“กรณ์” ยอมรับไทยต้องพึ่งพาการค้าจีน

อสมท 1ก.พ.-“ปณิธาน” แจงไทยปิดประเทศหนีโคโรนาไม่ได้ เชื่อรัฐบาลทยอยคลอดมาตรการพิเศษควบคุม-แก้ปัญหาตื่นตะหนกไวรัส ย้ำคนรุ่นใหม่ 10 ล้านคนเป็นกุญแจทางรอดของประเทศ ด้าน “กรณ์” ยอมรับไทยต้องพึ่งพาการค้าจีน แนะรัฐบาลเร่งกระจายอำนาจ สร้างความเข้มแข็งให้เอสเอ็มอี ขณะที่ทีดีอาร์ไอมั่นใจจีดีพีโต 2.8% มั่นใจไทยไม่เกิดวิกฤติ เศรษฐกิจยังเติบโตแบบช้า 


ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับสูง ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ บสส. รุ่นที่ 9 สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาหัวข้อ How to รอด..รอดอย่างไรในสถานการณ์เศรษฐกิจร้อน การเมืองแรง โดยนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวการเสวนาตอนหนึ่งว่า ภาครัฐ ประชาชน และผู้ประกอบการต่างก็ต้องปรับตัวให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม ไทยพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศสูงมากลำดับต้นๆ ของโลก ขณะที่กำลังซื้อของต่างประเทศลดต่ำลง ตนขอเสนอ 5 แนวทางต่อรัฐบาล


1 ต้องกระจายอำนาจ ในยุคอนาล็อกการบริหารแบบรวมศูนย์จากส่วนกลางอาจมีประสิทธิภาพ แต่ในยุคดิจิตอลจำเป็นต้องกระจายอำนาจเพื่อขยายโอกาสให้ท้องถิ่นได้บริหารตัวเอง เพื่อให้เกิดความคล่องตัว 

2 รัฐต้องเปลี่ยนทัศนคติเน้นสร้างให้โอกาสประชาชนและผู้ประกอบการใช้นวัตกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ 

3 เปลี่ยนนโยบายการคลังมาสนใจด้านการค้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาภาคเอกชนอ่อนแอ จนเป็นสาเหตุให้เงินบาทแข็งค่า รัฐบาลควรเร่งส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคเอกชน 


4 รัฐบาลต้องส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีให้เข้าถึงงบประมาณของรัฐ ที่ผ่านมารัฐบาลทำงบประมาขาดดุลกู้ยืมเงิน 3 แสนล้านมาใช้ในโยบาลรัฐเป็นหลัก 

5  การกำหนดนโยบายของรัฐต้องมีประชาชนเป็นเป้าหมายมากขึ้น  

สำหรับคำถามว่า ควรจะปิดประเทศป้องกันไวรัสโคโรนาหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ต้องระวังการเสพสื่อ รัฐบาลเองก็ต้องระวังคำตอบ โดยประเมินความเสี่ยงและมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอ เพื่อตอบว่าต้องรอให้สถานการณ์เข้มข้นถึงระดับใด จึงจะยกระดับมาตรการ เพราะรัสเซีย สิงคโปร์ ก็ปิดประเทศไม่รับคนจีนแล้ว  ถึงอย่างไรไทยก็ต้องพึ่งพาการค้าจากประเทศจีน โดยเฉพาะกำลังซื้อจากประชากรจีนที่มากกว่าพันล้าน  

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเมืองระหว่างประเทศเป็นระบบหลากหลายขั้วอำนาจ ทำให้เกิดการแปรปรวนจากสงครามการค้า การแข่งขัน และความไม่แน่นอน แต่เสถียรภาพยังพอไปได้ สงครามโลกครั้งที่ 3 จะยังไม่เกิดขึ้น ไทยได้ประโยชน์จากความแปรปรวนเพราะเราไม่มีศัตรู แต่เป็นมิตรกับทุกประเทศ การเติบใหญ่ของจีนและการเชื่อมต่อกับ 122 ประเทศ ทำให้ไม่มีใครสู้จีนได้ ขณะที่การเติบใหญ่ของจีนคือความเติบใหญ่ของไทย ขณะเดียวกันไทยก็ต้องระมัดระวังการวางตัว รักษาระดับความสัมพันธ์ไม่เข้ากับประเทศหนึ่งประเทศใดจนกระทบต่อความเป็นมิตรกับอีกประเทศหนึ่ง ขณะที่ความซับซ้อนของความมั่นคงสมัยใหม่ เช่น  ภัยน้ำท่วม ภัยแล้ง ฝุ่น ไวรัส ยาเสพติด ค้ามนุษย์ ซึ่งหลายประเทศไม่รอด แต่เราวางแผนมาดีว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

เมื่อถูกตั้งคำถามว่า ไทยควรจะปิดประเทศป้องกันไวรัสโคโรนาหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ปิดประเทศไม่ได้แน่นอน และประเทศไทยก็ไม่เคยปิด แม้แต่องค์การอนามัยโลกก็ไม่ได้บอกให้ปิด ประเทศ  ต้องยอมรับว่าไทยเชื่อมโยงกับจีนอยู่ระดับพิเศษมาก  จึงต้องมีขั้นตอนและกระบวนการพิเศษ รวมถึงแนวทางพิเศษในการบริหารทุกมาตรการ  ขณะเดียวกันเรายังได้เพิ่มความร่วมมือในด้านแลกเลี่ยนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์  โดยนักวิทยาศาสตร์ไทยส่งข้อมูลไวรัสไปให้จีนในทันทีที่ตรวจสอบพบ ส่วนปัญหาในประเทศยังต้องแก้ปัญหาความตื่นตระหนกและสร้างความเข้าใจ  ปัจจุบันประชาชนทุกคนต่างเป็นศูนย์กลางในการให้ข่าวและแก้ข่าวกันเอง ทั้งนี้ยอมรับว่าไวรัสโคโรนาเป็นปัญหาใหม่เชื่อว่าเมื่อตั้งหลักได้เราจะเห็นแนวทางในการควบคุมและแก้ปัญหาอีกจำนวนมาก   

สำหรับทางรอดจากสถานการณ์เศรษฐกิจร้อน การเมืองแรง นายปณิธาน กล่าวว่า ตนมีข้อเสนอดังนี้

1 ไทยต้องหาสมดุลทางยุทธศาสตร์ให้ดีที่สุด 5 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เคยประกาศบนเวทีการประชุมในสิงคโปร์ว่า ไทยจะไม่ทะเลาะกับใคร 

2 ยอมพบกันครึ่งทาง ให้เกียรติ ให้ประโยชน์  ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องทำให้ประเทศเพื่อนบ้านใน 3 ลุ่มน้ำ เจริญเติบโตไปด้วยกัน 

3 ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะเป็นปัญหาของทุกปี เราต้องลดการเผาไหม้ให้ได้ จะเปลี่ยนพลังงานทางเลือกอย่างไร

4 ในอนาคตประเทศอินเดียกำลังจะมา ธุรกิจเอสเอ็มอีเตรียมปรับตัวอย่างไร 

“ทางรอดของไทยคือคนรุ่นใหม่ ตั้งพรรคการเมืองก็ชนะพรรคของคุณกรณ์ไปแล้ว ค้าขายออนไลน์ก็ทำกำไร  ทางรอดของประเทศกุญแจสำคัญจึงอยู่ที่คนรุ่นใหม่ 10 ล้านคนที่ออกมาเคลื่อนไหวการเมืองอยู่ในขณะนี้ ถ้าพวกเขาออกมาร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเรารอดแน่นอน  โดยทางรอดของประเทศไม่ได้อยู่ที่ส่วนกลาง แต่อยู่ที่ท้องถิ่นทั่วประเทศ” นายปณิธานกล่าว

ขณะที่นายชัยยงค์ สัจจิพานนท์ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี กล่าวว่า ปลายปีนี้สหรัฐอเมริกาจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี  สถานการณ์ความไม่แน่นอนความเปลี่ยนแปลงทางนโยบายจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอาจเบาบางลง ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีทั้งกับสหรัฐฯและจีน เราจึงต้องสร้างสมดุล อยู่ตรงกลาง ไม่ทำให้ถูกมองว่าเรายืนอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ต้องทำในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน จำกัดขอบเขตเป็นเรื่องๆ และหลีกเลี่ยงประเด็นที่อาจนำไปสู่การเข้าใจผิด โดยการทูตต้องเป็นเรื่องที่จับต้องได้  สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ระบบการแพทย์และสาธารณสุขของไทยก้าวหน้ามาก และได้รับความชื่นชมในระดับโลก 

ทางด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในเดือนม.ค.เคยประมาณการจีดีพีที่ 2.5-3% แต่เมื่อมีสถานการณ์ไวรัสโคโรนา คงต้องประเมินตัวเลขใหม่อีกครั้ง สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงแรกของปีอาจจะตกลงไปบ้าง แต่ถ้าเราทำให้ไทยมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการดูแลสุขภาพ จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทย เรื่องการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ พบแนวโน้มนักลงทุนจากจีนและไต้หวันจะย้ายมาสร้างโรงงานในไทยและเวียดนาม ซึ่งจะเป็นจุดบวกของไทย  ในภาพรวมปีนี้ยังมั่นใจว่า จีดีพีจะไม่ต่ำกว่า 2.5% แม้งบประมาณจะล่าช้าไปแต่รัฐบาลมีนโยบายดีๆอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น การแก้ปัญหาภัยแล้ง ครม.เศรษฐกิจจะปรับลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และเพื่อลดผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน จึงเสนอให้ทุกกระทรวงจัดสัมมนานอกกรุงเทพฯ เพื่อนำงบฯของภาครัฐไปกระตุ้นการท่องเที่ยว 

นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ผอ.การวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นอักปีที่มีคามผันผวนมาก จากภาวะความตึงเครียดอิหร่าน-สหรัฐ สงครามการค้า และโคโรนาไวรัส การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นบวก สบายใจได้ว่าไม่มีวิกฤตเศรษฐกิจโลกอย่าที่หลายฝ่ายเป็นห่วง ในไทยก็จะไม่มีการหดตัวทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงถึง 5% เพราะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่ ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามานาน แก้ไม่ตก เจอไวรัสโคโรนาเข้าไปบาทอ่อนทันที เท่ากับว่าในข่าวร้ายมีข่าวดี เศรษฐกิจไทยที่คาดการณ์ว่าจีดีพีจะโต 2.8% หากนักท่องเที่ยวลดลง รวมถึงปัญหาภัยแล้ง จีดีพีจะโตลดลงเหลือ 2% งบประมาณผ่านช้าอาจล่าไปถึงเดือนมิ.ย.ทำให้เศรษฐกิจโตช้ากว่า 2% ความผันผวนในเศรษฐกิจโลกยังมีอีกหลายปัจจัย ดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในขาลง แต่มั่นใจว่าไม่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพียงแต่จะเติบโตช้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]