กทม. 19 ธ.ค.-คุณสันติวิธี พรหมบุตร ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เคยเข้าไปในเรือนจำกลางบางขวาง ในฐานะทีมผลิตสารคดีข่าว รายการข่าวดังข้ามเวลา เพื่อไปสัมภาษณ์ “สมคิด พุ่มพวง” ถึง 2 ครั้ง ในประเด็นที่เขาฆาตกรรมหญิงบริการ 5 ศพ ซึ่งตอนนั้นสมคิด พุ่มพวง ให้สัมภาษณ์ 2 ครั้งไม่เหมือนกัน และเขาเปรียบการฆ่าคนก็เหมือนการทำกิจวัตรประจำวัน
เมษายนปี 59 ทีมรายการข่าวดังข้ามเวลาเข้าไปเรือนจำกลางบางขวาง สัมภาษณ์สมคิด พุ่มพวง เพื่อถ่ายทำสารคดีข่าว ในชื่อตอน “ฆาตกรรมซ้ำซ้อน ฆาตกรต่อเนื่อง” แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้บันทึกภาพเคลื่อนไหว ใช้วิธีสัมภาษณ์จดลงสมุดบันทึก
ตอนนั้นสมคิดถูกคุมขังเป็นปีที่ 11 เขายินดีให้รายการนำเรื่องราวเขามาออกอากาศได้ การสัมภาษณ์นานกว่า 2 ชั่วโมง เน้นรายละเอียดที่เขาก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องผู้หญิง 5 คน ในปี 48
สมคิดเป็นคนพูดเก่ง ฉะฉาน เล่าเรื่องราวได้ลื่นไหลไม่ติดขัด เขาสามารถตอบได้ทันทีตั้งแต่คำถามยังไม่จบประโยคด้วยซ้ำ ระหว่างสนทนา สายตาคู่แข็งกระด้างของเขาจ้องเขม็งคู่สนทนาที่นั่งตรงกันข้ามคนละฝั่งโต๊ะตลอดเวลา เขาให้เหตุผลของการฆ่าผู้หญิงทั้ง 5 คน แตกต่างออกไปจากที่ปรากฏเป็นข่าว
เหยื่อคนแรก นางสาววารุณี ที่มุกดาหาร สมคิดอ้างว่าเป็นภรรยาเก็บเสี่ย หลอกเงินเสี่ยไปมาก เลยถูกสั่งเก็บ เขาได้ค่าจ้าง 170,000 บาท เหยื่อคนที่สอง นางสาวผ่องพรรณ ที่ลำปาง ยักยอกของผิดกฎหมาย เขาเลยได้รับว่าจ้างให้มาทวงของ และนางสาวผ่องพรรณถูกคนว่าจ้างเขาซ้อมจนตาย ได้ค่าจ้าง 100,000 บาท เหยื่อคนที่สาม นางสาวพัชรี ที่ตรัง สมคิดอ้างว่าโกงค่าแชร์ เขาตามเจอตัวที่แม่ฮ่องสอน แล้วพาไปฆ่าที่ตรัง ได้ค่าจ้าง 80,000 บาท
เหยื่อคนที่สี่ นางสาวพรตะวัน ที่อุดรธานี เขาอ้างว่าเป็นภรรยาตำรวจนายหนึ่ง สามีเป็นหนี้บ่อน เขาถูกว่าจ้างให้ 90,000 บาท มาทวงหนี้และฆ่า
เหยื่อคนที่ 5 นางสาวสมปอง ที่บุรีรัมย์ สมคิดอ้างว่าติดหนี้นายทุน เขารับจ้างทวง เอาตัวจากนครราชสีมาไปเข้าโรงแรมที่บุรีรัมย์ แต่เหยื่อโวยวายเขาเลยหักคอ และเขาปฏิเสธไม่ได้ข่มขืนเหยื่อ
แต่คำตอบเหล่านี้ของสมคิดต่างออกไปจากก่อนหน้านั้น 9 เดือน ที่รายการข่าวดังข้ามเวลาเคยเข้าไปสัมภาษณ์เขาเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 58 ซึ่งเป็นการได้สัมภาษณ์สมคิดครั้งแรกโดยบังเอิญ ระหว่างเข้าไปเก็บข้อมูลเพื่อผลิตรายการในตอนอื่น ตอนนั้นสมคิดให้เหตุผลของการฆ่าผู้หญิงทั้ง 5 คนว่าบางคน โดยเฉพาะเหยื่อรายแรก รู้จักกันดี แต่หักหลังเขาในบางเรื่องจึงต้องฆ่า และคนต่อๆ มา บางคนเป็นสายของตำรวจเพื่อมาจับกุมตัวเขา เลยต้องฆ่าคนเหล่านั้นด้วย
การตอบถึงเหตุผลของการฆ่าผู้หญิง 5 คนที่ไม่เหมือนกัน 2 ครั้ง จึงดูเหมือนว่าสมคิดเป็นคนที่แต่งเรื่องราวต่างๆ ไว้ในความคิดอย่างมากมาย จนบางครั้งเขาจำไม่ได้ว่าเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อ 9 เดือนอย่างไรบ้าง
ยิ่งเมื่ออ่านบันทึกสอบสวนที่เขาเคยให้การไว้กับตำรวจก็ยิ่งต่างออกไป เพราะตอนที่เขาจนมุมตำรวจกองปราบ สมคิดให้การไว้ว่าเขาหลอกเหยื่อจากร้านนวดและคาเฟ่ไปหลับนอนแล้วฆ่า การฆ่าคนแรกเกิดขึ้นเพราะทะเลาะกันเรื่องค่าตัวที่สมคิดจ่ายไม่ครบตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทำกับคนแรกได้ คนต่อไปก็ง่ายขึ้น
ตรงกับพยานในเหตุการณ์การฆ่าเหยื่อรายสุดท้ายที่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวดังข้ามเวลาไว้ว่าสมคิดเดินเข้ามาที่ร้านนวดเหมือนนักเที่ยวทั่วไป เลือกผู้หญิงหลายคนจนมาพอใจที่เหยื่อ
แต่ที่สมคิดตอบเหมือนเดิมทั้งสองครั้งคือการฆ่าคนที่เขายืนยันว่าไปเรียนรู้วิธีหักคอมาจากทหารเวียดกง ตอนที่ไปทำงานในบ่อนกาสิโนที่เวียดนาม
การตอบคำถามเกี่ยวกับการฆ่าคนของสมคิดดูเหมือนเขามองเป็นเรื่องปกติ ไม่สะทกสะท้าน ซ้ำยังบอกว่าคนเหล่านั้นสมควรถูกเขาฆ่าตาย มีคำถามหนึ่งที่ทีมงานผู้หญิงถามสมคิดว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับการฆ่า 5 ศพ สมคิดตอบสวนกลับทันควันอย่างไม่ต้องคิดว่า “แล้วหนูแปรงฟัน อาบน้ำ รู้สึกอะไรไหม” เขาเปรียบเทียบการฆ่าคนเหมือนกับเป็นกิจวัตรปกติ
การได้พูดคุยสัมผัสตัวตนสมคิด 2 ครั้ง ในระยะเวลาห่างกัน 9 เดือน ทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงมาก หากเขาไม่พอใจผู้คุมและผู้บริหารเรือนจำคนไหน เขาจะเขียนหนังสือร้องเรียนทันที ซึ่งเขาก็เคยร้องเรียนมาแล้ว
ทั้งสองครั้งที่เจอกัน สมคิดถือหนังสือกฎหมายและสมุดบันทึกมาด้วยทุกครั้ง เขาศึกษากฎหมายระหว่างอยู่ในเรือนจำ ผู้คุมบอกว่าสมคิดไม่ค่อยสุงสิงกับนักโทษรายอื่น มักอยู่เงียบๆ คนเดียว ซึ่งสมคิดให้เหตุผลว่าเพื่อการได้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ซึ่งตอนนั้นมีผลต่อการได้คืนสู่อิสรภาพเร็วขึ้น และหากได้ออกจากเรือนจำ เขามีหนี้แค้นที่ต้องชำระ ซึ่งเป็นคนที่ทำให้เขาต้องติดคุก.-สำนักข่าวไทย