สธ.30 ม.ค.-ปลัด สธ.เผยเตรียมเพิ่มห้องแล็บตรวจยืนยันไวรัสโคโรนาอีก 2 รวมเป็น 4 แล็บ ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายเฝ้าระวัง 202 คน ยังอยู่ใน รพ. รอยืนยันผลแล็บ
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวรายงานสถานการณ์ล่าสุดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่2019 ว่า กระทรวงสาธาณสุข (สธ.)จะเพิ่มห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์หรือห้องแล็บในการตรวจยืนยันโรคเพิ่มอีก จากเดิมที่มีห้องแล็บมาตรฐานรับรองการตรวจ 2 แห่ง คือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ขณะนี้พัฒนาห้องแล็บเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ รพ.ราชวิถี และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ เพิ่มอีก1 แล็บ
นอกจากนี้ยังจะพัฒนาให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วประทศอีก14 แห่ง คือ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์ จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี จ.อุบลราชธานี จ.สมุทรสงคราม จ.ชลบุรี
จ.สุราษฎร์ธานี จ.ตรัง จ.สงขลา และจ.ภูเก็ต สามารถตรวจยืนยันผลได้เช่นกันโดยไม่ต้องส่งมาตรวจกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการกระจายการตรวจวินิจฉัย ใช้เวลาเพียง3 ชั่วโมงก็สามารถยืนยันผลได้และเตรียมพัฒนา ให้มหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึง รพ.เอกชน ให้มีแล็บตรวจยืนยันโรคได้ เป็นมาตรฐานสากลทั้งหมด
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเฝ้าระวังผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคทั้งหมด 202 คน ขณะนี้อยู่ในโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด มีทั้งผ่านการคัดกรองจากสนามบินสุวรรณภูมิและเดินเข้าไปตรวจที่โรงพยาบาล
สำหรับมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในไทยอย่างน้อย อยู่ในระยะ6 เดือน เป็นเกณฑ์เดียวกับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ส่วนในประเทศจีน ต้องรอดูสถานการณ์อีกนานกว่าจะจบ เพราะนี่แค่ช่วงเดือนแรกอยู่ในช่วงสถานการณ์รุนแรงที่สุด ซึ่งทางการจีนขณะนี้เฝ้าระวังเฉพาะกลุ่มที่มีอาการหนัก เท่านั้น ดังนั้นทุกประเทศจึงมีความเสี่ยงในระดับปานกลางที่จะได้รับการแพร่ระบาดของเชื้อได้ กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแผนป้องกันไว้ทุกระยะ ทั้งการแพร่เชื้อจากคนสู่คน การแพร่ระบาดระดับประเทศ ข้ามจังหวัด เพื่อกำจัดการขอบเขตการการแพร่ระบาดของเชื้อ .-สำนักข่าวไทย