“กรณ์” ยอมรับไทยต้องพึ่งพาการค้าจีน

อสมท 1ก.พ.-“ปณิธาน” แจงไทยปิดประเทศหนีโคโรนาไม่ได้ เชื่อรัฐบาลทยอยคลอดมาตรการพิเศษควบคุม-แก้ปัญหาตื่นตะหนกไวรัส ย้ำคนรุ่นใหม่ 10 ล้านคนเป็นกุญแจทางรอดของประเทศ ด้าน “กรณ์” ยอมรับไทยต้องพึ่งพาการค้าจีน แนะรัฐบาลเร่งกระจายอำนาจ สร้างความเข้มแข็งให้เอสเอ็มอี ขณะที่ทีดีอาร์ไอมั่นใจจีดีพีโต 2.8% มั่นใจไทยไม่เกิดวิกฤติ เศรษฐกิจยังเติบโตแบบช้า 


ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับสูง ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ บสส. รุ่นที่ 9 สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาหัวข้อ How to รอด..รอดอย่างไรในสถานการณ์เศรษฐกิจร้อน การเมืองแรง โดยนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวการเสวนาตอนหนึ่งว่า ภาครัฐ ประชาชน และผู้ประกอบการต่างก็ต้องปรับตัวให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคม ไทยพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศสูงมากลำดับต้นๆ ของโลก ขณะที่กำลังซื้อของต่างประเทศลดต่ำลง ตนขอเสนอ 5 แนวทางต่อรัฐบาล


1 ต้องกระจายอำนาจ ในยุคอนาล็อกการบริหารแบบรวมศูนย์จากส่วนกลางอาจมีประสิทธิภาพ แต่ในยุคดิจิตอลจำเป็นต้องกระจายอำนาจเพื่อขยายโอกาสให้ท้องถิ่นได้บริหารตัวเอง เพื่อให้เกิดความคล่องตัว 

2 รัฐต้องเปลี่ยนทัศนคติเน้นสร้างให้โอกาสประชาชนและผู้ประกอบการใช้นวัตกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ 

3 เปลี่ยนนโยบายการคลังมาสนใจด้านการค้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาภาคเอกชนอ่อนแอ จนเป็นสาเหตุให้เงินบาทแข็งค่า รัฐบาลควรเร่งส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาคเอกชน 


4 รัฐบาลต้องส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีให้เข้าถึงงบประมาณของรัฐ ที่ผ่านมารัฐบาลทำงบประมาขาดดุลกู้ยืมเงิน 3 แสนล้านมาใช้ในโยบาลรัฐเป็นหลัก 

5  การกำหนดนโยบายของรัฐต้องมีประชาชนเป็นเป้าหมายมากขึ้น  

สำหรับคำถามว่า ควรจะปิดประเทศป้องกันไวรัสโคโรนาหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า ต้องระวังการเสพสื่อ รัฐบาลเองก็ต้องระวังคำตอบ โดยประเมินความเสี่ยงและมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอ เพื่อตอบว่าต้องรอให้สถานการณ์เข้มข้นถึงระดับใด จึงจะยกระดับมาตรการ เพราะรัสเซีย สิงคโปร์ ก็ปิดประเทศไม่รับคนจีนแล้ว  ถึงอย่างไรไทยก็ต้องพึ่งพาการค้าจากประเทศจีน โดยเฉพาะกำลังซื้อจากประชากรจีนที่มากกว่าพันล้าน  

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเมืองระหว่างประเทศเป็นระบบหลากหลายขั้วอำนาจ ทำให้เกิดการแปรปรวนจากสงครามการค้า การแข่งขัน และความไม่แน่นอน แต่เสถียรภาพยังพอไปได้ สงครามโลกครั้งที่ 3 จะยังไม่เกิดขึ้น ไทยได้ประโยชน์จากความแปรปรวนเพราะเราไม่มีศัตรู แต่เป็นมิตรกับทุกประเทศ การเติบใหญ่ของจีนและการเชื่อมต่อกับ 122 ประเทศ ทำให้ไม่มีใครสู้จีนได้ ขณะที่การเติบใหญ่ของจีนคือความเติบใหญ่ของไทย ขณะเดียวกันไทยก็ต้องระมัดระวังการวางตัว รักษาระดับความสัมพันธ์ไม่เข้ากับประเทศหนึ่งประเทศใดจนกระทบต่อความเป็นมิตรกับอีกประเทศหนึ่ง ขณะที่ความซับซ้อนของความมั่นคงสมัยใหม่ เช่น  ภัยน้ำท่วม ภัยแล้ง ฝุ่น ไวรัส ยาเสพติด ค้ามนุษย์ ซึ่งหลายประเทศไม่รอด แต่เราวางแผนมาดีว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

