เชียงใหม่ 6 ม.ค.-เลขาฯ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ พร้อมอธิบดีกรมป่าไม้ตรวจสอบรีสอร์ทรุกป่าบนดอยม่อนแจ่ม เชียงใหม่ พบมีการขยายพื้นที่รุกเขตป่ากว่า 10 แห่ง บางแห่งเปลี่ยนมือให้นายทุนต่างชาติถือครอง สั่งดำเนินคดีและจัดระเบียบให้เสร็จภายใน 4 เดือน
จากภาพถ่ายทางอากาศซึ่งใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ จะเห็นภาพบนดอยม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ในอำเภอแม่ริม ที่เชียงใหม่ เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างและลานกางเต้นท์ ถึง 64 แห่ง โดยรีสอร์ทที่มีสิ่งปลูกสร้าง 56 แห่ง พบการขยายพื้นที่บุกรุกป่าที่ดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย ในจำนวนนี้ 3 ราย มีนายทุนเข้ามาถือครองสิทธิ์ และหนึ่งในนั้นเป็นนายทุนต่างชาติ และ 11 แห่งเป็นของชาวบ้านแต่มีการขยายพื้นที่เพิ่มซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ส่วนที่เหลืออีก 38 แห่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบลานกางเต้นท์อีก 8 แห่งที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบด้วย
นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ทที่ถูกดำเนินคดีและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ กล่าวว่า รีสอร์ทที่ผุดขึ้นมามากมายกลายเป็นทัศนอุจาดของม่อนแจ่ม ต้องหยุดการรุกพื้นที่ป่าสงวนซึ่งตอนนี้กินพื้นที่เกือบ 30 ไร่ ในส่วนของรีสอร์ทที่ดำเนินคดีให้รื้อถอนภายใน 45วัน และดำเนินเนินคดีกับกลุ่มนายทุนที่เข้ามารุกป่าอย่างเด็ดขาด
และนอกจากการดำเนินคดีกับนายทุนที่รุกป่าแล้ว จะดำเนินการตรวจสอบทางภาษีควบคู่ไปด้วย ก่อนที่จะจัดระเบียบรีสอร์ททั้งหมด เพื่อให้คืนสภาพธรรมชาติโดยเร็ว โดยยึดกรอบวัตถุประสงค์ของโครงการหลวง ที่ใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นหลัก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วางกรอบจัดระเบียบม่อนแจ่มให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน เพื่อคืนสภาพธรรมชาติและความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่ยังยึดการทำการเกษตรและอยู่ด้วยความพอเพียงเป็นหลัก
ด้าน นายอรรถพล อธิบดีกรมป่าไม้ ยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ปฎิเสธไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีทั้งการถูกกดดันและปล่อยปละละเลย ซึ่งหลังจากนี้ได้คาดโทษไว้แล้วหากยังพบการปล่อยปละละเลยจะดำเนินการลงโทษตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาลงมา.-สำนักข่าวไทย