ไทยออยล์คาดปี 63 ราคาน้ำมันดูไบ 55-65 เหรียญ/บาร์เรล

กรุงเทพฯ 26 ธ.ค. –  บมจ.ไทยออยล์ คาดในปี 2563 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 55 – 65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เหตุเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากที่ต่ำสุดในรอบ 10ปี ในปี 2562


บมจ.ไทยออยล์ ประเมินราคาน้ำมับดิบดูไบ ที่ประเทศไทย ใช้เป็นราคาอ้างอิง โดยคาดว่า ปี 2563 ราคาจะอยู่ที่ระดับ 55 – 65 เหรียญสหรัฐ ต่อบาร์เรล เหตุเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากที่ต่ำสุดในรอบ 10ปี ในปี 2562  โดยอุปสงค์น้ำมันโลกคาดที่มีแนวโน้มขยายตัวที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (สำนักงานพลังงานสากล-IEA รายงาน ณ เดือนธันวาคม 2562) ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ร้อยละ 3.4 (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ-IMF รายงาน ณ เดือนตุลาคม 2562)  

เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หลังธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกได้ออกนโยบายกระตุ้น ผ่านการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยและเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อเพิ่มปริมาณเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ในขณะที่คาดสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนมีแนวโน้มดีขึ้น หลังมีการเจรจาการค้าระยะแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 และจะเจราจาระยะต่อไปภายในปี 2563  


ประกอบกับผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและพันธมิตรร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากข้อตกลงเดิมที่ปรับลดการผลิตที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปสู่ระดับ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563  นอกจากนี้ กำลังการผลิตของอิหร่านและเวเนซุเอลายังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง หลังถูกจำกัดการส่งออกจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้น ความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลางยังส่งผลต่อความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านอุปทานน้ำมัน  อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบในปี 2563 ยังถูกกดดัน เนื่องจากอุปทานน้ำมันโลกจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นราว 1.8 – 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน นำโดยประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศนอร์เวย์ ประเทศแคนาดา และประเทศบราซิล 

ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐคาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของแหล่งผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกำลังการผลิตทั้งหมด  หลังมีการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในปี 2562 และ 2563 โดยคาดว่าการส่งออกน้ำมันดิบจากสหรัฐ จะปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 3.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับในปี 2562 ขณะที่ปริมาณการผลิตของประเทศนอร์เวย์จะปรับเพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบในทะเลเหนือเริ่มเปิดดำเนินการผลิตอย่างเต็มที่ในปี 2563 

สำหรับ สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2562  เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 63 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับลดลงจากราคาเฉลี่ยในปี 2561 ที่ระดับ 70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเติบโตชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามการค้า ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกอ่อนตัวลง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2562 จะขยายตัวต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ร้อยละ 3.0 (รายงาน ณ เดือนตุลาคม 2562) ซึ่งปรับลดลงค่อนข้างมากจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวที่ร้อยละ 3.6 หลังได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจากการผลิตในภาคอุตสาหกรรม 


ขณะที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2562 จะเติบโตที่ระดับ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปรับลดลงจากปี 2561 ที่เติบโตที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ท่ามกลางปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของประเทศสหรัฐอเมริกายังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤศจิกายน 2562 กำลังการผลิตน้ำมันดิบในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ระดับ 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า ขณะที่ในปี 2562 การส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศสหรัฐอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยที่ระดับ 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 48.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นผลมาจากการเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันแห่งใหม่ 

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมทั้งปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงของประเทศอิหร่านและประเทศเวเนซุเอลาที่ถูกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกำลังการผลิตน้ำมันดิบในประเทศอิหร่านและประเทศเวเนซุเอลาปี 2562 ลดลง 1.2 และ 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย