ลพบุรี 22 ม.ค.- การค้นหาวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องในคดีกราดยิงชิงทองออโรร่า โรบินสัน ลพบุรี เป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะใน จ.สิงห์บุรี 2 จุด คือ สถานที่ทำงานของผู้ต้องหา และจุดที่ผู้ต้องหานำทองไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา
ทีมนักประดาน้ำนั่งเรือไปยังบริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อลงดำน้ำค้นหาทองคำรูปพรรณของกลาง น้ำหนักรวม 28.50 บาท ตามคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ที่บอกว่าหลังก่อเหตุนำไปทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงสะพานบางระจัน ฝั่งวัดสังฆราชาวาส ซึ่งจุดนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่บัญชาการด้วยตนเอง ภายหลังสอบปากคำผู้ต้องหาที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ลพบุรี โดยสื่อมวลชนพยายามสอบถามถึงวัตถุพยานชิ้นอื่นๆ แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังไม่ยอมเอ่ยปาก
ส่วนที่โรงเรียนวัดโพธิ์ชัย สถานที่ทำงานของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่เข้าสอบปากคำครูและนักการภารโรงของโรงเรียนตลอดทั้งวัน โดยครูได้แจ้งให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้านตั้งแต่ช่วงเที่ยง พร้อมประกาศหยุดเรียนชั่วคราวจนถึงวันศุกร์นี้
ผงเถ้าถ่านจากการเผาไหม้ ถูกเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสระบุรีตักมาร่อน แยกเอาชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นวัตถุพยานออก จากการใช้กล้องซูมภาพเข้าไปใกล้ๆ พบว่ามีหลายชิ้นที่คาดว่าเป็นชิ้นส่วนประกอบของกระเป๋าเป้ และรองเท้า ที่ผู้ต้องหาสะพายและสวมใส่ขณะก่อเหตุ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เผยความคืบหน้าการค้นหาวัตถุพยาน ขณะนี้พบมากพอสมควร ทั้งเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่และรถจักรยานยนต์ยามาฮา ฟีโน่ สีแดง ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุก็พบแล้ว
ด้านครู ผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้ต้องหา รวมถึงคนในชุมชน ต่างรู้สึกตกใจหลังทราบข่าวว่า มือชิงทองยิงโหด 3 ศพ คือ ผู้อำนวยการหนุ่ม เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นเป็นคนนิสัยดี สุภาพ รักเด็ก และตลอด 2 สัปดาห์ หลังก่อเหตุก็เห็นใช้ชีวิตปกติ มาทำงานทุกวัน และในวันครูที่ผ่านมาก็ร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนาน จึงไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ
ช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่บ้านเกิดของนายประสิทธิชัย ใน ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี โดยควบคุมตัวบิดา อดีตตำรวจโรงพักเมืองลพบุรี และภรรยา พร้อมด้วยวัตถุพยานที่พบภายในบ้าน เพื่อนำไปประกอบสำนวนในคดี
เพื่อนบ้านบิดามารดาของผู้ต้องหาเล่าว่า สนิทคุ้นเคยกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดี เคยเลี้ยง ผอ.ประสิทธิชัย ตั้งแต่เด็ก ครอบครัวอบอุ่น พ่อเป็นตำรวจ แม่เป็นครู ไม่เดือดร้อนอะไร นิสัยดีทั้งครอบครัว และเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เกิด ขยัน ชอบออกกำลังกาย จนสามารถสอบบรรจุครูได้ที่โรงเรียนใน จ.ลพบุรี และมาทราบวันนี้ ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุปล้นทอง และยิงคนบาดเจ็บล้มตายหลายคน ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นไปได้
ญาติเหยื่อไม่อโหสิกรรม
ด้าน ร.อ.สุรกิต ทองทิพย์ บิดาน้องกวาง ยอมรับรู้สึกโล่งใจที่ตำรวจจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ หลังมีข่าวจับกุมคนร้าย ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงานของบุตรสาว ร่วมแสดงความยินดี และฝากถึงคนร้ายว่า ทำไมถึงโหดร้ายทำกับคนไม่มีทางสู้ และไม่คิดต่อสู้ คนไหนขวางหน้ายิงหมด ไม่ใช่นิสัยมนุษย์ที่อยู่ร่วมโลกกัน ทำเกินกว่าเหตุ ไม่ขออโหสิกรรมให้เพราะทำเกินไป
หลังผ่านเหตุการณ์ความสูญเสียมากว่า 10 วัน ก็คิดเพียงว่าลูกสาวก็ตายไปแล้ว คนยังอยู่ก็ต้องสู้กันต่อไป เลี้ยงหลานให้เจริญเติบโต ได้รับการศึกษาที่ดีและเป็นอนาคตของชาติ เชื่อว่าหลานรับรู้ว่าแม่ตายแล้ว แต่ก่อนนอนก็ยังถามหา ก็ต้องหลอกว่าแม่มานอนด้วยไม่ได้เพราะป่วย
ส่วนนายวัลลภ นิ่มมา บิดาของนายธีรฉัตร รปภ.ห้างโรบินสันลพบุรี กล่าวว่า ถ้าคนร้ายเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน แต่มาก่อเหตุ ถือว่าจิตใจโหดร้ายและโหดเหี้ยมมาก หากพบหน้าก็อยากถามว่า ทำไมเป็นคนโหดร้ายเช่นนี้ ทั้งที่มีการศึกษาดี และถ้าตอนนี้ ลูกชายรับรู้ได้ อยากบอกว่า ตำรวจจับคนที่ฆ่าลูกได้แล้ว เขาฆ่าลูกโดยที่ลูกยังไม่ได้สั่งเสียอะไรถึงพ่อแม่เลยสักคำ และฝากถึงกระบวนการยุติธรรม ควรตัดสินประหารชีวิตสถานเดียว และไม่ควรลดโทษให้ แม้ผู้ต้องหาจะรับสารภาพ เพราะจำนนต่อหลักฐาน ถ้าติดคุกไม่น่าจะเกิน 15 ปีแล้ว ก็อาจกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ความโหดเหี้ยมโหดร้ายเช่นนี้ไม่สมควรจะติดคุกเพียงไม่กี่ปี คนร้ายเป็นครู แต่จิตใจกลับโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ขอไม่ให้อโหสิกรรมและไม่ให้อภัย.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้จักพฤติกรรมคนร้าย “หวังโดนจับตาย” แรงจูงใจ-แนวทางรับมือ
- ย้อนรอย 13 วัน ปฏิบัติการไล่ล่าโจรกราดยิงชิงทอง
- ปฏิบัติการจับผู้ต้องหาชิงทองลพบุรี คนร้ายอ้างอยากให้ตำรวจจับตาย
- BIG STORY : 13 วัน จับคนร้ายชิงทองได้ เป็นถึง ผอ.รร. อ้างทำเพราะ “เบื่อชีวิต”
- ผบ.ตร.ยันไม่จับแพะคดีชิงทองลพบุรี พรุ่งนี้แถลง 10.30 น.
- รวบแล้วคนร้ายชิงทองลพบุรี ที่แท้เป็น ผอ.รร.