บัญญัติเสนอ 3 ประเด็นเป็นกรอบศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ

รัฐสภา 24 ม.ค.- “บัญญัติ บรรทัดฐาน” เสนอ 3 ประเด็น “สิทธิประโยชน์-การเมือง การปกครอง-ม.256” เป็นกรอบศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ มั่นใจศึกษาเสร็จภายใน 120 วัน หากทำไม่เสร็จจะถูกสังคมกล่าวหาซื้อเวลา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณากรอบการทำงานและกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ภายหลังกมธ.วิสามัญฯ หลายคนได้แสดงความคิดเห็นว่าการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีความล่าช้า

นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย อภิปรายท้วงติงว่า ถึงเวลาแล้วที่กรรมาธิการฯ ต้องกำหนดแนวทางการทำงานที่ชัดเจน เพราะที่ผ่านมา มีแต่การแสดงความคิดเห็นกันไปมาระหว่างกรรมาธิการฯ เท่านั้น เช่นเดียวกับ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ กมธ.จากพรรคเพื่อไทย เสนอว่า กมธ.ต้องเพิ่มวันประชุมจากเดิมที่มีเพียงหนึ่งวันต่อสัปดาห์ ซึ่งนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า กรอบการทำงานได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการดำเนินการแล้ว ส่วนเรื่องการเพิ่มวันประชุมส่วนตัวไม่ได้ขัดข้อง แต่ขอให้ทุกคนอยู่ประชุมด้วย


ต่อมาเป็นการเสนอรายงานความคืบหน้าในการทำงานของคณะอนุกรรมาธิการวิเคราะห์ศึกษาบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ มีความคิดเห็นแล้วว่าจะนำประเด็นว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 มาพิจารณาเป็นประเด็นแรก และจะเร่งส่งผลการศึกษาให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ในการประชุมครั้งต่อไป เบื้องต้นสำหรับภาพรวมของข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น คณะอนุกรรมาธิการฯได้รวบรวมจากการแสดงความคิดเห็นของส.ส.ในที่ประชุมสภาฯ และกมธ.วิสามัญฯสรุปได้ว่ามีทั้งสิ้น 32 ประเด็น และ 11 มาตรา

จากนั้นเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายบัญญัติ  บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า การดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรตั้งสองประเด็น 1.ความเป็นไปได้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมายถึงโอกาสจะได้รับความร่วมมือและการต่อต้าน และ 2.ระยะเวลา ถ้าแก้ไขได้เร็วมากที่สุดเท่าไหร่ก็เป็นประโยชน์มากเท่านั้น เพราะหลายเรื่องคงรอสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ไม่ได้แล้ว

นายบัญญัติ กล่าวว่า แนวทางการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรตั้งเป็นประเด็นจำนวน 3 เรื่อง คือ 1.สิทธิประโยชน์ในรัฐธรรมนูญที่ควรได้รับการแก้ไข โดยเมื่อนำรัฐธรรมนูญ 2560 เทียบกับปี 2540 หรือ 2550 เห็นชัดว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันด้อยกว่ามาก ดังนั้น ควรมาดูว่าประเด็นไหนที่ปัจจุบันด้อยกว่าก็ให้กลับไปใช้เนื้อหาของรัฐธรรมนูญในอดีตแทน  2.การเมืองการปกครอง อย่างระบบเลือกตั้งจัดสรรปันส่วนผสม ซึ่งหลายคนอึดอัดเป็นอย่างมาก และปัญหาที่เกิดมาจากการบังคับใช้มีจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การคำนวณจำนวนส.ส.พึงมี เป็นต้น และ 3.มาตรา 256 เรื่องหลักเกณฑ์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนับตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญมานั้นครั้งนี้แก้ยากที่สุดเหมือนไม่อยากให้มีการแก้ไข  เพราะถ้าเรามองลงลึกไปในมาตรา 256 แทนที่ฝ่ายเสียงข้างมากจะเป็นฝ่ายกำหนดตามแนวทางประชาธิปไตย แต่กลายเป็นว่าฝ่ายข้างน้อยเป็นฝ่ายกำหนด อย่างนี้เราจะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร ดังนั้น เรื่องมาตรา 256 เพียงแต่นำเอารัฐธรรมนูญตั้งแต่ฉบับแรกว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาพิจารณาแล้วกลับมาใช้หลักการเดิม คือ เสียงข้างมาก 2ใน 3 หรือ 3 ใน 5 ของสมาชิกทั้งสองสภารวมกัน 


