fbpx

เตรียมตรวจสอบกล้องวงจรปิด คลิปเริงสวาทในมหาวิทยาลัยดังย่านบางเขน

บางเขน 19ม.ค.- ตร.ขอเวลา  2-3 วัน จะชัดเจนกรณีคลิป เริงสวาทใน มหาวิทยาลัยดัง ย่านบางเขน ด้าน นศ. เผยเคยเจอเหตุอุจาดชายร่วมรักชายในจุดใกล้เคียงกันเมื่อปีที่แล้ว



จากกรณีมีการแชร์คลิปเหตุการณ์ คู่รักหนุ่มสาว ที่ถ่ายภาพตัวเองขณะกำลังทำกิจกรรมเริงรักแบบเอาท์ดอร์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางเขน โดยคลิปดังกล่าวมีความยาว 5.53 นาที เริ่มต้นจากกล้องหน้ารถ ที่บันทึกให้เห็นเส้นทางที่รถยนต์เข้าไปภายในมหาวิทยาลัย จากนั้นคู่รักลงจากรถในสภาพเปลือยเปล่าก่อนจะตั้งกล้อง ถ่ายภาพขณะร่วมรักกัน


วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ได้ดูสถานที่อีกครั้ง จุดเกิดเหตุอยู่ภายในมหาวิทยาลัยดังย่านบางเขน  เริ่มจากเส้นทางเข้ามาในมหาวิทยาลัยแบบในคลิป จนมาถึงบริเวณจุดที่เห็นในคลิปเป็นสนามซ้อมเทนนิส บริเวณโดยรอบมีชมรมกีฬาต่างๆตั้งอยู่ด้วย โดยทางเข้ามายังจุดเกิดเหตุ จะต้องเดินเข้ามาจากถนนใหญ่ ลัดเลาะเส้นทางเข้ามาประมาณ 50 เมตร มีต้นไม้ใหญ่หลายต้น ถือว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างอับสายตบผู้คนพอสมควร 

สอบถามนักศึกษาสาวคนหนึ่งที่ใช้พื้นที่ชมรมเพื่อซ้อมกีฬา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ บอกว่า เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว เชื่อว่าไม่น่าเป็นนักศึกษา หรือคนในมหาวิทยาลัยแน่ๆเพราะไม่มีใครจะทำเรื่องแบบนี้ในมหาวิทยาลัยตัวเองแน่ๆ  และเรื่องที่เกิดรู้สึกว่าเป็นสิ่ง ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะมองว่าพื้นที่มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ปลอดภัยอันดับสองรองจากบ้านที่อยู่อาศัยแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นทำให้ตนเองรู้สึกกลัว เนื่องจากเป็นผู้หญิงและต้องใช้พื้นที่ดังกล่าวในการทำกิจกรรมอยู่ทุกวัน จึงอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยภายในตัวมหาวิทยาลัยมากกว่านี้  ข้อสังเกตหนึ่งที่ตัวเองและหลายหลายคนเห็นชัดคือเรื่องประตูเข้าออกมหาวิทยาลัย  แม้ว่าจะมีเวลากำหนดให้บุคคลทั้งภายนอกและภายในเข้าออก โดยประตูจะปิดในเวลา 22.00 น. แต่จะมีประตู 1 ที่เข้าออกจากเส้นถนนงามวงศ์วานจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำประตู ก็จะเปิดให้บุคคลทั้งภายนอกและภายในเข้าออกได้ตามสบาย จุดนี้เองทำให้ตนมองว่าอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีบุคคลภายนอกเข้ามาทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ง่าย และที่สำคัญเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่เป็นเหตุการณ์แรกที่เคยเกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัย เพราะตนเองเคยเจอกับตัวเองมาแล้ว บริเวณด้านหน้าชมรมเมื่อปีที่แล้ว เวลาประมาณ 22.00 น. ตนได้ลืมของที่ชมรมเลยกลับมาเอา แต่ต้องมาเจอภาพอุจาดตา เป็นภาพชายกับชายกำลังร่วมรักกัน ตัวเองได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจนชายสองคนรีบหนีออกไป   จากนั้นจึงได้ทำเรื่องไปยังชมรมกีฬากลางให้แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปยังมหาวิทยาลัยแต่สุดท้ายก็ยังเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันขึ้นอีกจึงมองว่าไม่ค่อยปลอดภัยสักเท่าไหร่สำหรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย


ด้านความคืบหน้าทางคดี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังตัวแทนมหาวิทยาลัยดังแล้วได้ข้อมูลว่า เชื่อว่าคงไม่ใช่คนในมหาวิทยลัยที่จะทำเรื่องแบบนี้แน่นอน และไม่มีความจำเป็นต้องแถลงข่าวใดๆเพราะเรื่องนี้ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการจัดการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี 

ขณะที่ พ.ต.ท.อนันต์ วรสาตร์ รอง ผกก.สส.สน.บางเขน เปิดเผยข้อมูลว่า หลังได้รับแจ้งเหตุวานนี้ ได้ให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบจุดที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว พร้อมถ่ายรูปจำลองเหตุการณ์ ตรงต้นปาล์มข้างสนามเทนนิส เพื่อตรวจสอบมุมกล้องว่าตรงกับคลิปที่แชร์กันหรือไม่ ขณะนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดและโดยรอบมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากติดวันหยุดเลยอาจจะยังได้ข้อมูลไม่สมบูรณ์ต้องรอพรุ่งนี้วันเปิดทำการ  จึงจะได้ขอข้อมูลจากกล้องวงจรปิดทุกตัวในมหาวิทยาลัย ตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย รวมถึงรถยนต์ที่ขับเข้าไปในมหาวิทยาลัยฯช่วงกลางคืน  พร้อมจะได้ประสานไปยังกองบังคับการปราบปราม การกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอีกทาง เนื่องจากทราบว่า คลิปดังกล่าวมาจากต่างประเทศ ต้องตรวจสอบผู้อัพโหลดข้อมูล ส่วนตัวเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะสังเกตบริบทโดยรอบยังเหมือนปัจจุบันมาก และขอเวลาทำคดีนี้อีก 2-3 วัน จะมีความชัดเจนผู้กระทำผิดได้อย่างแน่นอน   ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยสถานที่เกิดเหตุยยังไม่ได้แจ้งความ แต่ได้ประสานไปยังมหาวิทยาลัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553