พังงา 4 ม.ค.- เสียดายยิ่ง! ไข่เต่ามะเฟืองชายหาดท้ายเหมืองถูกขโมยยกรัง เหลือแค่ไข่ลม เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เร่งหาหลักฐานดำเนินคดีผู้ทำผิด ด้าน “ผศ.ดร.ธรณ์” โพสต์เตือนใครจำหน่าย ขโมย หรือครอบครองมีโทษหนัก จำคุก 3-15 ปี ปรับ 300,000- 1.5 ล้านบาท ชี้เต่ามะเฟืองเป็นสัตว์สงวนควรต้องอนุรักษ์
นายหฤษฎ์ชัย ฤทธิช่วย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 04.30 น. วันนี้ (4 ม.ค.) ชุดลาดตระเวนของอุทยานฯ พบร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเลขนาดใหญ่ ก่อนสุดแนวชายหาดติดโขดหินเขาหน้ายักษ์ จึงเร่งประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการขุดหาเป็นเวลานานพบเพียงไข่ลมจำนวน 2 ฟอง คาดว่าถูกผู้ลักลอบแอบขุดไปก่อนชุดเจ้าหน้าที่มาถึง ผลการตรวจวัดขนาดของรอยมี ความกว้างของพายซ้ายถึงพายขวา 155 ซม. อก 50 ซม. ซึ่งเป็นแม่เต่าตัวใหญ่ และดูจากลักษณะของไข่ลมที่เหลือ ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นเต่ามะเฟือง คาดว่าขึ้นมาวางไข่ประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขโมย
ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่าย กิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เต่ามะเฟืองเป็นสัตว์สงวน การขโมย/จำหน่าย/ครอบครองไข่เต่า มีโทษจำคุก 3-15 ปี ปรับ 3 แสน – 1.5 ล้าน ซึ่งรุนแรงมาก เป็นโทษตาม พ.ร.บ.สงวนคุ้มครอง (2562) ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้ว หากผู้ใดพบเห็นการกระทำผิดให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ กองทุนอนุรักษ์ไข่เต่าที่ช่วยกันทำโดยมีภาคเอกชนสนับสนุนที่จะมอบเงินนำไปสู่การเอาผิดบุคคลนั้น จำนวน 20,000 บาท ที่ผ่านมามีผู้แจ้งและได้เงินรวดเร็วทุกราย สำคัญที่สุดเพราะเต่ามะเฟืองคือหนึ่งในสัตว์หายากสุดในทะเลไทย
“ไม่งั้นจะเป็นสัตว์สงวนทำไม 5-6 ปีที่ผ่านมา เราไม่เจอเต่าเลย เจอแต่ศพกินขยะทะเล กระทั่งปีที่ผ่านมา ทั้งประเทศได้ช่วยกัน จนสามารถฟักลูกเต่าออกมาได้มากกว่า 130 ตัว และปีนี้ ก็พบมีการกลับมาวางไข่แล้วถึงสองรัง โดยคาดว่าน่าจะได้สักร้อยตัว ส่วนแม่เต่ารังที่สาม ที่โดนถูกขโมย ไข่เต่าไปนั้นคาดว่าน่าจะฟักได้ประมาณ 50 ตัว เป็น 1 ใน 3 ของเต่ามะเฟืองทั้งฤดู จึงอยากขอให้ทางจังหวัดดำเนินการให้ถึงที่สุด และฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า อย่าให้ชื่อเสียงทุกอย่างที่คนพังงาช่วยกันทำมา พังพินาศสิ้นเพราะน้ำมือคนเพียงไม่กี่คน” ข้อความโพสต์ของ ผศ.ดร.ธรณ์.-สำนักข่าวไทย
