ลพบุรี 28 ม.ค.-“ครูปอย” ภรรยาของผู้ต้องหาคดีชิงทองลพบุรี เตรียมแถลงเปิดใจเร็วๆนี้ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ ขณะที่สำนักข่าวไทยได้รับการยืนยันว่า “ครูปอย” อยู่ที่บ้าน ขณะสามีก่อเหตุชิงทอง
หลังตำรวจจับกุมผู้ต้องหาฆ่าชิงทองห้างเพชรทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสันลพบุรี ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา วันนี้มีรายงานข่าวว่า ภรรยาของนายประสิทธิชัย เขาแก้ว เตรียมเปิดใจต่อสื่อมวลชน หลังถูกสื่อมวลชนหลายสำนักนำเสนอข่าวว่าเธอมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุของสามี ในขณะที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ลพบุรี ได้จัดทำบุญใหญ่ ตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป
ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ลพบุรี ร่วมกับจังหวัดลพบุรี จัดทำบุญครั้งใหญ่เชิญชวนชาวลพบุรี หน่วยงานราชการ รวมกว่า 500 คน มาร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ 99 รูป โดยมีนายศุภกิต โพธิ์ประภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี และนายวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน มาร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นสิริมงคล หลังเกิดเหตุการณ์นายประสิทธิชัย เขาแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ก่อเหตุชิงทองเมื่อวันที่ 9 มกราคม จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งการทำบุญครั้งนี้ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ด้วย หลังจากก่อนหน้านี้ เคยทำบุญมาแล้วหนึ่งครั้ง ก่อนหน้าที่จะจับกุมผู้ต้องหาได้ ในการทำบุญครั้งนี้ มีการบริจาคโลหิต และเปิดโรงหนังให้เด็กด้อยโอกาส 200 คนได้ดูหนังฟรีด้วย
สำหรับคดีนี้ หลังจากที่ตำรวจจับกุมนายประสิทธิชัย ได้ช่วงเช้าวันที่ 22 มกราคม มีการสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งนายประสิทธิชัย โกหกตำรวจว่านำสร้อยคอทองคำที่ชิงทรัพย์ได้ไปทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ตำรวจส่งทีมนักประดาน้ำไปค้นหาตรงจุดที่นายประสิทธิชัยบอก ก็ไม่พบ จึงเค้นสอบ จนในที่สุดในช่วงค่ำเวลาประมาณ 19.00 น. นายประสิทธิชัย ยอมรับว่าซ่อนไว้ที่โรงรถบ้านป้าของเขาด้วยตัวของเขาเอง ช่วงนั้นชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน นำตัวนายประสิทธิชัยออกไปค้นโรงรถบ้านป้าของนายประสิทธิชัยตามคำรับสารภาพ และพบสร้อยคอทองคำซุกซ่อนไว้ 31 เส้นจริง
แต่หลังจากนั้นอีกราวชั่วโมง ก็มีการนำเสนอข่าวออกมาทางสื่อต่างๆ หลายสำนักว่า “พบทองที่บ้านภรรยาของนายประสิทธิชัย และภรรยาของนายประสิทธิชัย หรือครูปอย รับสารภาพว่าเป็นคนนำทองไปซ่อนเอง” ซึ่งข้อความที่นำเสนอผ่านสื่อแบบนี้ ไม่เป็นความจริง เนื่องจากภรรยาของนายประสิทธิชัย ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นใดๆ กับการก่อเหตุของสามีในครั้งนี้ และไม่ได้รู้เห็นในการที่สามีนำทองที่ชิงทรัพย์มาได้ไปซ่อนด้วย ทำให้เธอเกิดความเครียดมาก เพราะตลอดทั้งวันนั้นถูกคนเล่นโซเชียลมีเดียคุกคามทางเพศอย่างหนัก และถูกตราหน้าว่ารู้เห็นกับการก่อเหตุของสามีด้วย ทำให้ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อสภาพจิตใจพร้อม ครูปอยจะออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ส่วนเรื่องการเสริมความงาม ไม่ได้ใช้เงินของนายประสิทธิชัย แต่ใช้เงินของตัวเอง และทำมาก่อนที่จะคบนายประสิทธิชัย อีกทั้งคลิปผู้หญิงอาบน้ำก็ไม่ใช่ตัวเอง ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีคนที่โพสต์ให้เสียหาย
ในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยที่ไปติดตามคดีนี้ ตั้งแต่วันแรก เล่าให้ฟังว่า ในวันที่นายประสิทธิชัย ถูกจับกุม และถูกสอบสวนที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี ครูปอยผู้เป็นภรรยา ก็ถูกตำรวจนำตัวมาซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งหลังจากนายประสิทธิชัย ยอมรับสารภาพว่านำทองไปซ่อนไว้ที่บ้านป้า และพาตำรวจไปค้นจนเจอนั้น ครูปอยก็ยังนั่งอยู่กับตำรวจที่ซักถาม แต่สักพักสื่อก็ไปลงข่าวว่า “ภรรยามีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุของสามีและภรรยาสารภาพที่ซ่อนทอง” ทำให้เธอเครียดมากถึงขั้นกับร้องไห้ออกมาในตอนนั้น เพราะข่าวที่ออกมาคลาดเคลื่อน
ส่วนเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในวันที่นายประสิทธิชัยไปก่อเหตุนั้น ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยไปตรวจสอบ พบว่าวันนั้น หลังจากที่นายประสิทธิชัยและครูปอยกลับถึงบ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านพ่อตาแม่ยาย หรือบ้านครูปอยเอง ครูปอยได้เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายประสิทธิชัย สบโอกาส ขับรถจักรยานยนต์พ่อตา ออกจากบ้านพักไปยังห้างโรบินสันลพบุรี ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร โดยระหว่างทางจอดรถเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ เมื่อถึงโรบินสัน จอดรถด้านหน้า แล้วเข้าไปกราดยิงชิงทองใช้เวลา 1.37 นาที จากนั้นก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากห้างโรบินสันกลับบ้านพัก ระหว่างทางก็ถอดชุดที่ใช้สวมใส่ไปปล้นทิ้งแถวซอยโยธาธิการลพบุรี โดยไม่จอดรถจักรยานยนต์ จนไปถึงบ้านพัก ซึ่งปรากฏว่าตอนนั้น ภรรยาของนายประสิทธิชัย ยังอาบน้ำไม่เสร็จด้วยซ้ำ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายประสิทธิชัยมีการวางแผนและทำอย่างรวดเร็วมาก โดยที่ทั้งภรรยา พ่อตา แม่ยาย รวมถึงพ่อแม่ของนายประสิทธิชัยเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุของเขาเลย
ส่วนปมเหตุนั้นเท่าที่มีการสอบสวน หลักๆ ก็เป็นเรื่องที่นายประสิทธิชัยซื้อรถเถื่อน สวมทะเบียน BMW Z4 แล้วถูกศุลกากรยึด ต้องเสียค่าปรับกว่า 600,000 บาท จึงจะได้รถคืน เป็นแรงจูงใจหลักที่ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุชิงทอง.-สำนักข่าวไทย