ประธานสภาธุรกิจไทยมั่นใจความขัดแย้งตะวันออกกลางไม่กระทบเศรษฐกิจไทย

ตลท. 6 ม.ค. – FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้ลงทุน 3 เดือน ทรงตัวต่อเนื่อง 5 เดือนติด ต่ำสุดในรอบ 3 ปี  ประเมินความขัดแย้งสหรัฐ -อิหร่านยังไม่สุกงอมถึงขั้นทำสงคราม มั่นใจไม่กระทบเศรษฐกิจไทย


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neural) เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ลดลง 8.17%  มาอยู่ที่ระดับ 80.75 ถือเป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปีและยังทรงตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวได้แย่ที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาค โดยเฉพาะไตรมาส 4/2562 ซึ่งนักลงทุนคาดหวังการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐบาลและการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่กลับมีความล่าช้า

ทั้งนี้ ผลสำรวจพบว่านักลงทุนคาดหวังนโยบายภาครัฐและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด และกังวลความขัดแย้งระหว่างประเทศ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศและสถานการณ์การเมือง เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด สำหรับหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดการแพทย์ (HEALTH) หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค(ENERG) ขณะที่หมวดธนาคาร (BANK) ไม่น่าสนใจมากที่สุด รองลงมาคือ หมวดสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA)


สำหรับเดือนธันวาคม 2562 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ เคลื่อนไหวในช่วง 1,548-1,579 จุด ดัชนีปรับตัวลดลงในครึ่งเดือนแรกมาอยู่จุดต่ำสุด 1,548 จุด จากนั้นทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่บริเวณ 1,570-1,580 จุด ในช่วงปลายเดือน โดยได้รับผลดีจากผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในข้อตกลงการค้าขั้นที่ 1 ที่เป็นไปได้ด้วยดี ขณะที่นักลงทุนคาดหวังแรงซื้อ LTF ปลายปี แม้ว่าตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทยยังมีการเติบโตชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่ปี 2563 ไทยได้รับปัจจัยหนุนจากปีก่อนที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยถือว่า Underperform กับตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก และมีผลกระทบจากการการเปลี่ยนมาตรฐานบัญชี กฎหมายแรงงานทำให้บริษัทจดทะเบียนจะต้องตั้งสำรองเพิ่ม และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นผิดปกติในปีก่อน แต่ปีนี้จะไม่ต้องเผชิญกับปัจจัยเหล่านี้อีก พร้อมมองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2563 จะขยายตัวดีกว่าปี 2562 หลังจากสงครามการค้าสหรัฐกับจีนมีทิศทางดีขึ้น โดยเริ่มเห็นการลงทุนภาคเอกชนตามมา แม้จะมีแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยมากนัก ส่วนตัวมองว่าความขัดแย้งนี้ยังไม่สุกงอมถึงขั้นเป็นสงครามอาจจะเป็นการทำลายสิ่งต่าง ๆ เชิงสัญลักษณ์มากกว่า ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนหันมาถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำกันมากขึ้น และกดดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น มั่นใจไม่กระทบเศรษฐกิจไทย ขณะที่ในไทยสัญญาณการจับจ่ายใช้สอยเริ่มกลับมาดีขึ้นจากมาตรการของรัฐบาลที่ออกมากระตุ้นและการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้เป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปี 2563 ไว้ที่ 1,700 จุด และบริษัทจดทะเบียนจะมีกำไรสุทธิเติบโต 10%

ส่วนแนวโน้มการลงทุนส่วนใหญ่ที่นักวิเคราะห์เกือบทั้งหมดจะมองตรงกันยังคงเน้นหุ้นเกี่ยวกับกับการบริโภคภายในประเทศที่อิงกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกที่จะได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายเงิน และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม จากการเดินหน้าโครงการอีอีซี และรับประโยชน์ย้ายฐานการผลิตสินค้าของผู้ประกอบการต่างชาติ ส่งผลดีต่อยอดขายที่ดินตามไปด้วย ส่วนอีก 2 กลุ่มจะเป็นหุ้นกลุ่มโรงแรมที่จะได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่คาดว่ายังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง และหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ถือเป็นกลุ่มที่ขยายตัวสอดคล้องกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย


ปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตาม ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจจากการเจรจาทางการค้าภายหลังข้อตกลงทางการค้าขั้น 1 เป็นไปด้วยดีและแนวโน้มการเจรจาข้อตกลงทางการค้าขั้นที่ 2 ทิศทาง BREXIT ทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) ด้านปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ การเบิกจ่ายงบประมาณรัฐบาลปี 2563 นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การส่งออก ค่าเงินบาท สถานการณ์การเมืองในประเทศ และการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท. ยังคงติดติดตามอย่างใกล้ชิด . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง