ย้อนรอย 13 วัน ปฏิบัติการไล่ล่าโจรกราดยิงชิงทอง

ลพบุรี 22 ม.ค.-นับแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ที่สามารถจับคนร้ายได้ ตำรวจใช้เวลา 13 วัน เราจะย้อนดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ตลอด 13 วันที่ผ่านมา


9 มกราคม เวลา 20.45 น. คนร้ายแต่งกายมิดชิด สวมกางเกงลายพราง หมวกไหมพรม ถุงมือ สะพายกระเป๋า ใช้ปืนเก็บเสียง บุกชิงทองในห้างกลางเมืองลพบุรี อุกอาจจ่อยิง 3 ศพ หนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายวัย 2 ขวบ บาดเจ็บอีก 4 ราย กวาดทอง 28 บาท ขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่าฟีโน่ สีขาว-แดง หลบหนี ใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 2 นาที


หลังเกิดเหตุ ตำรวจระดมกำลังไล่ล่า รุ่งเช้า 10 มกราคม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ ตั้งรางวัลนำจับกว่า 500,000 บาท แต่ไร้ร่องรอย


11 มกราคม ผบ.ตร.บินด่วนลพบุรี ประชุมเครียดกว่า 3 ชั่วโมง ส่งมือดีกว่า 200 นายไล่ล่า แกะเบาะแสสำคัญ ปืน รองเท้า รถจักรยานยนต์ การเดิน วิธีกระโดดขึ้นที่สูง  

12 มกราคม สอบปากคำพยานกว่า 10 ปาก ตรวจภาพวงจรปิดทุกเส้นทางหนี รอยต่อสระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท

13 มกราคม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หัวหน้าชุดสืบสวน ได้เบาะแสสำคัญที่มาอาวุธ คนร้ายประสงค์ชิงทรัพย์อย่างเดียว ท่ามกลางข่าวลือควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย แต่ไม่ใช่ตัวจริง

เช้ามืด 15 มกราคม เปิดแผนจู่โจมบุกค้นเป้าหมายกว่า 10 จุด ยึดปืนเก็บเสียง 13 กระบอก ตรวจสอบ ตกเย็น ผบ.ตร.ลงพื้นที่  แถลงคืบคดี เชื่อคนร้ายหนีกบดานชายแดน

17 มกราคม ผ่าน 7 วันคดีไม่คืบ สื่อเกาะติด ตำรวจยังไม่รู้ตัวคนร้าย สั่งคุมเข้มชายแดน เร่งแกะรอยรถจักรยานยนต์ฟีโน่ ลักษณะพิเศษล้อแม็กซ์ดำ

19 มกราคม คุมตัวผู้ต้องสงสัยจากหนองคาย สอบเครียดลพบุรี พบเบาะแสสำคัญกระเป๋าแบบเดียวกับของคนร้าย ผบ.ตร.ลงพื้นที่อีกครั้ง ลั่นปิดคดีใน 7 วัน จันทร์-อาทิตย์

2 วันให้หลัง ผบ.ตร.บอกปล่อยตัวชายต้องสงสัยแล้ว หลังพบไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนร้าย แต่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง เช้าตรู่ 22 มกราคม ได้ข่าวดี ตำรวจได้ตัวคนร้าย ผบ.ตร.ลงพื้นที่สอบสวนด้วยตัวเอง ปิดปฏิบัติการ 13 วัน ไล่ล่าโจรชิงทองลพบุรี.-สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย