หาหลักฐานดาราหนุ่มเกี่ยวข้องอุ้มนักธุรกิจสิงคโปร์เรียกค่าไถ่

ภูมิภาค 13 ม.ค. – ผบช.ภ.2 เผยคดีอุ้มเรียกเงินค่าไถ่นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ มีความคืบหน้ามาก หลังตำรวจตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย พบพยานวัตถุและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เตรียมการเพื่ออุ้มเรียกค่าไถ่ คาดไม่เกิน 1-2 วันนี้ ปิดคดีได้ 


จากกรณีที่นายมาร์ค เชง ผู้เสียหาย อายุ 33 ปี นักธุรกิจด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ สร้างแอปพลิเคชันสตาร์ทอัพ ชาวสิงคโปร์ ถูกแก๊งเพื่อนชาวต่างชาติอุ้มเรียกค่าไถ่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา จาก จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งผู้เสียหายสามารถหลบหนีออกมาได้จากพื้นที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งความ ระบุว่า ถูกนายคิม ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนชาติเดียวกัน ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน อุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่ 1 ล้านบาท โดยมีชาวไทยที่มีชื่อถูกเชื่อมโยงอีกหลายคน หนึ่งในนั้นเป็นนักแสดง ซึ่งเป็นเจ้าของรถที่พานายมาร์ค เชง ผู้เสียหาย ไปขังไว้ในห้องพักกลางป่า และยังบังคับให้โอนเงินเข้าบิทคอยน์จำนวนหลายล้านดอลลาร์ฯ  


ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เดินทางมาติดตามคดีที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมเผยว่า คดีมีความคืบหน้าอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นบ้านของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เชื่อมโยงในคดีค่อนข้างมาก อาทิ อุปกรณ์ต่างๆ ที่มีการเตรียมการไว้ เพื่อจับกุมผู้เสียหายไปเรียกค่าไถ่ โดยชนวนเหตุความขัดแย้ง หลังจากชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้สอบปากคำผู้ต้องหา ยังคงเป็นเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจ สกุลเงินบิทคอยน์ ที่มีการโอนให้กันไปมา ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา สืบสวนในเรื่องของอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งระบบต่างๆ ของการเงิน และเรื่องของชาวสิงค์โปร์ที่นำเงินมา ซึ่งคาดว่าจะทราบผลชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้ พร้อมกันนี้ยังพบว่า มีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 3 คน ทั้งคนไทยและสิงคโปร์ ตามพยานวัตถุต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มา


ส่วนกรณีที่มีดารานักแสดงเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น อาจไม่ทราบถึงการก่อเหตุของผู้ต้องหา หรืออาจถูกหลอกให้ขับรถมารับ ซึ่งต้องเชิญตัวมาสอบสวน รวมทั้งตรวจสอบพยานวัตถุ และพยานอิเล็กทรอนิกส์ หากมีความเชื่อมโยงก็ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้วบางส่วน และมั่นใจในคณะทำงานพนักงานสอบสวนว่า คดีนี้จะจับกุมผู้ต้องหาได้ และติดตามทรัพย์สินที่หายกลับคืนมา เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ขอทุกฝ่ายรอศาลปกครองตัดสิน “ที่ดินเขากระโดง”

“อนุทิน” ขอทุกฝ่ายหยุดตอบโต้ปม “เขากระโดง” รอศาลปกครองตัดสินชี้ขาด ยันแม้ไม่ใช่ “มท.หนู” กรมที่ดินก็ตัดสินแบบนี้

เตือนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง อีสานอุณหภูมิลด 2-4 องศาฯ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น