ย้อนคำสัมภาษณ์ “สมคิด พุ่มพวง” ปี 58-59

กทม. 19 ธ.ค.-คุณสันติวิธี พรหมบุตร ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย เคยเข้าไปในเรือนจำกลางบางขวาง ในฐานะทีมผลิตสารคดีข่าว รายการข่าวดังข้ามเวลา เพื่อไปสัมภาษณ์ “สมคิด พุ่มพวง” ถึง 2 ครั้ง ในประเด็นที่เขาฆาตกรรมหญิงบริการ 5 ศพ ซึ่งตอนนั้นสมคิด พุ่มพวง ให้สัมภาษณ์ 2 ครั้งไม่เหมือนกัน และเขาเปรียบการฆ่าคนก็เหมือนการทำกิจวัตรประจำวัน

เมษายนปี 59 ทีมรายการข่าวดังข้ามเวลาเข้าไปเรือนจำกลางบางขวาง สัมภาษณ์สมคิด พุ่มพวง เพื่อถ่ายทำสารคดีข่าว ในชื่อตอน “ฆาตกรรมซ้ำซ้อน ฆาตกรต่อเนื่อง” แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้บันทึกภาพเคลื่อนไหว ใช้วิธีสัมภาษณ์จดลงสมุดบันทึก


ตอนนั้นสมคิดถูกคุมขังเป็นปีที่ 11 เขายินดีให้รายการนำเรื่องราวเขามาออกอากาศได้ การสัมภาษณ์นานกว่า 2 ชั่วโมง เน้นรายละเอียดที่เขาก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องผู้หญิง 5 คน ในปี 48

สมคิดเป็นคนพูดเก่ง ฉะฉาน เล่าเรื่องราวได้ลื่นไหลไม่ติดขัด เขาสามารถตอบได้ทันทีตั้งแต่คำถามยังไม่จบประโยคด้วยซ้ำ ระหว่างสนทนา สายตาคู่แข็งกระด้างของเขาจ้องเขม็งคู่สนทนาที่นั่งตรงกันข้ามคนละฝั่งโต๊ะตลอดเวลา เขาให้เหตุผลของการฆ่าผู้หญิงทั้ง 5 คน แตกต่างออกไปจากที่ปรากฏเป็นข่าว

เหยื่อคนแรก นางสาววารุณี ที่มุกดาหาร สมคิดอ้างว่าเป็นภรรยาเก็บเสี่ย หลอกเงินเสี่ยไปมาก เลยถูกสั่งเก็บ เขาได้ค่าจ้าง 170,000 บาท เหยื่อคนที่สอง นางสาวผ่องพรรณ ที่ลำปาง ยักยอกของผิดกฎหมาย เขาเลยได้รับว่าจ้างให้มาทวงของ และนางสาวผ่องพรรณถูกคนว่าจ้างเขาซ้อมจนตาย ได้ค่าจ้าง 100,000 บาท เหยื่อคนที่สาม นางสาวพัชรี ที่ตรัง สมคิดอ้างว่าโกงค่าแชร์ เขาตามเจอตัวที่แม่ฮ่องสอน แล้วพาไปฆ่าที่ตรัง ได้ค่าจ้าง 80,000 บาท

เหยื่อคนที่สี่ นางสาวพรตะวัน ที่อุดรธานี เขาอ้างว่าเป็นภรรยาตำรวจนายหนึ่ง สามีเป็นหนี้บ่อน เขาถูกว่าจ้างให้ 90,000 บาท มาทวงหนี้และฆ่า


เหยื่อคนที่ 5 นางสาวสมปอง ที่บุรีรัมย์ สมคิดอ้างว่าติดหนี้นายทุน เขารับจ้างทวง เอาตัวจากนครราชสีมาไปเข้าโรงแรมที่บุรีรัมย์ แต่เหยื่อโวยวายเขาเลยหักคอ และเขาปฏิเสธไม่ได้ข่มขืนเหยื่อ

แต่คำตอบเหล่านี้ของสมคิดต่างออกไปจากก่อนหน้านั้น 9 เดือน ที่รายการข่าวดังข้ามเวลาเคยเข้าไปสัมภาษณ์เขาเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 58 ซึ่งเป็นการได้สัมภาษณ์สมคิดครั้งแรกโดยบังเอิญ ระหว่างเข้าไปเก็บข้อมูลเพื่อผลิตรายการในตอนอื่น ตอนนั้นสมคิดให้เหตุผลของการฆ่าผู้หญิงทั้ง 5 คนว่าบางคน โดยเฉพาะเหยื่อรายแรก รู้จักกันดี แต่หักหลังเขาในบางเรื่องจึงต้องฆ่า และคนต่อๆ มา บางคนเป็นสายของตำรวจเพื่อมาจับกุมตัวเขา เลยต้องฆ่าคนเหล่านั้นด้วย

การตอบถึงเหตุผลของการฆ่าผู้หญิง 5 คนที่ไม่เหมือนกัน 2 ครั้ง จึงดูเหมือนว่าสมคิดเป็นคนที่แต่งเรื่องราวต่างๆ ไว้ในความคิดอย่างมากมาย จนบางครั้งเขาจำไม่ได้ว่าเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อ 9 เดือนอย่างไรบ้าง


ยิ่งเมื่ออ่านบันทึกสอบสวนที่เขาเคยให้การไว้กับตำรวจก็ยิ่งต่างออกไป เพราะตอนที่เขาจนมุมตำรวจกองปราบ สมคิดให้การไว้ว่าเขาหลอกเหยื่อจากร้านนวดและคาเฟ่ไปหลับนอนแล้วฆ่า การฆ่าคนแรกเกิดขึ้นเพราะทะเลาะกันเรื่องค่าตัวที่สมคิดจ่ายไม่ครบตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทำกับคนแรกได้ คนต่อไปก็ง่ายขึ้น

ตรงกับพยานในเหตุการณ์การฆ่าเหยื่อรายสุดท้ายที่เคยให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวดังข้ามเวลาไว้ว่าสมคิดเดินเข้ามาที่ร้านนวดเหมือนนักเที่ยวทั่วไป เลือกผู้หญิงหลายคนจนมาพอใจที่เหยื่อ

แต่ที่สมคิดตอบเหมือนเดิมทั้งสองครั้งคือการฆ่าคนที่เขายืนยันว่าไปเรียนรู้วิธีหักคอมาจากทหารเวียดกง ตอนที่ไปทำงานในบ่อนกาสิโนที่เวียดนาม


การตอบคำถามเกี่ยวกับการฆ่าคนของสมคิดดูเหมือนเขามองเป็นเรื่องปกติ ไม่สะทกสะท้าน ซ้ำยังบอกว่าคนเหล่านั้นสมควรถูกเขาฆ่าตาย มีคำถามหนึ่งที่ทีมงานผู้หญิงถามสมคิดว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับการฆ่า 5 ศพ สมคิดตอบสวนกลับทันควันอย่างไม่ต้องคิดว่า “แล้วหนูแปรงฟัน อาบน้ำ รู้สึกอะไรไหม” เขาเปรียบเทียบการฆ่าคนเหมือนกับเป็นกิจวัตรปกติ

การได้พูดคุยสัมผัสตัวตนสมคิด 2 ครั้ง ในระยะเวลาห่างกัน 9 เดือน ทำให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงมาก หากเขาไม่พอใจผู้คุมและผู้บริหารเรือนจำคนไหน เขาจะเขียนหนังสือร้องเรียนทันที ซึ่งเขาก็เคยร้องเรียนมาแล้ว

ทั้งสองครั้งที่เจอกัน สมคิดถือหนังสือกฎหมายและสมุดบันทึกมาด้วยทุกครั้ง เขาศึกษากฎหมายระหว่างอยู่ในเรือนจำ ผู้คุมบอกว่าสมคิดไม่ค่อยสุงสิงกับนักโทษรายอื่น มักอยู่เงียบๆ คนเดียว ซึ่งสมคิดให้เหตุผลว่าเพื่อการได้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ซึ่งตอนนั้นมีผลต่อการได้คืนสู่อิสรภาพเร็วขึ้น และหากได้ออกจากเรือนจำ เขามีหนี้แค้นที่ต้องชำระ ซึ่งเป็นคนที่ทำให้เขาต้องติดคุก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​