ธนาคารกรุงเทพร่วมสนับสนุนจัดกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ

กรุงเทพฯ 4 ธ.ค. – ธนาคารกรุงเทพร่วมสนับสนุนจัดกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ น้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 ชวนคนไทยร่วมกัน “ออมความดี มีแล้วแบ่งปัน”


ตามที่รัฐบาลได้กำหนดจัดกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติวันที่ 5 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 โดยกำหนดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณร 489 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และมีกิจกรรมเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ณ ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 5-14 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00-20.00 น. ประกอบด้วย ถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ชมนิทรรศการ “ปณิธานความดี…มีแล้วแบ่งปัน” “ชุมชนต้นแบบแห่งความดี…วิถีไทยในแบบพ่อ” โครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย ฝึกอาชีพ ซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และมอบพันธุ์กล้าไม้


นางสาวธัญฑิกา โพธิสมภรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมถึงร่วมส่งเสริมให้คนไทยได้น้อมนำคำสอนของพระองค์มายึดถือและปฏิบัติผ่านกิจกรรมเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ โดยธนาคารได้จัดบูธกิจกรรมภายในงานดังกล่าว ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ออมความดี มีแล้วแบ่งปัน” ประกอบด้วย นิทรรศการปณิธานสานต่อ 9 คำสอนของพ่อ ได้แก่ ความพอดี ความซื่อสัตย์สุจริต ความเพียร อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ หนังสือเป็นออมสิน พูดจริงทำจริง เป็นผู้รับและผู้ให้ ความรู้ตน และการเอาชนะใจตน โดยจัดทำถุงผ้าปณิธานสานต่อ 9 คำสอนของพ่อ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่มาร่วมชมงาน เพียงร่วมกิจกรรมแชะภาพ ณ จุดเช็คอินถ่ายภาพแชร์บรรยากาศกิจกรรมต่างๆ ภายในบูธ ธนาคารกรุงเทพ พร้อมติดแฮชแท็ก #ธนาคารกรุงเทพ #ออมความดีมีแล้วแบ่งปัน

กิจกรรมเชิญชวนร่วมบริจาคเงินผ่านบริการ ‘BeSureQR ใจบุญ’ ในระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ที่ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมให้บริการภายใต้แนวคิด “ใจเป็นสุข กับทุกการให้” เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับลูกค้าและประชาชนในการบริจาคเงินผ่าน Mobile Banking Application เพื่อร่วมส่งต่อการให้แก่มูลนิธิต่างๆ ประกอบด้วย ศิริราชมูลนิธิ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก และมูลนิธิกาญจนบารมี โดยธนาคารได้จัดเตรียมของที่ระลึกสำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่ได้ร่วมบริจาคเงินตามจำนวนขั้นต่ำที่กำหนด เช่น ชุดเซ็ทกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ขนาด 18 นิ้ว และใบเล็ก ขนาด 13 นิ้ว สำหรับผู้ร่วมบริจาค 800 บาทขึ้นไป (จำกัด 100 ชุด/วัน) กระเป๋าเดินทางใบเล็ก ขนาด 13 นิ้ว เมื่อบริจาค 400 บาทขึ้นไป (จำกัด 1,000 ชุด/วัน) และผู้ที่ร่วมบริจาคตามกำลังแบ่งปัน จะได้รับกระปุกออมเงินบัวหลวง ทั้งนี้ การบริจาคเงินผ่านระบบ e-Donation ผู้บริจาคยังสามารถเลือกให้ธนาคารจัดส่งข้อมูลรายการบริจาคไปยังกรมสรรพากรเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้อีกด้วย


กิจกรรมเชิญชวนร่วมโครงการ “ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ ปีที่ 2” ที่ธนาคารได้ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการรุณย์ (SiPH) เพื่อชวนคนไทยสานต่อการให้ สร้างวินัยการออมให้เกิดพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง ตามรอยพระราชจริยวัตร “กษัตริย์นักออม” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยการเป็น “นักออมเพื่อให้” เพียงออมเงินและนำมาร่วมบริจาคกับโครงการนี้เพื่อร่วมสมทบทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์แก่อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา พระราชปณิธานสุดท้ายของพระองค์ เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาสและลดปัญหาการแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลศิริราช โดยจะได้รับกระปุกออมเงินที่ระลึกสัญลักษณ์จำลองอุปกรณ์ทรงงาน 3 แบบ ได้แก่ วิทยุสื่อสาร กล้องถ่ายรูป และรถจี๊ป ซึ่งเป็นพระราชพาหนะทรงงาน พร้อมรับชมนิทรรศการอุปกรณ์ทรงงานทั้ง 3 แบบข้างต้น

กิจกรรมเชิญชวนร่วมบริจาคสมทบทุนนำไปสร้างคุณประโยชน์ทางการแพทย์ในรูปแบบต่างๆ ผ่านการสมัครและใช้จ่ายผ่าน ‘บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท ทีพีเอ็น แรบบิท ศิริราช’ – ‘บัตรที่ใช่ ของคนใจดี’ ที่ทุกการสมัครบัตรใหม่ ธนาคารจะร่วมบริจาค 100 บาท ค่าธรรมเนียมรายปีทุกปีต่อไป ธนาคารจะร่วมบริจาค 50 บาท และทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร ธนาคารก็จะร่วมบริจาค 0.2% ของยอดใช้จ่าย ให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ‘บัตรเครดิตวีซ่าแพลทินัม แรบบิท ศิริราช ธนาคารกรุงเทพ’ -‘สุขใจทุกครั้งที่ใช้ ทุกการใช้จ่าย…คือได้บุญ’ ทุกการใช้จ่าย ธนาคารกรุงเทพร่วมบริจาค 0.2% ให้แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  และ ‘บัตรเครดิตไทเทเนียม โรงพยาบาลรามาธิบดี ธนาคารกรุงเทพ’ – ‘ยิ่งใช้ ยิ่งได้บุญ’ ซึ่งธนาคารร่วมบริจาค 0.2% จากทุกยอดใช้จ่ายผ่านบัตร ให้แก่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล 

กิจกรรมสอยดาวปันสุข สำหรับผู้สนใจ (บริจาคตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป) ร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลมากมาย เช่น จักรยาน พัดลม กระเป๋าเดินทาง กระปุกออมเงินบัวหลวง ฯลฯ และผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของธนาคาร เพื่อแนะนำ ให้คำปรึกษา และนำเสนอประสบการณ์ด้านการเงินมาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนผู้เข้าร่วมงาน 

“ธนาคารกรุงเทพได้ดำเนินนโยบายโดยยึดถือปฏิบัติและส่งเสริมการทำความดีและส่งต่อการให้มาอย่างต่อเนื่องผ่านหลากหลายกิจกรรม รวมถึงผลิตภัณฑ์การเงินที่ออกแบบมาเพื่อร่วมส่งเสริมให้คนไทยมีโอกาสได้ร่วมแบ่งปันโดยเฉพาะ อย่างบัตรบีเฟิสต์ และบัตรเครดิตที่ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลรามาธิบดี ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งธนาคารและลูกค้าผู้ถือบัตรได้ร่วมกันสมทบทุนไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 170 ล้านบาท เป็นต้น ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันกิจกรรมความดีแก่คนไทยให้ได้ร่วมกันยึดถือและปฏิบัติตามรอยพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนได้ร่วมกันเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน” นางสาวธัญฑิกา กล่าว

สำหรับผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและร่วมกิจกรรมของธนาคารกรุงเทพได้ที่บูธบริเวณพื้นที่จัดงานวันพ่อแห่งชาติ ณ ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 5-14 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00-20.00 น. โดยขอเชิญชวนแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]