แจงดราม่า ตร.ทางหลวงปะทะคารมคนขับกระบะ

สงขลา 3 ธ.ค.-ตำรวจทางหลวงชี้แจงเหตุปะทะคารมกับคนขับกระบะขนพริกที่ อ.รัตภูมิ ยืนยันไม่ได้เจาะล้อทำให้ยางระเบิด ตำรวจที่บาดเจ็บปลอดภัยแล้ว พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน หากพบปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะดำเนินการตามวินัย ส่วนคู่กรณีปรับความเข้าใจกันแล้ว


จากกรณีที่เกิดเหตุปะทะคารมระหว่างคนขับรถกระบะขนพริกกับตำรวจทางหลวงประจำป้อมจุดตรวจพรุพ้อ ถนนสายเอเชีย อ.รัตภูมิ จ.สงขลา วานนี้ หลังจากถูกเรียกตรวจ คนขับพร้อมเพื่อนที่มาด้วยกัน มีท่าทีไม่พอใจเพราะต้องรีบทำเวลาเพื่อไปส่งพริกที่ อ.หาดใหญ่ ให้ทัน หากส่งไม่ทันจะทำให้พริกเสียหาย ซึ่งทั้งคันมีมูลค่ากว่า 4 แสนบาท และสงสัยว่ามีความผิดอะไร แต่ระหว่างที่ตำรวจทางหลวงตรวจค้น ซึ่งฝั่งรถกระบะก็ไลฟ์สดตลอดเวลา ได้เกิดยางรถระเบิดขึ้น พร้อมกับตำรวจทางหลวงคนหนึ่งที่ไปตรวจรถ ได้แสดงอาการบาดเจ็บวิ่งมาขอความช่วยเหลือให้พาไปส่งโรงพยาบาล ฝั่งรถกระบะจึงตั้งข้อสงสัยว่ายางรถถูกเจาะจนระเบิด เหตุการณ์นี้ถูกแชร์ต่อกันจำนวนมากและวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ 


ล่าสุดในวันนี้ (3 ธ.ค.) ที่สถานีตำรวจทางหลวง3 กองกำกับการ7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หนูละออง ซึ่งทำหน้าที่ร้อยเวรในวันเกิดเหตุ ชี้แจงว่าการเรียกตรวจค้นกระบะคันนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ อาจทำให้เสียเวลา คนขับไม่พอใจและไม่เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และเกิดการพูดตอบโต้กันขึ้น ได้ตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องยางระเบิดซึ่งเป็นข้อสงสัยว่าถูกตำรวจเจาะหรือไม่ ซึ่งสอบสวนเบื้องต้นพบว่าเป็นอุบัติเหตุ เกิดขึ้นขณะที่ตำรวจนายหนึ่งก้มดูใต้ท้องรถพอดี ทำให้บาดเจ็บ แน่นหน้าอก ขณะนี้ปลอดภัยและออกจากโรงพยาบาลแล้ว


ร.ต.อ.ชัยรัตน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือรถกระบะขนพริกคันนี้อย่างดีที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ก็นำยางอะไหล่มาเปลี่ยนให้และสามารถขับไปส่งพริกได้ทันเวลา และได้มีการไปพูดคุยกับเถ้าแก่ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเข้าใจตรงกัน พริกก็ไม่ได้เสียหาย พูดคุยทำความเข้าใจกับคนขับเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนเข้าใจและพอใจกันทั้งสองฝ่ายและเหตุการณ์จบลงด้วยดี

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พ.ต.อ.จิรประภาพ สุทธปรีดา ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีคำสั่งตรวจสอบสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น และรายงานผลภายใน 7 วัน และให้ย้ายร.ต.อ.ชัยรัตน์ ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (โคกโพธิ์) เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริง เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส กับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