เมื่อถูกตั้งคำถามว่า ไทยควรจะปิดประเทศป้องกันไวรัสโคโรนาหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า ปิดประเทศไม่ได้แน่นอน และประเทศไทยก็ไม่เคยปิด แม้แต่องค์การอนามัยโลกก็ไม่ได้บอกให้ปิด ประเทศ  ต้องยอมรับว่าไทยเชื่อมโยงกับจีนอยู่ระดับพิเศษมาก  จึงต้องมีขั้นตอนและกระบวนการพิเศษ รวมถึงแนวทางพิเศษในการบริหารทุกมาตรการ  ขณะเดียวกันเรายังได้เพิ่มความร่วมมือในด้านแลกเลี่ยนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์  โดยนักวิทยาศาสตร์ไทยส่งข้อมูลไวรัสไปให้จีนในทันทีที่ตรวจสอบพบ ส่วนปัญหาในประเทศยังต้องแก้ปัญหาความตื่นตระหนกและสร้างความเข้าใจ  ปัจจุบันประชาชนทุกคนต่างเป็นศูนย์กลางในการให้ข่าวและแก้ข่าวกันเอง ทั้งนี้ยอมรับว่าไวรัสโคโรนาเป็นปัญหาใหม่เชื่อว่าเมื่อตั้งหลักได้เราจะเห็นแนวทางในการควบคุมและแก้ปัญหาอีกจำนวนมาก   

สำหรับทางรอดจากสถานการณ์เศรษฐกิจร้อน การเมืองแรง นายปณิธาน กล่าวว่า ตนมีข้อเสนอดังนี้

1 ไทยต้องหาสมดุลทางยุทธศาสตร์ให้ดีที่สุด 5 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี เคยประกาศบนเวทีการประชุมในสิงคโปร์ว่า ไทยจะไม่ทะเลาะกับใคร 

2 ยอมพบกันครึ่งทาง ให้เกียรติ ให้ประโยชน์  ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องทำให้ประเทศเพื่อนบ้านใน 3 ลุ่มน้ำ เจริญเติบโตไปด้วยกัน 

3 ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะเป็นปัญหาของทุกปี เราต้องลดการเผาไหม้ให้ได้ จะเปลี่ยนพลังงานทางเลือกอย่างไร

4 ในอนาคตประเทศอินเดียกำลังจะมา ธุรกิจเอสเอ็มอีเตรียมปรับตัวอย่างไร 

“ทางรอดของไทยคือคนรุ่นใหม่ ตั้งพรรคการเมืองก็ชนะพรรคของคุณกรณ์ไปแล้ว ค้าขายออนไลน์ก็ทำกำไร  ทางรอดของประเทศกุญแจสำคัญจึงอยู่ที่คนรุ่นใหม่ 10 ล้านคนที่ออกมาเคลื่อนไหวการเมืองอยู่ในขณะนี้ ถ้าพวกเขาออกมาร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจประเทศเรารอดแน่นอน  โดยทางรอดของประเทศไม่ได้อยู่ที่ส่วนกลาง แต่อยู่ที่ท้องถิ่นทั่วประเทศ” นายปณิธานกล่าว

ขณะที่นายชัยยงค์ สัจจิพานนท์ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี กล่าวว่า ปลายปีนี้สหรัฐอเมริกาจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี  สถานการณ์ความไม่แน่นอนความเปลี่ยนแปลงทางนโยบายจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนอาจเบาบางลง ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีทั้งกับสหรัฐฯและจีน เราจึงต้องสร้างสมดุล อยู่ตรงกลาง ไม่ทำให้ถูกมองว่าเรายืนอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ต้องทำในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน จำกัดขอบเขตเป็นเรื่องๆ และหลีกเลี่ยงประเด็นที่อาจนำไปสู่การเข้าใจผิด โดยการทูตต้องเป็นเรื่องที่จับต้องได้  สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ระบบการแพทย์และสาธารณสุขของไทยก้าวหน้ามาก และได้รับความชื่นชมในระดับโลก 

ทางด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในเดือนม.ค.เคยประมาณการจีดีพีที่ 2.5-3% แต่เมื่อมีสถานการณ์ไวรัสโคโรนา คงต้องประเมินตัวเลขใหม่อีกครั้ง สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงแรกของปีอาจจะตกลงไปบ้าง แต่ถ้าเราทำให้ไทยมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการดูแลสุขภาพ จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทย เรื่องการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ พบแนวโน้มนักลงทุนจากจีนและไต้หวันจะย้ายมาสร้างโรงงานในไทยและเวียดนาม ซึ่งจะเป็นจุดบวกของไทย  ในภาพรวมปีนี้ยังมั่นใจว่า จีดีพีจะไม่ต่ำกว่า 2.5% แม้งบประมาณจะล่าช้าไปแต่รัฐบาลมีนโยบายดีๆอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น การแก้ปัญหาภัยแล้ง ครม.เศรษฐกิจจะปรับลดภาษีน้ำมันเครื่องบินเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และเพื่อลดผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน จึงเสนอให้ทุกกระทรวงจัดสัมมนานอกกรุงเทพฯ เพื่อนำงบฯของภาครัฐไปกระตุ้นการท่องเที่ยว 

นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ผอ.การวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นอักปีที่มีคามผันผวนมาก จากภาวะความตึงเครียดอิหร่าน-สหรัฐ สงครามการค้า และโคโรนาไวรัส การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นบวก สบายใจได้ว่าไม่มีวิกฤตเศรษฐกิจโลกอย่าที่หลายฝ่ายเป็นห่วง ในไทยก็จะไม่มีการหดตัวทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงถึง 5% เพราะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่ ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามานาน แก้ไม่ตก เจอไวรัสโคโรนาเข้าไปบาทอ่อนทันที เท่ากับว่าในข่าวร้ายมีข่าวดี เศรษฐกิจไทยที่คาดการณ์ว่าจีดีพีจะโต 2.8% หากนักท่องเที่ยวลดลง รวมถึงปัญหาภัยแล้ง จีดีพีจะโตลดลงเหลือ 2% งบประมาณผ่านช้าอาจล่าไปถึงเดือนมิ.ย.ทำให้เศรษฐกิจโตช้ากว่า 2% ความผันผวนในเศรษฐกิจโลกยังมีอีกหลายปัจจัย ดอกเบี้ยทั่วโลกอยู่ในขาลง แต่มั่นใจว่าไม่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพียงแต่จะเติบโตช้า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

จนท.อัดอากาศเข้าหลุม ใช้คนลงไปขุดหาตัวผู้ประสบภัย

กทม. 20 พ.ค.-เจ้าหน้าที่อัดอากาศเข้าไปในหลุม เตรียมความพร้อมส่งชุดค้นหา โรยตัวใช้มือขุดหาตัวผู้ประสบภัย เวลา 19.00 น. ชุดค้นหาผู้สูญหายได้นำท่ออัดอากาศเข้าไปภายในหลุมที่คนงานพลัดตกลงไป ที่ไซต์งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สามารถขุดลงไปได้ลึกในระดับ 9 เมตร และเตรียมส่งชุดค้นหาลงไปใช้วิธีสำรวจโดยการขุดด้วยมือแทนการใช้เครื่องจักร เนื่องจากกังวลว่า หากขุดดินลึกลงไปในระดับที่มากกว่า 10 เมตร แรงสั่นสะเทือนเครื่องจักรจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ลงไปภายในหลุมดังกล่าวได้เนื่องจากภายในหลุมมีออกซิเจนเบาบาง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อชุดค้นหาได้ ทำให้ต้องอัดอากาศเข้าไปเบื้องต้นก่อน และคาดว่า ชุดเจ้าหน้าที่สามารถโรยตัวลงไปสำรวจได้ในเวลา 20.00 น. ซึ่งการลงไปในหลุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะสามารถลงไปได้เพียงครั้งละ 2 คน ใช้เวลารอบละไม่เกิน 15 นาที เวลา 20.00 น. ชุดค้นหานำอุปกรณ์ขุดเจาะ พร้อมโรยตัวลงไปในหลุม เพื่อหย่อนน้ำยาเบนโทไนต์ ซึ่งเป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ควบคุมการไหลของน้ำ และป้องกันการพังทลายของพื้นดินช่วงที่มีการเจาะ ด้วยคุณสมบัติที่ดูดซับน้ำและเพิ่มความหนืดให้กับดินจะทำให้ดินไม่ทรุดตัว โดยชุดค้นหาให้ข้อมูลจากทีมข่าวว่า ตลอดทั้งคืนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า ผู้สูญหายน่าจะติดค้างอยู่ในระยะความลึกประมาณ 16 […]

กว่า 24 ชั่วโมง ยังกู้ร่างคนงานพลัดตกหลุมไม่สำเร็จ

ศรีสะเกษ 20 พ.ค. – กว่า 24 ชั่วโมงแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างคนงานชาวศรีสะเกษพลัดตกหลุมฝังเสาเข็ม ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเร่งทำงานอย่างยากลำบาก ท่ามกลางฝนโปรยปรายลงมาตลอด ดินเลื่อนไหลอ่อนตัว ส่วนญาติคนงานที่ศรีสะเกษ รอร่างกลับบ้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เกาะติดภารกิจค้นหาร่างนายศราวุฒิ จันทะสนธ์ หรือดาว อายุ 33 ปี คนงานชาวศรีสะเกษ ที่ พลัดตกหลุมฝังเสาเข็มจากดินสไลด์ทับฝังร่างมิดความลึก 19 เมตร คาดว่าเสียชีวิตแล้ว ที่งานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และซอยหลานหลวง 8 แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยมีนายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ร่วมวางแผนประเมินสถานการณ์ภารกิจในการค้นหา ร่วมกับหลายหน่วยงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ขุดดินลึกลงไปได้แล้ว 9 เมตร จากการตรวจสอบดินที่นำขึ้นมา พบเพียงเศษวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างในระยะ 8 เมตร เช่น เสียม […]

ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน

กทม. 20 พ.ค.-ศาลฎีกาสั่งจำคุก “เสก โลโซ” 2 ปี 12 เดือน 20 วัน คดีต่อสู้เจ้าพนักงาน-เสพยา-ปืน ช่วงตำรวจบุกบ้านปี 60 คุมตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 กรณีนายเสกสรรค์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่บ้านพัก หลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับในข้อหาเกี่ยวกับการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ในระหว่างการจับกุม เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่จะใช้ปืน หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว โดยอัยการโจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียน พร้อมกระสุนปืน และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน […]

“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ เหมือนย้ายองค์กร

ทำเนียบ 20 พ.ค.-“แพทองธาร” ลั่น สส.ย้ายพรรค อยู่ที่ความสมัครใจ ห้ามไม่ได้ เปรียบเหมือนสมัครงาน-ย้ายองค์กร หาสิ่งที่ใช่ นี่เป็นวงการของเรา วงการการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่า นายกฯ ปล่อยให้ พรรคร่วมรัฐบาลดูด สส. เพื่อมาสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกฯ ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการซื้อ สส. มาร่วมรัฐบาล โดยนายกฯ ย้อนถามสื่อว่า แล้วเขาซื้อหรือไม่ ขณะที่สื่อตอบกลับว่า ไม่ได้ซื้อ นายกฯ จึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจใช่หรือไม่ สื่อจึงตอบว่า ถ้ามาด้วยความสมัครใจได้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจัดการ ซึ่งต้องไปถามหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ว่าจัดการแบบไหน และอยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม “เส้นทางการเมืองที่ดิฉันพบเจอมา เป็นความเชื่อ เป็นความเข้าใจของแต่ละคน ว่าเวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเอง สังกัดพรรคไหนแล้วตอบโจทย์ เหมือนกับเราสมัครงาน ถ้าเราสมัครที่ไหนแล้วรู้สึกว่าใช่ องค์กรนี้ใช่เราหรือไม่ ก็ห้ามไม่ได้ว่าใครจะอยากย้ายไปองค์กรไหน สื่อจะอยู่สื่อเดิมหรือสื่อใหม่ก็ย้ายได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่แล้วแต่ทุกคนจะชอบ นี่เป็นวงการของเรา […]