ก.คลัง 28 ม.ค. – คลังพร้อมขยายชิมช้อปใช้เฟส 4 กระตุ้นบริโภค รับมือโรคระบาดโคโรนากระทบเศรษฐกิจไทย มั่นใจงบปี 63 ไม่มีปัญหา เตรียมแผนรองรับ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ปัญหาโรคระบาดไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกหลายประเทศ รวมถึงไทยด้วย จึงสั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คิดหามาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ผ่านการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้เฟส 4” หวังชดเชยผลกระทบจากการท่องเที่ยวจีนหายไปช่วงเกิดโรคระบาด คาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะสรุปแนวทาง หวังให้สิทธิ์ครอบคลุมทั้งผู้ลงทะเบียนเดิมและเปิดลงทะเบียนใหม่ทั้งประชาชนและร้านค้า จากปัจจุบันประชาชนรับสิทธิ์ 12.6 ล้านคน และร้านค้า 170,000 ราย
สำหรับโครงการชิมช้อปใช้มีกรอบวงเงินเดิมตามที่ ครม.อนุมัติ 19,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือ 5,000 ล้านบาท จึงไม่กระทบงบรายจ่ายปี 2563 ยอมรับว่าโครงการชิมช้อปใช้เฟส 1-3 ได้ใช้งบแบบคุ้มค่า เพราะกระตุ้นการบริโภคในประเทศอย่างน่าพอใจ นอกจากนี้ ยังต้องการส่งเสริม “ไทยเที่ยวไทยไปด้วยกัน” เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และยังมีมาตรการอื่นเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว ทั้งการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน การปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สศค. ระบุว่า เศรษฐกิจปี 2563 ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2.5 พรุ่งนี้ (29 ม.ค.) เตรียมประกาศตัวเลขเศรษฐกิจปี 2562 และประมาณการณ์ปี 2563 ใหม่อีกครั้ง จากเดิมปี 2562 คาดการณ์เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 2.8 ส่วนปี 2563 ขยายตัวได้ร้อยละ 3.3
ส่วนโครงการชิมช้อปใช้ 4 นั้น อาจได้รับสิทธิ์แตกต่างจากปัจจุบัน เนื่องจากโครงการชิมช้อปใช้เฟส 1-3 เตรียมสิ้นสุดโครงการวันที่ 31 มกราคมนี้ ต้องประเมินผลอีกครั้ง ยอดใช้จ่าย ณ วันที่ 28 มกราคม 2563 ยอดการใช้จ่ายผ่าน G-Wallet กระเป๋าแรก ยอดรวม 11,500 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 จำนวน 17,000 ล้านบาท นับว่ากระเป๋า 2 สูงน่าพอใจ
นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหางบประมาณปี 2563 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและสำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างหารือแนวทางรองรับการใช้เงินงบประมาณ หากไม่สามารถบังคับใช้ได้ทันเดือนมีนาคม 2563 ได้เตรียมแผนรองรับ ยืนยันเบิกจ่ายไม่สะดุด รวมทั้งเงินเดือนข้าราชการ ส่วนงบลงทุนผูกพันไว้ก่อนปีงบประมาณ 2563 สามารถลงทุนได้ตามแผนปกติ ช่วงนี้ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้เสร็จ มองว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย