ส.อ.ท.เร่งตกผลึกแนวคิดใช้สินค้าไทย 100 เปอร์เซ็นต์

กรุงเทพฯ 16 ธ.ค. – ส.อ.ท.เร่งสรุปแนวทางขอให้ภาครัฐสนับสนุนใช้สินค้าไทย 100 เปอร์เซ็นต์ในสินค้าบางตัวที่มีคุณภาพดี เพิ่มเติมจากโครงการเมดอินไทยแลนด์ที่สนับสนุนให้ใช้สินค้าไทยอยู่แล้ว ส่วนการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐระยะแรก เชื่อจะทำให้ตลาดการค้าและเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น ขอรัฐบาลเร่งเจรจาเอฟทีเอ เพื่อเปิดตลาดส่งออกใหม่      


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.วันนี้ (16 ธ.ค.) จะหยิบยกประเด็นการผลักดันให้ภาครัฐพิจารณาเรื่องการใช้สินค้าที่ผลิตได้ในประเทศหรือโลคอลคอนเทนต์ สำหรับโครงการลงทุนต่าง ๆ ของภาครัฐ หากสินค้าใดผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตมีคุณภาพได้มาตรฐานแข่งขันกับสินค้าจากต่างประเทศได้ ก็ควรเพิ่มสัดส่วนการใช้สินค้าไทยสูง โดยอาจถึง 100%  ในสินค้าบางส่วน และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งจะเป็นการเสนอต่อเนื่องจากโครงการเมดอินไทยแลนด์ที่เคยเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ โครงการนี้จะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีกำลังใจพัฒนาสินค้าไทยให้ดียิ่งขึ้น และมีความเข้มแข็งบุกตลาดโลกต่อไป 

ส่วนกรณีสหรัฐและจีนสามารถบรรลุการเจรจาการค้ารอบแรกนั้น ส่งผลดีต่อการค้าโลก เพราะการกีดกันทางการค้าด้วยมาตรการทางภาษีของสหรัฐจะลดลง ตลาดการค้าโลกจึงมีโอกาสโตขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเจรจาที่เกิดขึ้นยังไม่ได้มีการลงนาม และยังมีกระบวนการต่อเนื่องไปอีก ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่เชื่อว่า น่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกและเศรษฐกิจของไทย  เพราะหากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นการบริโภคของแต่ละประเทศก็จะเพิ่มขึ้นตาม การส่งออกของไทยก็จะมีโอกาสส่งออกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย รวมถึงการท่องเที่ยวก็จะปรับตัวดีขึ้น


สำหรับปัจจัยที่เป็นห่วง คือ ปัญหาเงินบาทแข็งค่า ซึ่งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือ กกร. ได้แสดงความกังวลและส่งสัญญาณไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว นอกจากนี้ ยังต้องการให้ภาครัฐช่วยเดินหน้าเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าหรือเอฟทีเอให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว เพราะเอฟทีเอ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการส่งออกของไทยให้มีโอกาสเปิดตลาดส่งออกใหม่เพิ่มมากขึ้น  

ด้านค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น ทาง ส.อ.ท.เห็นว่าพอรับได้ แต่ต้องการขอการสนับสนุนจากภาครัฐช่วยลดต้นทุนด้านอื่นของผู้ประกอบการ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพแรงงาน เพื่อลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ อยากให้ภาครัฐเดินหน้าโครงการลงทุนด้านการพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ เพื่อช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการ.-สำนักข่าวไทย 

 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