่รัฐบาลจะแจกจ่ายให้ประชาชนก็พร้อม 


นายกรัฐมนตรั ยังรู้สึกเสียใจ ที่มีบางกลุ่มหยิบเรื่องนี้ไปขับเคลื่อนทางการเมือง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ของประเทศเลย  

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่าทางรัฐบาลได้ดำเนินการช่วยเหลือไปยังทางการจีน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชนทั้งคนไทย และคนจีน ซึ่งได้ดำเนินการช่วยเหลือผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงผลการแก้ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 ว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นข้อมูล และข้อมูลที่ได้มาก็นำมาแก้ไข แต่ยอมรับว่าการแก้ปัญหาบางอย่างต้องใช้เวลาระยะยาว เช่น แผนการก่อสร้างรถไฟฟ้า แทนการใช้รถบนถนน การยกเลิกใช้รถเก่า เป็นต้น ซึ่งปัญหาฝุ่นมาจาก การก่อสร้างและการจราจร จึงได้สั่งการแก้ปัญหาไปแล้ว ว่าต้องเข้มงวดขึ้น แต่ประชาชนต้องไม่เดือดร้อน ทั้งนี้การแก้ปัญหาต้องใช้เวลา 


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยไม่ใช่แก้ปัญหาแค่เรื่องไวรัส และค่าฝุ่น PM 2.5 เท่านั้น ยังมีอีกหลายโรค ที่ต้องดูโดยเฉพาะปัญหาเรื่องทั้ง เฟคนิวส์ เฮดสปีช ซึ่งได้สั่งการเจ้าหน้าที่สืบหหาต้นตอ ดำเนินคดี ให้ได้ แม้จะเป็นปัญหาข้ามชาติ แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ได้ เพราะฉะนั้นขอเตือนโซเซียลต่างๆ อย่าทำผิดกฎหมาย ทุกกรณี วันนี้ยังได้ย้ำเตือนไปยัง ผู้ว่าฯทุกจังหวัด ทุกกระททรวง ทุกรัฐมนตรี จะต้องรับผิดชอบทุกเรื่องในการแก้ปัญหาเหล่านี้ ให้ได้รับผลสำฤทธิ์เร็วที่สุด ต่อไปนี้หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นตอได้ ตนเองจะพิจารณาความเหมาะสมในการทำงานของทุกคน เพราะรัฐบาลทำงานไม่โทษประชาชน แต่อยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาล โดยร่วมมือกันแก้ปัญหา รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ทุกอย่าง เพราะเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ แต่ทุกคนต้องรู้จักป้องกันตนเอง ทั้งปัญหาไฟป่า การเผา และอย่าสร้างข้อมูลที่ขัดแย้งกันไปมา พร้อมฝากด้วยว่าจะเผาอะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าเผาบ้านเมืองของท่าน ด้วยการใช้เฟคนิวส์ ซึ่งตนเองไม่เผาเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้มาตรการที่ดำเนินการทั้งหมด ได้สั่งการให้รายงานมายัง ศูนย์ปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือ พีมอค รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง  

นายกรัฐมนตรี ยังขอร้อง บรรดานักพูด นักเกรียน ทั้งหลายว่ามันเท่ตรงไหนที่คอยเขียนคำพูดสร้างความเกลียดชัง สร้างความเข้าใจผิด หากถูกดำเนินคดีขออย่ามาโวยวายซึ่งเป็นการบังคับใช้กฎหมายตามปกติ ไม่ได้เป็นการใช้อำนาจเผด็จการอะไร ขอทุกคนเข้าใจ เหนื่อย แต่ไม่ลาออก.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]