เตรียมรื้อรีสอร์ทผิดกฎหมายในม่อนแจ่มทุกราย


กรุงเทพฯ 25 ม.ค.-อธิบดีกรมป่าไม้ระบุ บูรณาการหลายภาคส่วนพิจารณาการบังคับใช้กฎหมายทุกฉบับต่อกลุ่มผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม (ม่อนแจ่ม) เตรียมรื้อสิ่งปลูกสร้างของผู้ประกอบการทุกราย ย้ำการขอใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ ต้องเพื่อการเกษตรเป็นหลักเท่านั้น


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กล่าวว่า ได้ประชุมหารือเพื่อบูรณาการร่วมในการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มขบวนการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม (ม่อนแจ่ม) และพื้นที่ใกล้เคียง ตำบลโป่งแยง และตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่กับพลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจโท ศักดา ชื่นภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยแจ้งความต่อตำรวจสอบสวนการกระทำผิดตามพ.ร.บ. หลายฉบับ

ทั้งนี้กรมป่าไม้ตรวจสอบพื้นที่ม่อนแจ่มซึ่งอยู่ในโครงการหลวงหนองหอย ตรวจพบผู้ประกอบการ 116 ราย ดำเนินคดีแล้ว 8 ราย ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ.  2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ. 2507  จากนี้ยังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกรอบอำนาจหน้าที่ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง กรมการปกครองดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมว่า การสร้างรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ว่า ด้วยการควบคุมอาคารว่า มีการขออนุญญาตก่อสร้าง มีความความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยหรือไม่ การขออนุญาตไฟฟ้า-ประปา  รวมไปถึงมีการวางโครงข่ายสัญญาณและเสาสัญญาณโทรศัพท์ระบบเซลลูลาร์จากผู้ให้บริการ 3 ราย ซึ่งต้องดูว่า เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่ และประสาน ไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตรวจสอบว่า การโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตนั้นเข้าข่ายเป็นความผิดอย่างใด ประสานกับกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบการเสียภาษีของผู้ประกอบการทุกราย โดยเบื้องต้น อปท. แจ้งว่า ไม่มีการเสียภาษีบำรุง ท้องที่สำหรับธุรกิจโรงแรมและหลายรายไม่เสียภาษีโรงเรือนและภาษีป้าย 

“หากพบการกระทำผิดตามกฎหมายใด หน่วยงานที่รับผิดชอบจะดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ส่วนใดผิดกฎหมายต้องรื้อถอนและแก้ไข ผู้ได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยจึงจะไม่เสียสิทธิ์ โดยการใช้ประโยชน์พื้นที่นั้นต้องทำเกษตรกรรมเป็นหลักตามที่ตกลงกัน” นายอรรถพล กล่าว /สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน