ตร.แจงออกใบสั่ง “ดาว ขำมิน” ขับรถเร็วเกินกำหนด

สกลนคร 31 ม.ค. – ตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ออกโรงโต้ “ดาว ขำมิน” ตลกหน้าตาย กรณีถูกด่านเรียกตรวจฐานขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด และจะออกใบสั่ง แต่ตลกดังไม่ยอม ขอดูหลักฐาน จนโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์


กรณีโลกโซเชียลเสนอคลิป “ดาว ขำมิน” ปะทะคารมกับตำรวจจราจรสกลนคร ขณะขับรถกลับจาก จ.นครพนม มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่ระบุว่าตำรวจพูดจานิ่มนวล ไม่ใช้อารมณ์ ขณะที่ตลกหน้าตาย “ดาว ขำมิน” พูดจาด้วยเสียงกระโชกโฮกฮาก และไม่ยอมฟังตำรวจที่พยายามอธิบายว่าที่ถูกเรียกเพราะอะไร


เหตุเกิดที่สี่แยกบายพาส ถนนสกลนคร กาฬสินธุ์ บริเวณ กม.ที่ 3 เขตเทศบาลนครสกลนคร เมื่อตอนสายวันที่ 29 มกราคม ขณะเกิดเหตุมีผู้หญิงคนหนึ่งถ่ายคลิปส่งไปให้พรรคพวกช่วยลงในโลกโซเชียล 

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง ผกก.สภ.เมืองสกลนคร ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.  ตำรวจจราจร สภ.เมืองสกลนคร ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ตั้งจุดตรวจที่แยกบายพาสกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นการกวดขันวินัยจราจรเพื่อลดและป้องกันอุบัติเหตุ การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (ไม่เกิน 90 กม./ ชม.) เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สิน และไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย จึงตรวจจับความเร็วของรถ ซึ่งวันที่เกิดเหตุตำรวจจราจรใช้กล้องตรวจจับความเร็ว เห็นรถยนต์ HYUNDAI สีดำ ทะเบียน 8กฒ 1007 กรุงเทพมหานคร ขับมาด้วยความเร็ว 111 กม./ชม. ตำรวจจราจรผู้ทำการตรวจจับความเร็วรถคันดังกล่าวจึงแจ้งให้ตำรวจที่ประจำจุดตรวจรับทราบ


เมื่อรถคันดังกล่าวมาถึงจุดตรวจ ตำรวจจราจรจึงส่งสัญญาณให้ผู้ขับรถคันดังกล่าวชะลอความเร็วลง และขอตรวจใบอนุญาตขับขี่ แจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบว่าขับรถเร็วเกินกำหนด แต่ผู้ขับรถคันดังกล่าวไม่ยินยอมส่งมอบใบอนุญาตขับขี่ให้ตำรวจจราจร และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้ขับรถเร็ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้ขับทราบว่ามีหลักฐานจากกล้องตรวจจับความเร็ว และได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจจราจรจึงออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่เมื่อเจ้าพนักงานเรียกตรวจ (ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน) ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวก็ได้รับใบสั่งจากตำรวจจราจรและไม่ได้มีการเปรียบเทียบปรับแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง