กทม.28 พ.ย.-ผู้ปกครองที่ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นโมเดลลิ่งของ “พจน์
อานนท์”หลอกพาลูกไปตระเวนถ่ายแบบแต่ไม่ได้เงิน เข้าร้องกองปราบ
ผู้ปกครอง 3 คน พาลูกชายซึ่งเป็นเด็กลูกครึ่ง อายุประมาณ 12-15 ปี เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม
ให้ดำเนินคดีกับโมเดลลิ่งหญิงชื่อ”โรส” อ้างทำงานให้กับ”พจน์
อานนท์” ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง และถูกเบี้ยวงาน ไม่จ่ายเงินค่าตัว รวมมูลค่าเสียหายหลักแสนบาท
นายจตุรงค์ นพรัตน์ อายุ 27 ปี เล่าว่า เห็นประกาศรับเด็กไปเดินแบบที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
ระหว่างวันที่ 25-28 พฤศจิกายน จึงพาลูกชายไปสมัครโดยวางเงินประกันจำนวน
10,000 บาท แต่เนื่องจากต้องใช้เอกสารรับรองว่ามีการทำงานจริง
เพื่อไปลาเรียนให้ลูกและใช้ลางาน จึงสอบถามกับทางห้างฯเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ปรากฎว่าทางห้างฯยืนยันว่าไม่มีกิจกรรมดังกล่าวในช่วงนี้
จึงสอบถามกลับไปยังโมเดลลิ่ง เจ้าตัวทำเป็นอารมณ์เสีย
บอกว่าที่ไปสอบถามจะทำให้งานเสียหาย เพราะเป็นกิจกรรมเปิดตัวแบบลับๆ พร้อมกับยื่นเอกสารให้รับรอง
และนัดหมายให้มาพบกันอีกครั้งวันที่ 26 พฤศจิกายน
ซึ่งวันนั้นมีเด็กๆที่จะต้องมาเดินแบบกว่า 10 คน
มารอขึ้นเดินแบบจนใกล้เวลาห้างปิด ก็ไม่พบตัวโมเดลลิ่ง และติดต่อไม่ได้
จึงสอบถามทางห้างฯอีกครั้ง ก็ได้รับคำตอบเดิม พร้อมกับแนะนำให้ไปแจ้งความ หลังจากนำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก
ก็มีคนแชร์ต่อๆ กันเป็นจำนวนมาก จนเรื่องไปถึง”พจน์ อานนท์”
ซึ่งก็นำเรื่องนี้ไปโพสต์ตอบในอินสตาแกรมส่วนตัว แนะนำให้ผู้ปกครองที่โมเดลลิ่งกระทำแบบนี้
ให้ไปแจ้งความเพราะตนไม่มีเรียกเก็บเงินจากใครเด็ดขาด
ส่วนผู้ปกครองอีก 2 คน ซึ่งมีบุตรเป็นลูกครึ่ง บอกว่า
รู้จักกับโมเดลลิ่งรายนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านการแนะนำกันมาเป็นทอดๆ เมื่อเดือนตุลาคม ก็เริ่มรับงานแรกเป็นงานถ่ายแบบที่แม่กำปอง
อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ วางเงินมัดจำไปประมาณ 30 %
ตามสัญญา และได้รับเงินค่าถ่ายแบบมาประมาณ 10,000 บาท จากนั้นก็รับงานถ่ายแบบ งานถ่ายโฆษณาผลิตภัณฑ์สินค้า
รวมถึงงานที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่ปรากฎว่าเมื่อจ่ายมัดจำและทำงานไปแล้ว
กลับไม่ได้เงินค่าจ้าง บางงานก็ยกเลิกกระทันหัน เฉพาะเงินที่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน
ทั้งเงินมัดจำและค่าใช้จ่ายอื่นรวมแล้วเป็นเงินหลักแสนบาท เมื่อมาทราบว่าน่าจะเป็นการหลอกลวง
ก็ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับโมเดลลิ่งรายนี้ ทั้งนี้ตำรวจกองปราบปรามได้รับเรื่องไว้พิจารณาเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย
