เอกชนเรียกร้องทีมเศรษฐกิจมีเอกภาพ

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – เอกชนขอปรับ ครม.ใหม่ ต้องทำงานมีเอกภาพ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทิศทางเดียวกัน แนะอัดฉีดสภาพคล่องเอสเอ็มอีและกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ เน้นใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฐานราก พร้อมสานต่อโครงการอีอีซี


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงการลาออกของทีมเศรษฐกิจนำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 4 คน ว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับกี่ตำแหน่ง แต่ต้องการเห็นการปรับ ครม.เศรษฐกิจแล้วสามารถทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากที่สุด อยากให้ทุก ๆ จุดที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจมีการขับเคลื่อน และมีการบูรณาการไปด้วยกันอันนี้เป็นสิ่งสำคัญ  ไม่อยากให้ปรับออกแล้วมีปัญหาซึ่งกันและกัน ทำให้ไม่สามารถผลักดันแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองให้ลุล่วงไปได้  เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

สำหรับสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการให้ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ามาผลักดันเป็นลำดับแรก คือ ดูแลปัญหาการขาดสภาพคล่องของผู้ประกอบการ และที่สำคัญทำอย่างไรให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ โดยภาครัฐเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทำได้ เพราะมีงบประมาณอยู่พอสมควรสามารถที่จะผลักดันโครงการต่าง ๆ ให้ออกมาได้ และมาตรการต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ที่มีกำลังซื้อมากออกมาใช้จ่ายเพื่อมากที่สุด เพื่อให้เกิดการหนุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจเป็นไปได้ด้วยดี


นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจมีปัญหาไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่มีปัญหาทั่วโลก เพราะฉะนั้นความเชื่อมั่นต่ำลงทั้งโลก สิ่งสำคัญ คือ ต้องหาทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากหรือโลคัลอีโคโนมี่ให้เป็นประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ทำอย่างไรที่จะเน้นสินค้าและผลิตภัณฑ์ของไทยมีความเข้มแข็งมากที่สุด  เพราะการอยู่อย่างพอเพียง การใช้ของไทย การผลักดันให้คนไทยใช้สินค้าไทย และช่วยผลักดันให้คนไทยที่มีเงินช่วยคนไทยด้วย บิ๊กบราเธอร์ บริษัทใหญ่ ๆ ต้องลงมาช่วยขยายหนี้ลูกหนี้เอสเอ็มอี สถาบันการเงินต้องช่วยผ่อนปรนหลักเกณฑ์ยืดหยุ่นมากขึ้นให้เอสเอ็มอีอยู่ได้ เพื่อให้เศรษฐกิจไปได้  เพราะเหตุการณ์อย่างนี้ไม่ได้ไปอีกหลาย ๆ ปี อาจจะมีความยากลำบาก แต่เมื่อสถานการณ์โควิดจบลง ก็จะมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะค่อย ๆ ฟื้น แต่ต้องใช้เวลา ดังนั้น การมีสภาพคล่องของผู้ประกอบการถือเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลต้องอัดฉีด สถาบันการเงินต้องช่วยเรื่องสภาพคล่องต่อไปในอีก 1-2 ปีจากนี้ไป

ต่อข้อถามที่ว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้เป็นการซ้ำเติมช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อของช่วงโควิดหรือไม่ นายสุพันธุ์ กล่าวว่า จะว่าเป็นการซ้ำเติมก็กะไรอยู่ แต่จริง ๆ แล้วเศรษฐกิจไม่ดี ทุกวิกฤติมีโอกาส หากปรับ ครม.แล้วเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสามารถผลักดันทุกคนร่วมใจกัน ช่วยผลักดันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจร่วมมือกันอย่างจริงจังเหมือนดูแลโควิดจนตัวเลขผู้ป่วยในประเทศเป็น 0 รายได้ ทำไมจะทำให้เศรษฐกิจประเทศโตไม่ได้  ดังนั้น จึงฝากไว้ให้ ครม.ผลักดันไปในทิศทางเดียวกันเป็นเรื่องสำคัญ 

ต่อข้อถามที่ว่าระดับความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาได้รับการซัพพอร์ตจากภาครัฐ เมื่อภาคเอกชนเสนอโครงการต่าง ๆ เข้าไปก็ได้รับการพิจารณา จึงอยากฝากว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งนี้ควรจะมีโครงการหรือมีลักษณะคณะกรรมการ โดยมีภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยกับภาครัฐ  เช่นเดียวกับการแก้ไขสถานการณ์โควิด ซึ่งทั้ง ส.อ.ท.และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยยินดีเข้ามาช่วยอยู่แล้ว


ส่วนกรณีบุคคลที่ตกเป็นข่าวว่าจะเข้ามาเป็นทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ นายสุพันธุ์ กล่าวว่า คนที่เข้ามาต้องรู้เรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างดี และทำงานใกล้ชิดกับภาคเอกชน ช่วยแก้ไขปัญหาก็เป็นเรื่องดี แต่สิ่งสำคัญคือ จะต้องเป็นบุคคลที่ได้รับความร่วมมือ เพราะที่สำคัญ คือ ใครเก่งก็แล้ว แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือก็อยู่ไม่ได้ โดยความร่วมมือทั้งจากภาคการเมืองและภาคราชการ 

นายสุพันธุ์ กล่าวด้วยว่า นโยบายต่าง ๆ ที่ทีมเศรษฐกิจชุดนายสมคิด ได้ทำไว้ ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เข้ามาก็ควรได้รับการสานต่อนโยบายเหล่านั้น เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่วนนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจยังไม่ตกผลึกแน่นอนอย่างวงเงินกู้ 400,000 ล้านบาท จะขึ้นอยู่กับทีมงานเศรษฐกิจชุดใหม่ที่จะต้องพิจารณาว่าจะขับเคลื่อนให้เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการและประชาชนให้ได้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]