มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 เพื่อนำข้อเสนอส่งให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป และ5.นายรอมาฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอ เรื่องขอให้สภาฯตั้งกมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบกและทางทะเล MOU 43 และ44

จากนั้นนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เนื่องจากวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน มีการประสานงานกันเรียบร้อยแล้ว ทางรัฐบาลม่ขัดข้องในการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ที่จะมาคุยกันในสภาฯ อ่างไรก็ตามเนื่องจากญัตติดังกล่าวเป็นความละเอียดอ่อน เป็นความมั่นคงของประเทศ และกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นขอให้เป็นการประชุมลับ


ทำให้น.ส.แนน ลุกขึ้นแย้งว่า การที่นานวัชระพล อ้างว่ามีการตกลงกันแล้วระหว่างวิปฝ่ายค้านและรัฐบาล ซึ่งจริงแล้วไม่ใช่ของสัปดาห์นี้ เราไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ เท่าที่ตนได้ประสานกับเลขาฯ วิปรัฐบาล ได้บอกว่าวันนี้เราจะมีการพิจารณาญัตติในประเด็น MOU 43 และ44 และไม่ได้คุยในประเด็นอื่นๆ หลังจากนี้ เพระาฉะนั้นวันนี้ถ้าจะมาอ้างว่ามีการตกลงกันแล้ว ไม่มี ไม่ว่าจะเป็นการประขุมลับ หรืออะไรก็ตามเป็นการพูดคุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

“เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การทำตามข้อตกลงทุกอย่าง ท่านคว่ำไปเอง ท่านปิดประชุม เมื่อปิดประชุมแล้ว ดิฉันถือว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์นี้เราคุยกันเรื่องการพิจารณษญัตติ และขณะนี้มีผู้เสนอญัตติ อีก 4 ท่าน หากถามเฉพาะผู้เสนอญัตติ ดิฉันมั่นใจว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นความลับ MOU 43 และ44 มีมาทั้งหมด 24-25 ปีแล้ว มีการพูดคุยเนื้อหาในวงกว้างมานานมากแล้ว ช่วงนี้ก็มีการพูดคุยกัน ดังนั้นดิฉันไม่เห็นด้วยให้ประชุมลับ” น.ส.แนน กล่าว

นายวัชระพล กล่าวว่า ขออภัยฝ่ายค้าน อาจจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ดังนั้นตนขอแก้ไขคำพูดตัวเองว่ารัฐบาลไม่ขัดข้องในการเสนอญัตติ แต่สัปดาห์นี้อาจจะไม่ได้ประสานงานระหว่างฝ่านค้านกับรัฐบาล เป็นการประสานงานสัปดาห์ที่แล้ว แต่ในสัปดาห์นี้ไม่ขัดข้องให้เสนอญัตติด่วน แต่ยืนยันให้ประชุมลับ แต่เพื่อให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ในช่วงเวลาที่เสอนญัตติ ช่วงเสนอญัตติอาจไม่เป็นการประชุมลับก็ได้ แต่ช่วงเวลาที่เข้าสู่การอภิปรายขอให้เป็นการประชุมลับ


ทำให้นายไชยา ชี้แจงถึงความผิดพลาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยอมรับว่าตนในฐานะที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ตนไม่ได้ทราบข้อตกลงของการคุยกันระหว่างวิปทั้งสองฝ่ายเลย ดังนั้นการปิดประชุมในสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ไม่ดีสำหรับสภาฯ โดยเฉพาะเรื่องการถกปัญหาสำคัญของบ้านเมือง ก็ต้องยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดในการประสานงานจริงๆ และตนอยากจะเห็นสมาชิกทั้งสองฝ่าย เรามีสภาฯที่เป็นเวทีในการที่จะถกปัญหาของบ้านเมือง เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก และตนก็พร้อมที่จะเป็นประธานในที่ประชุมและให้ความร่วมมือกับสมาชิกทุกฝ่าย และขอให้เป็นมติ และข้อตกลงร่วมกันของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล

จากนั้นสส.พรรคภูมิใจไทย และพรรคฝ่ายค้าน ไม่ยอมที่จะให้เป็นการประชุมลับ เพราะอยากฟังเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงอยากให้เป็นประชุมลับ ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยให้เหตุผลไปแล้วว่าไม่สมควรประชุมลับ หากจะเปิดเผยก็ควรจะเปิดเผยทั้งหมด และปัจจุบันทั้ประเทศและทั่วโลก เขาทราบกันดีเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยกัมพูชาอยู่แล้ว จึงควรให้ประชาชนได้ยินด้วย อย่าปิดหูปิดตาประชาชนเลย

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล อภิปรายว่า ได้ปรึกษาหารือกับฝั่งรัฐบาลทั้งหมด และพรรคประชาชนก็หารือกัน เห็นว่าการจะเปิดโอกาสให้ผู้เสนอ ได้สนอโดบเปิดเผย สามารถเปิดเผยได้ แต่การอภิปรายของสมาชิกทั้งหมดอาจไปกระทบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเจรจาหลายอย่าง ซึ่งฝ่ายความมั่นคงกำลังทำหน้าที่อยู่ ตนเชื่อว่า การพูดออกไปทั้งหมด เราไม่สามารถควบคุมผู้พูดได้ ว่าจะพูดในแนวไหน พลาดพิง หรือเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง ก็จะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ก็ให้ประชุมลับ

เช่นเดียวกับนายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปราย ว่า นักการเมืองมีอิสระเสรีพูดได้ทุกเรื่องไม่ควรมีข้อจำกัด แต่มี2เรื่องให้ระวัง ต้องใช้วุฒิภาวะระดับสูง คือ เรื่องความมั่นคง และการแบ่งแยกฝ่ายค้านกับรัฐบาล สำหรับความมั่นคงเหตุผลที่ต้องใช้วุฒิภาวะ แม้เป็นความจริงที่ควรให้ประชาชนรู้ แต่ต้องดูระยะเวลาไม่ใช่ให้รู้ทุกอย่างเหมือนฝ่ายทำงาน ทไม่ใช่ปิดหูปิดตา แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์หากอยู่ในกรอบเอ็มโอยูอย่างเดียวไม่มีปัญหา แต่เชื่อว่าการอภิปรายจะมีอารมณ์ และเกินจากสาระ

“เป็นเรื่องเปราะบาง และอ่อนไหว เพราะหากให้ฝ่ายกัมพูชารู้ หากอยากให้เขารู้ทุกเรื่องสามารถประชุมเปิดเผยได้ แต่หากอยากให้คนไทยรู้แต่กัมพูชาไม่ควรรู้ควรเป็นการประชุมลับ อีกทั้งบางเรื่องอาจจะเป็นการยั่วยุ และบางเรื่องอาจขาดอำนาจต่อรอง สำหรับการประชุมลับไม่ใช่เรื่องแปลกหรือทำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ยืนยันไม่ใช่การปิดหูปิดตาประชาชนแต่เป็นประโยชน์ประชาชนมากกว่า คววรคุยจำกัดวง เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ที่คุยกันไม่คววรคู่ต่อสู้หรือข้าศึกรู้” นายสุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส.ฝ่ายค้าน และ สส.ฝ่ายรัฐบาลต่างมีความเห็นไม่ตรงกันกับวิธีการประชุม ขณะเดียวกันนายวัชระพล ยืนยันให้ประชุมเป็นการลับ ทำให้นายไชยยา วินิจฉัยว่า การเสนอให้ประชุมลับ ต้องมีการรับรองโดยสมาชิกไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 หรือ 123 เสียง โดยผลการรับรองให้ประชุมลับ 198 เสียง อย่างไรก็ที่ประชุมได้ตกลงให้ประชุมลับ ภายหลังจากการเสนอญัตติของผู้เสนอแล้วเสร็จ
จากนั้นผู้เสนอญัตติทั้ง 5 ญัตติ ได้เสนอเหตุผลในการยื่นญัตติด่วนครั้งนี้ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย