กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – “ถาวร” ตรวจงานไทยสมายล์ สั่งลดต้นทุนพร้อมหาช่องทางเพิ่มรายได้ จี้ส่งรายงานย้อนหลัง 6 – 7 ปี ขอดูสถานะการดำเนินงาน ตั้งพลอากาศเอกชัยพฤกษ์ นั่งประธานบอร์ดการบินไทย มีผล 16 ม.ค. นี้
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกรทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายการบริหารงานให้กับผู้บริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จํากัด โดยได้มอบนโยบายในการบริหารงาน ในการเร่งลดต้นทุนและเพิ่มรายได้โดยเพิ่มช่องทางการรับรู้รายได้ ไปยังธุรกิจภาคบริการอื่น ๆ โดยใช้แบรนด์ไทยสมายล์เป็นตัวนำร่อง เช่น การขนส่งสินค้า การขายสินค้าบนเครื่องบิน การเพิ่มกลยุทธ์ที่แตกต่างจากสายการบิน Low Cost ลดต้นทุน
“เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ โดยลดค่าใช้จ่ายเพื่อไปสู่เป้าหมายในการทำกำไรสูงสุดโดยเร็ว ทั้งนี้ บริษัท การบินไทย กับ บริษัท ไทยสมายล์ ควรทำงานร่วมกันแบบประสานในทุกด้าน ส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิด เสมือนเป็นบริษัทเดียวกัน ทั้งด้านการจัดการ การปฏิบัติการ การบริการ การจัดเส้นทางการบิน และการตลาด เพื่อไม่ให้เกิดความเปรียบเทียบและแข่งขันระหว่างกัน”นายถาวร กล่าว
นอกจากนี้ต้องปฏิบัติงานร่วมกันกับองค์กรอื่น โดยไทยสมายล์ ควรหาความชัดเจนในการวางแผนเส้นทางการบิน ควรหลีกเลี่ยงการบินทับเส้นทางระหว่าง บริษัท การบินไทย กับ บริษัท ไทยสมายล์ เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกันเอง และการสับสนของผลิตภัณฑ์แบรนด์สินค้า ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น เช่น กรุงเทพ-เชียงใหม่, กรุงเทพ-ภูเก็ต รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อเส้นทางบินของการบินไทย
ทั้งนี้ต้องปฏิบัติงานร่วมกันกับองค์กรอื่น โดยดำเนินการเที่ยวบินร่วม (CodeShare Flight) กับสายการบินอื่น และเข้าร่วมเป็นสมาชิก Star Alliance Connecting Partner โดยการบริการให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกับการบินไทย ด้านการบริการและภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกัน ไม่เปรียบเทียบกัน เสมือนเป็นสายการบินเดียวกัน และควรจัดทำ Action Plan และแผนฟื้นฟูสำหรับติดตามและสนับสนุนการทำงานที่มีประสิทธิภาพต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้บริษัทรวบรวมผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 – 7 ปีที่ผ่านมา ว่ามีสถานะอย่างไรบ้างโดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ รวมถึงกรณีการเปิดน่านฟ้าเสรีนั้น มีแผนรับมือกับการแข่งขันอย่างไรบ้าง ส่วนแผนการจัดหาเครื่องบินทั้ง 2 สายการบิน คือ การบินไทย และ ไทยสมายล์นั้น ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) โดยได้มีการเร่งรัดเนื่องจากจะต้องจัดหาเพื่อมารองรับการให้บริการเร่งด่วน ซึ่งมีความจำเป็นด้านการแข่งขัน
“ประเด็นนี้ก็ได้สั่งการไปยังพลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จะต้องศึกษาให้เหมาะสมกับเส้นทางการบิน เรื่องของขนาดที่ให้บริการ รวมถึงจะต้องจัดทำแผนธุรกิจการจัดหาเครื่องให้คุ้มค่าและสามารถทำกำไรได้”นายถาวรกล่าว
ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าในการวางแผนการดำเนินงานจะต้องมีการหารือเพื่อเดินตามยุทธศาสตร์ของการขนส่งระหว่างประเทศทั้งผู้โดยสารและพัสดุ จึงส่งผลให้ในการจัดการทรัพยากรจะต้องอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ร่วมกันกับทางสายการบินไทยสมายล์ และในฐานะที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นทำหน้าหน้าที่กำกับเงินทุน จัดการทรัพยากรต่างๆ
อย่างไรก็ตามต้องกลับมาช่วยกันดูแล และอีกหนึ่งเรื่องที่จำเป็นจะต้องทำคือการจัดตารางการบินต่อวันที่จำเป็นจะต้องให้สอดคล้องกันกับหน่วยงานทางด้านการบินที่เกี่ยวข้องจึงต้องร่วมมือกันหากต้องการที่จะเป็นศูนย์กลางทางด้านการบิน เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญสายการบินไทยซึ่งเป็นสายการบินหลักที่ขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศการทำให้มีประสิทธิภาพในการขนส่งก็จะส่งผลให้ยุทธศาสตร์ของประเทศขับเคลื่อนไปได้
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมามีมติแต่งตั้งกรรมการดังนี้ ตั้ง พลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยศริน เป็นประธาน กรรมการบริษัท แต่งตั้ง พลอากาศเอกชาญยุทธ ศิริธรรมกุล เป็นรองประธานกรรมการบริษัท และแต่งตั้ง นายจักรกฤศฏิ พาราพันธกุล เป็นกรรมการบริษัท แทนนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ทั้งนี้มติดังกล่าวให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2563เป็นต้นไป . – สำนักข่าวไทย