“ถ้าเราเอากรอบทั้ง 3 ข้อนี้เป็นตัวตั้ง ผมมั่นใจว่า กมธ.วิสามัญฯ จะใช้เวลาทำงาน  120 วันตามกำหนดก็เพียงพอ เพราะขณะนี้สังคมว้าเหว่ หาก 120 วันแล้วเรายังทำไม่เสร็จ ก็จะเป็นอันตราย สังคมจะคิดว่าเราไม่เอาจริง ทำงานเพียงแค่ซื้อเวลากันไปวัน ๆ ความขัดแย้งที่มีอยู่ก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้น นี่คือภารกิจของเราที่ต้องทำให้เสร็จ ” นายบัญญัติ กล่าว 

ภายหลังจากที่นายบัญญัติ แสดงความเห็นแล้ว ได้มีกมธ.วิสามัญฯ ในซีกฝ่ายค้านอภิปรายสนับสนุน เช่น นายชัยเกษม นิติสิริ กมธ.วิสามัญฯ สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน คือ การแก้ไขบทบัญญัติมาตรา 255 และ 256 เพราะถ้าแก้ไขตรงนี้ไม่สำเร็จก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ส่วนเรื่องการตั้ง ส.ส.ร.เป็นเรื่องระยะยาว

ขณะที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช กมธ.วิสามัญฯ สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การรณรงค์เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเวลานี้เป็นบรรยากาศของการเลือกข้างและระบบไอโอ หรือ การปฏิบัติเชิงข่าวสารที่ซับซ้อนมาก ไม่เหมือนกับบรรยากาศตอนเรียกร้องให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญพ.ศ.2540 โดยเฉพาะมาตรา 256 ที่ต้องใช้เสียงข้างมากและเสียงของ ส.ว.มารวมกัน และทำประชามติ ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกขั้นตอนมีหลุมพรางเต็มไปหมด ดังนั้น เชื่อว่าการสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องสำคัญ และไม่ใช่ว่าในห้องประชุมนี้เห็นด้วยฝ่ายเดียวไม่ได้ เราต้องคำนึงถึงเสียงสนับสนุนภายนอกด้วย

ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 บรรลุวัตถุประสงค์เรื่องการสืบทอดอำนาจแล้ว คนที่ครองอำนาจอยู่ปัจจุบันย่อมไม่ยอมให้แก้หรือถ้าให้แก้ไขก็จะได้แก้ไขเพียงเล็กน้อย ขณะที่อีกฝ่ายมีความต้องการให้แก้เล็กน้อย แต่อีกฝ่ายก็อยากแก้ไขใหญ่ แต่รัฐธรรมนูญปิดโอกาสในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเปลี่ยนผ่านจากรัฐประหารมาเป็นประชาธิปไตยอย่างลาตินอเมริกาใต้ ตอนแรกก็มีการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย แต่สุดท้ายก็สามารถเปลี่ยนผ่านได้ด้วยการเจรจาโดยทหารตัดสินใจออกจากอำนาจ หรือพม่าที่ถูกกดดันจากต่างชาติ สุดท้ายก็ยอมลงจากอำนาจและสามารถพัฒนาได้

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อให้กลับไปใช้ระบบเสียงข้างมากปกติ หรือตั้ง ส.ส.ร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่ทั้งสองวิธีการนี้ เชื่อว่าผู้มีอำนาจไม่มีทางยอม เวลานี้องค์ความรู้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีมากแล้ว จึงคิดว่าเรื่องการศึกษาองค์ความรู้ใช้เวลาไม่นาน เหลือเพียงแต่เจตจำนงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ถ้านายกฯตัดสินใจเมื่อไหร่ทุกอย่างก็พร้อมหมด เรามีเวลา 120 วัน หากจบ 120 วันแล้วไม่ได้อะไรเลย ย่อมถูกติฉิน นินทา จากสังคมแน่นอน อย่างน้อยที่สุด กมธ.วิสามัญฯต้องมีความเห็นว่ากระบวนการแก้ไขควรมีวิธีอย่างไร” นายปิยบุตร กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า กมธ.วิสามัญฯไม่ได้มีหน้าที่ไปศึกษารัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา แต่เป็นการศึกษาในภาพรวม และเสนอเป็นกรอบความคิดเห็นต่อที่ประชุมสภาฯ ต่อไป ทั้งนี้มั่นใจว่ากมธ.วิสามัญฯจะพิจารณาเสร็จทันกรอบ 120 วันแน่นอน

ขณะที่ นายอุดม รัฐอมฤต กรรมาธิการวิสามัญฯสัดส่วนคณะรัฐมนตรีและอดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงเจตนารมณ์ของมาตรา 256 ว่า ที่ประชุมกมธ.วิสามัญฯอาจจะยังไม่เข้าใจตรงกันเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ก่อนที่จะมีรัฐธรรมนูญ 2560ได้มีความขัดแย้งแล้ว และคนที่มานั่งทำงานตรงนี้ก็ด้วยเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ2560 สำหรับบทบัญญัติมาตรา 256 ที่มีความซับซ้อนในเรื่องการกำหนดให้มีจำนวนเสียงส.ว.ในการให้ความเห็นชอบด้วยนั้น เห็นว่า หากตัดเรื่องที่มาของส.ว. 250 คนออก ความซับซ้อนที่ว่านั้นจะลดน้อยลงไป ซึ่งเจตนารมณ์ของมาตรา 256 มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ประชาชนเห็นว่า รัฐธรรมนูญ หากจะถูกแก้ไข ก็ต้องมาจากการที่เห็นว่าสมควรต้องแก้ไขจริงๆ โดยให้เสียงของทั้งสองสภาเห็นพ้องกัน ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร ควรต้องมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และให้ทุกฝ่ายรับยอมรับได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]

โผ ครม.ยังไม่สะเด็ดน้ำ “ว่าที่ รมต.” ทยอยส่งประวัติ

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- ภูมิใจไทยยังคึกคัก ว่าที่ รมต. ทยอยส่งประวัติ “อนุทิน” เก็บตัวเซฟเฮาส์ จัดโผ ครม.ยังไม่สะเด็ดน้ำ เหลืออีก 0.0275% ด้าน “สุชาติ- ธนกร” ไขก๊อก รทสช. “พีระพันธุ์-สุภกิต” ส่งดอกไม้ยินดี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เช้าวันนี้ ล่าสุดนายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค ซึ่งมีชื่อเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคพร้อมเอกสารซองน้ำตาล เมื่อสื่อมวลชนสอบถามว่าได้ยื่น ประวัติเพื่อตรวจสอบ คุณสมบัติรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายภราดรไม่ได้ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและเดินขึ้นไปชั้นบนทันที ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เดินทางมาที่ทำการพรรคภูมิใจไทย แต่มีรายงานข่าวว่าอาจจะ เดินทางเข้าเซฟเฮาส์เพื่อดูความเรียบร้อยของการจัดโผคณะรัฐมนตรี หลังจากเมื่อวานนี้นายอนุทินระบุว่า จัดเสร็จแล้วกว่า 99.9725% จึงเหลืออีก 0.0275% ขณะที่เวลา 10:40 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ให้นายสยาม บางกุลธรรม รองเลขาธิการพรรค รวมไทยสร้างชาติ ส่งดอกไม้มาแสดงความยินดีกับนายอนุทิน พร้อมเปิดเผยว่า […]

“บิ๊กป้อม” สยบข่าวชิงเก้าอี้กลาโหม ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล

พรรคพลังประชารัฐ 8 ก.ย.-“บิ๊กป้อม” ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล – ไม่นั่ง รมว.กลาโหม ยืนยันยินดีสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เมื่อเวลา 09:18 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวถึงการต่อรองและแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีตนเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ทำให้สับสนวุ่นวาย ว่า ตนมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้รัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรีได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนยุบสภาโดยไม่ต้องกังวลต่อการต่อรองหรือเรียกร้องใดๆ พร้อมทั้งขอประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองที่จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล รวมถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตามที่เป็นข่าว พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ เพื่อเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีได้เร่งสรรหาบุคคลที่เหมาะสมที่จะแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และทะนุบำรุงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สามารถทำงานได้จริงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการต่อรองใดๆ โดยเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง “ผมยินดีที่จะสนับสนุนอยู่เบื้องหลังและพร้อมใช้ความรู้ ประสบการณ์และเครือข่ายระหว่างประเทศด้านความมั่นคงของผมที่มี ถ้าสามารถจะเป็นประโยชน์ได้ไม่ว่าในด้านใดก็ตาม และต้องการที่จะเห็นประเทศชาติของเราเดินหน้าสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยเร็ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย