นายกฯ ยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น

ทำเนียบ 3 ก.พ.-นายกรัฐมนตรี เผย “ในหลวง” ทรงห่วงคนไทยและคนจีนในฐานะมิตรประเทศ รับมือไวรัสโคโรนา ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจเตรียมการพร้อมรับคนกลับ ดูแลช่วงระยะฟักตัว 14 วัน ระบุ สิ่งอันตราย คือ โรคตื่นตระหนก เตรียมคาดโทษรัฐมนตรี -ผู้ว่าฯ หากแก้ปัญหาที่ต้นตอไม่ได้ จะพิจารณาการทำงาน ยอมรับเหนื่อย แต่ไม่ลาออก


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการระดับชาติแก้ปัญหาไวรัสโคโรนา และ แก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ว่า ทั้งสองเรื่องยังไม่ถึงขั้นตอนที่ต้องใช้อำนาจรัฐมนตรีเต็มรูปแบบ โดยในเรื่องของไวรัสโคโรนา ยังอยู่ในระดับป้องกันการแพร่กระจายในประเทศ รวมถึงการเตรียมมาตรการในการรับกลับ และป้องกันการแพร่กระจาย ในการรับกลับ ซึ่งไทยสามารถตั้งรับได้เป็นอย่างดี จนได้รับคำชมเชย โดยทูตที่มาพบบางคนอยากใช้ประสบการณ์ในการป้องกันโรคอุบัติใหม่ของไทยเป็นต้นแบบ เพราะไทยเป็น 1 ใน 6 ประเทศของโลกสามารถรับมือกับโรคอุบัติใหม่ได้เป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา และย้ำว่าสิ่งสำคัญคือประชาชนต้องตื่นตระหนก ดูแลสุขภาพตนเองให้ดีที่สุดส่วนรัฐบาลจะดูแลขั้นพื้นฐานในพื้นที่สาธารณะ รวมไปถึงการคัดกรองในสนามบิน ตามแนวชายแดน โดยอาศัยความร่วมมือ พลเรือน ตำรวจ ทหาร อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขได้มีการติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งได้ขอความร่วมมือรณรงค์ สถานที่ท่องเที่ยว ให้มีการรณรงค์ใส่หน้ากากอนามัย และย้ำว่าหากประชาชนพบตัวเองป่วยก็ให้รีบไปหาหมอ เฝ้าดูอาการโรคนี้ ที่มีระยะฟักตัว 14 วัน รวมไปถึงกรณีที่จะไปรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่น ก็ต้องอยู่ในระยะกักตัว 14 วัน เช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนที่จะรับกลับมาต้องผ่านการคัดกรองจากทางการจีน  และขอให้มั่นใจกับมาตรการของไทย ในการดูแลและรับมือ โดยหลังเหตุการณ์นี้ยุติแล้ว ก็จะมีการประชุมสรุปผลการทำงานอีกครั้ง เพราะไทยถือเป็นผู้นำด้านโรคอุบัติใหม่ และต้องเข้มงวดตามสถานการณ์ ที่เกิดขึ้น เพราะสถานเปลี่ยนแปลงได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น ก็ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้น ดังนั้นต้องเตรียมไว้เผื่อเหลือ เผื่อขาด 

นายกรัฐมนครี ยังกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้ คือ โรคตื่นตระหนกโดยขอเตือนการนำเสนอข่าว ให้ระมัดระวัง ควรให้เครดิต ชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงาน เพื่อมีกำลังใจในการทำงาน ซึ่งหากตื่นตระหนกมาไป ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จะยิ่งบานปลาย ยืนยันว่ารัฐบาาลไม่เคยปิดปังข้อมูลทั้งหมด และไม่พบผู้เสียชีวิตในประเทศไทย สามารถควบคุมได้ รักษาพยาบาลจนหายเป็นปกติได้ และขออย่าไปสร้างความตื่นตระหนกทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา ส่วนการติดตามสถานการณ์ ขอให้รับฟังขอมูลจากการแถลงข่าวของคณะกรรมการเท่านั้น พร้อมยืนยันอีกว่า การร้องเรียนเรื่องหน้ากากอนามัยแพง จากการตรวจสอบทางกระทรวงพาณิชย์ก็มีรายงานไม่แพงจนเกินไป ส่วนที่รัฐบาลจะแจกจ่ายให้ประชาชนก็พร้อม 


นายกรัฐมนตรั ยังรู้สึกเสียใจ ที่มีบางกลุ่มหยิบเรื่องนี้ไปขับเคลื่อนทางการเมือง ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ของประเทศเลย  

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่าทางรัฐบาลได้ดำเนินการช่วยเหลือไปยังทางการจีน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชนทั้งคนไทย และคนจีน ซึ่งได้ดำเนินการช่วยเหลือผ่านกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงผลการแก้ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 ว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นข้อมูล และข้อมูลที่ได้มาก็นำมาแก้ไข แต่ยอมรับว่าการแก้ปัญหาบางอย่างต้องใช้เวลาระยะยาว เช่น แผนการก่อสร้างรถไฟฟ้า แทนการใช้รถบนถนน การยกเลิกใช้รถเก่า เป็นต้น ซึ่งปัญหาฝุ่นมาจาก การก่อสร้างและการจราจร จึงได้สั่งการแก้ปัญหาไปแล้ว ว่าต้องเข้มงวดขึ้น แต่ประชาชนต้องไม่เดือดร้อน ทั้งนี้การแก้ปัญหาต้องใช้เวลา 


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยไม่ใช่แก้ปัญหาแค่เรื่องไวรัส และค่าฝุ่น PM 2.5 เท่านั้น ยังมีอีกหลายโรค ที่ต้องดูโดยเฉพาะปัญหาเรื่องทั้ง เฟคนิวส์ เฮดสปีช ซึ่งได้สั่งการเจ้าหน้าที่สืบหหาต้นตอ ดำเนินคดี ให้ได้ แม้จะเป็นปัญหาข้ามชาติ แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ได้ เพราะฉะนั้นขอเตือนโซเซียลต่างๆ อย่าทำผิดกฎหมาย ทุกกรณี วันนี้ยังได้ย้ำเตือนไปยัง ผู้ว่าฯทุกจังหวัด ทุกกระททรวง ทุกรัฐมนตรี จะต้องรับผิดชอบทุกเรื่องในการแก้ปัญหาเหล่านี้ ให้ได้รับผลสำฤทธิ์เร็วที่สุด ต่อไปนี้หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นตอได้ ตนเองจะพิจารณาความเหมาะสมในการทำงานของทุกคน เพราะรัฐบาลทำงานไม่โทษประชาชน แต่อยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาล โดยร่วมมือกันแก้ปัญหา รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ทุกอย่าง เพราะเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ แต่ทุกคนต้องรู้จักป้องกันตนเอง ทั้งปัญหาไฟป่า การเผา และอย่าสร้างข้อมูลที่ขัดแย้งกันไปมา พร้อมฝากด้วยว่าจะเผาอะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าเผาบ้านเมืองของท่าน ด้วยการใช้เฟคนิวส์ ซึ่งตนเองไม่เผาเรื่องนี้ด้วย ทั้งนี้มาตรการที่ดำเนินการทั้งหมด ได้สั่งการให้รายงานมายัง ศูนย์ปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารหรือ พีมอค รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง  

นายกรัฐมนตรี ยังขอร้อง บรรดานักพูด นักเกรียน ทั้งหลายว่ามันเท่ตรงไหนที่คอยเขียนคำพูดสร้างความเกลียดชัง สร้างความเข้าใจผิด หากถูกดำเนินคดีขออย่ามาโวยวายซึ่งเป็นการบังคับใช้กฎหมายตามปกติ ไม่ได้เป็นการใช้อำนาจเผด็จการอะไร ขอทุกคนเข้าใจ เหนื่อย แต่ไม่ลาออก.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อยกับมีลมแรง และอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือ ภาคอีสาน โดยมีฝนบางแห่งในด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยกับมีลมแรง

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย