นครสวรรค์ 25 ธ.ค.- กรณีชายวัย 41 ปี ชกต่อยกับตำรวจยศ พ.ต.ท.และถูกยิงเข้าที่ท้องน้อยบาดเจ็บ ล่าสุด ตำรวจคู่กรณีย่องพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อให้ปากคำแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่า ครอบครองและพกปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เพื่อนร่วมงานของนายตำรวจ ระบุเรื่องที่เกิดขึ้นตามสื่อกับข้อเท็จจริงคนละเรื่องกัน เพื่อนพยายามป้องกันตัว
จากกรณีที่นายวิศิษฏ์ วงศ์สวัสดิ์ภักดี อายุ 41 ปี พาร่างอันบาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ท้องน้อย เดินทางเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจและมาต่อว่า จนเกิดการโต้เถียงชกต่อยกัน กระทั่งชายที่อ้างเป็นตำรวจสู้ไม่ไหว ชักอาวุธปืนออกมายิงจนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่นายวิศิษฏ์ ขับรถพามารดาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาถนนมาตุลี อ.เมือง จ.นครสวรรค์
ความคืบหน้าวันนี้ เจ้าหน้าชุดสืบสวนโรงพักเมืองนครสวรรค์ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ามีกล้องวงจรปิดร้านค้ารายหนึ่ง บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด โดยภาพช่วงหนึ่ง หลังจากชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจมากล่าวหามารดาของนายวิศิษฏ์ ปล่อยเงินกู้นอกระบบและเกิดการโต้เถียงกันไปครั้งหนึ่ง จนชายดังกล่าวต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากจุดเกิดเหตุแล้ว จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาอีกครั้ง ซึ่งภายในภาพจะพบว่ามารดาของนายวิศิษฏ์ ที่ยืนอยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม กำลังโต้เถียงกับชายแปลกหน้า โดยมีนายวิศิษฏ์ เดินเข้ามาพูดคุยแล้วเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอีก ต่อมาเดินปรี่เข้ามากระชากแขนมารดาของนายวิศิษฏ์ และเกิดการชกต่อยชุลมุนกันขึ้น จากนั้นชายแปลกหน้าชักอาวุธปืนออกมายิงเข้าใส่นายวิศิษฏ์ ที่กำลังนอนขวางอยู่บนพื้น เพื่อปกป้องมารดาไม่ให้ถูกคมกระสุนยิงเข้าใส่
ภาพกล้องวงจรปิด ยังเผยให้เห็นเมื่อนายวิศิษฏ์ ถูกยิงไปแล้วนั้น ได้ใช้ 2 มือยกขึ้นเพื่อขอชีวิต และชายคนดังกล่าวยังคงยกปืนมาที่ตัวเขาอยู่ตลอดเวลา จนมารดาของนายวิศิษฏ์ ต้องลุกขึ้นขอร้องให้หยุด จนกระทั่งชายคนแปลกหน้าขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงพากันโรงพยาบาล ก่อนจะไปแจ้งความกับตำรวจทันที
ด้าน พ.ต.อ.วีรภัสส์ ห้วยหงษ์ทอง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า คดีนี้คู่กรณีของนายวิศิษฏ์ เป็นตำรวจจริง ยศพันตำรวจโท ตำแหน่งอาจารย์กลุ่มงานอาจารย์ภาควิชาสืบสวน ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 ซึ่งพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้มาให้ปากคำ นัดหมายกันเช้าวันนี้ (25 ธ.ค.) แต่เนื่องจากเจ้าตัวอ้างว่า ได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทด้วย อยู่ในระหว่างรับการรักษาที่โรงพยาบาล จึงขอเลื่อนเวลาออกไป ตำรวจจะมีการออกหมายเรียกอีกครั้งหนึ่ง
ถึงแม้ผู้ก่อเหตุเป็นถึงนายตำรวจยศใหญ่ ใช้อาวุธปืนยิงประชาชนอย่างอุกอาจใจกลางเมือง พ.ต.อ.วีรภัสส์ ระบุว่า ก็ดำเนินการเหมือนกับคดีอื่นๆ ทุกคดี ยืนยันว่าไม่มีการเข้าข้าง หรือให้การช่วยเหลืออย่างแน่นอน แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังศูนย์ฝึกตำรวจภาค 6 สถานที่ทำงานของตำรวจมือยิงสอบเพื่อนร่วมงานตำรวจคนดังกล่าว ก็ไม่มีใครให้ข้อมูล เพียงบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตามสื่อมวลชนกับข้อเท็จจริงคนละเรื่องกัน เห็นใจเพื่อนร่วมงานที่พยายามป้องกันตัว และตำรวจคนดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า คู่กรณีพยายามแย่งปืนด้วย
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ที่ตกเป็นข่าว ได้ย่องมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เจ้าของคดี เพื่อให้ปากคำแล้ว โดยเดินทางมากับตำรวจหญิงรายหนึ่งที่ทำงานด้วยกัน โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนมาพิมพ์ลายนิ้วมือที่โรงพัก หลังจากนั้นขอตัวโดยอ้างว่าจะไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลก่อน แล้วจะกลับมาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และเมื่อพบสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ถึงกลับหน้าซีด แล้วรีบหลบออกจากโรงพักทันที
ด้าน พ.ต.ต.สามารถ สาโรจน์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี บอกว่า ยังไม่ได้ได้ข้อมูลอะไร เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่าผู้อื่น รวมถึงข้อหามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควรแล้ว ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ดังนั้น จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้แน่นหนา ก่อนจะดำเนินคดีตามข้อในขั้นตอนกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย