กทม. 20 ธ.ค.-เมื่อปี 2558 และปี 2559 คุณสันติวิธี พรหมบุตร ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เข้าไปสัมภาษณ์สมคิด พุ่มพวง ในเรือนจำกลางบางขวาง เพื่อนำข้อมูลมาทำสารคดีในรายการข่าวดังข้ามเวลา นอกจากการสัมภาษณ์ในประเด็นที่เขาฆาตกรรมหญิงบริการ 5 ศพแล้ว ยังได้สัมภาษณ์ชีวิตในวัยเด็กของสมคิด พุ่มพวง ด้วย
ทีมรายการข่าวดังข้ามเวลาเข้าไปในเรือนจำกลางบางขวาง 2 ครั้ง เพื่อสัมภาษณ์สมคิด พุ่มพวง ครั้งแรก เดือนกรกฎาคมปี 58 ครั้งที่ 2 เดือนเมษายน ปี 59 นอกจากการสัมภาษณ์ถึงการก่อเหตุฆาตกรรมผู้หญิง 5 ศพ ในปี 48 ยังขอให้สมคิดเล่าถึงชีวิตวัยเด็กของเขาด้วย
สมคิดเล่าถึงช่วงชีวิตจากวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น โดยเฉพาะเรื่องราวในด้านมืดของชีวิตที่เขาอยากเล่าให้ทีมงานรับรู้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถูกจดบันทึกไว้เป็นข้อมูลดิบจากการสัมภาษณ์ แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบเหตุการณ์หรือผู้ถูกอ้างอิงถึงว่าสิ่งที่เขาเล่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมดหรือไม่ และนี่คือเรื่องราวที่ออกจากปากของเขาทั้ง 2 ครั้ง
สมคิดเล่าว่า เขาเกิดที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ชื่อเล่นว่าแดง แม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก จึงอาศัยอยู่กับพ่อและป้า ต่อมาพ่อมีภรรยาใหม่ที่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ตอนเรียนชั้นประถม 2 สมคิดเล่นดีดลูกแก้วที่โรงเรียน โดนครูทำโทษด้วยการตี เขาเจ็บแค้น จึงใช้หนังสติ๊กยิงครู
พออายุ 9 ขวบ ช่วงปี 2516 เขาบอกว่าโดนพ่อไล่ออกจากบ้าน จึงหนีไปอยู่ป่าที่พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช 4 ปี แต่การเล่าในช่วงนี้ข้อมูลไม่ตรงกัน เพราะทีมงานเคยถามเขาครั้งแรก เขาบอกว่าอาศัยอยู่กับลุงที่นครศรีธรรมราช แต่ครั้งที่ 2 บอกว่าหนีไปอาศัยตามป่า
อายุได้ 13 ปี สมคิดอ้างไปรับงานเป็นมือปืนยิงคนครั้งแรก ได้ค่าจ้าง 500 บาท ก่อเหตุเสร็จหนีไปอยู่ที่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ภูเก็ต แล้วไปอยู่กับพ่อเลี้ยง หรือผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งตอนนั้นอายุ 16 ปี แล้วก็ทำงานผิดกฎหมายให้พ่อเลี้ยง
เมื่ออายุ 17 ปี เขากลับไปหาพ่อที่บ้าน แล้วอ้างว่าไปก่อเหตุปล้นปืนของนายอำเภอ ซึ่งทำให้โดนจับกุมเป็นครั้งแรกในปี 28 อยู่ในเรือนจำ 3 ปี แต่ในที่สุดศาลยกฟ้องเพราะไม่มีหลักฐาน
ปี 32 เขาบอกว่า ไปรับจ้างยิงคน ปี 33 โดนจับคดีฆ่าหั่นศพที่อำเภอไทรน้อย นนทบุรี แต่คดีไม่ถูกสั่งฟ้อง
สมคิด เล่าว่า จากนั้นชีวิตเขาผกผันอีกครั้ง กลับไปอยู่บ้านยายที่ปักษ์ใต้ เบนเข็มไปเป็นสายให้ตำรวจ แต่โดนจับข้อหาค้าอาวุธทางชายแดนภาคเหนือ และถูกจำคุกเป็นครั้งที่ 2
ปี 36 สมคิดบอกว่าออกจากคุกมาเปิดร้านเครื่องซ่อมไฟฟ้า แต่มีเรื่องกับตำรวจ เลยโดนจับที่สกลนคร ติดคุกเป็นครั้งที่ 3 ออกจากคุกในปี 42 เขาไปอยู่ที่ร้อยเอ็ด แล้วโดนคดีข่มขู่
แต่ที่สมคิดเล่าตรงกับข้อเท็จจริงคือในปี 44 เกิดคดีฆ่านายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ตอนนั้น “ผู้พันตึ๋ง” พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ตกเป็นผู้ต้องหา แต่สมคิดใช้ชื่อปลอมว่า สุวัฒน์ ชาญณรงค์ โผล่มาเป็นพยานว่าคนร้ายไม่ใช่ผู้พันตึ๋ง จึงโดนข้อหาให้การเท็จ ถูกจำคุก 6 เดือน
สมคิดเล่าว่าเขาออกจากคุกปี 46 ได้ไปอยู่กับคนมีชื่อเสียง ได้ไปทำงานคุมบ่อนกาสิโนที่ช่องจอม จนที่สุดก็มาก่อเหตุฆาตกรรมหญิง 5 ราย ในปี 48
เมื่อสรุปจากที่สมคิดเล่าแต่ต้น ก่อนที่เขาจะก่อเหตุฆาตกรรมหญิงบริการ 5 ศพ เขาเล่ายืนยันมาตลอดว่าเคยก่อเหตุมาแล้ว 8 คดี โดนจำคุกไป 4 ครั้ง แต่เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลดิบที่เขายินดีบอกเล่า แต่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเป็นเรื่องจริงทุกเรื่องหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่คนคนหนึ่งพร้อมที่จะเล่าเรื่องมุมมืดและอาชญากรรมที่ตัวเองเคยก่อขึ้นให้คนอื่นรับรู้ทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• โกลาหลอีกรอบ! ขณะพา “สมคิด” ฝากขัง-แฟนสาวปฏิเสธให้ข้อมูลเชิงลึก
• สอบเพิ่ม “สมคิด” ก่อนฝากขัง
• ทำแผนมหาสารคามหนึ่งในเส้นทาง “สมคิด” หลบหนีคดีฆ่าจากขอนแก่น
• มอบเงินพลเมืองดีแจ้งเบาะแส “สมคิด พุ่มพวง”
• วงจรปิดจับภาพฆาตกร “สมคิด” ซื้อตั๋วรถไฟบุรีรัมย์ก่อนถูกจับที่โคราช
• เปิดวินาทีจับ “สมคิด เดอะริปเปอร์” บนขบวนรถไฟที่โคราช
• BIG STORY : รู้ตัวมือฆ่ารัดคอหญิงวัย 51 คาบ้านพัก จ.ขอนแก่น
• พบศพหญิงวัย 51 ถูกฆ่าในบ้าน จ.ขอนแก่น เร่งหาตัวหนุ่มคนสนิทหายตัวไป