กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – ธนาคาร DBS ประเมินเศรษฐกิจโลกครึ่งหลังปี 2568 ยังคงเผชิญความไม่แน่นอนหลายด้าน ทั้งนโยบายการค้าสหรัฐฯ หนี้สาธารณะระดับสูง และแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ย แนะนักลงทุนปรับกลยุทธ์กระจายพอร์ต บริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เน้นถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ไตรมาส 3 ยังต้องติดตามปัจจัยเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างใกล้ชิด
นายเอ็ดวิน ตัน (Mr. Edwin Tan) Market Head DBS, Thailand & Philippines เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ตลาดโลกยังมีความผันผวนสูงจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ การเลือกตั้งในประเทศมหาอำนาจ และภาระหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งสำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯ (CBO) คาดว่าหนี้อาจแตะ 118% ของ GDP ภายในปี 2035
“DBS ยังคงแนะนำกลยุทธ์ ‘Barbell Strategy’ ซึ่งเป็นการลงทุนแบบสมดุลระหว่างสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนกับสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเฉพาะการถือทองคำไว้ในสัดส่วน 5% ของพอร์ต และลงทุนในกองทุนประเภท Liquid+” นายเอ็ดวิน กล่าว


ด้านนายเวย์ ฟุก โหว (Mr. Wey Fook Hou) Chief Investment Office, DBS Bank ระบุว่า นโยบายการค้าสหรัฐฯ ภายใต้แนวคิด “Beautiful Tariff War” ยังคงเป็นปัจจัยกดดันในระยะกลาง ขณะที่สหรัฐฯ เองก็ต้องเผชิญต้นทุนทางการคลังที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวในระดับสูง
ทั้งนี้ DBS มองว่าโอกาสการลงทุนในครึ่งปีหลังยังอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง และตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ซึ่งยังคงมีอัตราการเติบโตของชนชั้นกลางและภาคการผลิตที่เข้มแข็ง
ในรายงาน DBS CIO Market Outlook ประจำไตรมาส 3/2568 ทีมวิจัยของ DBS ยังเน้นว่า เศรษฐกิจโลกในช่วง 3 เดือนนี้ยังคง “ไม่ชัดเจน” นักลงทุนต้องเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน อาทิ ความล่าช้าในการลดอัตราดอกเบี้ย, ความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐฯ, ความผันผวนของราคาสินทรัพย์ทั่วโลก
DBS จึงแนะนำให้นักลงทุนคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นในระดับ “เป็นกลาง” (Neutral) และให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงเชิงรุก โดยมีแนวทางหลัก ได้แก่ ทองคำ (5%) เป็นสินทรัพย์ป้องกันความผันผวน, กองทุนแบบผสมทั่วโลก สำหรับกระจายความเสี่ยง, Liquid+ เพื่อรักษาสภาพคล่อง, ตราสารหนี้คุณภาพสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือ Investment Grade Credit
ทั้งนี้ DBS ยังไม่แนะนำให้ “Overweight” หุ้นในระยะสั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานหลายอย่างยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ขณะเดียวกันยังเน้น “การจัดพอร์ตเชิงรับ” เพื่อรองรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
“นักลงทุนควรเน้นคุณภาพของสินทรัพย์ กระจายความเสี่ยง และจับตานโยบายเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะด้านการคลังของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด” นายเวย์ กล่าว. -512 – สำนักข่าวไทย