กรุงเทพฯ 28 พ.ย. – กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมสรุปปัญหารถยนต์ไทยถูกกีดกันทางการค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกรณีเวียดนามและฟิลิปปินส์ ให้ ครม.รับทราบ เพื่อเร่งเจรจาหาทางออก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์มีความสำคัญต่อประเทศมีมูลค่าส่งออกมากที่สุดจากยอดส่งออกรวมเกือบ 900,000 ล้านบาท และประเทศมีความเข้มแข็งอุตสาหกรรมยานยนต์มาก ประเทศอื่น ๆ จึงออกมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อกรณีที่มีข่าวว่าประเทศฟิลิปปินส์จะออกมาตรการกีดกันรถยนต์ที่ประเทศไทยส่งออกไปยังประเทศฟิลิปปินส์ จึงได้เชิญผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์มาให้ข้อมูล และขอรับทราบความห่วงใยของผู้ประกอบการ ซึ่งจากการประชุมกับผู้ประกอบการรถยนต์ได้รับข้อมูลมาพอสมควรแล้ว จากนี้ไปทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะได้สรุปและนำรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ทราบปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีกรณีประเทศเวียดนามออกมาตรการกีดกันสินค้าที่ไม่ใช่ภาษีกับรถยนต์ส่งออกของไทยเช่นกัน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบการรถยนต์เป็นห่วง และแจ้งว่ารถยนต์ที่ไทยส่งออกไปยังเวียดนาม ทางการเวียดนามมีการตรวจสอบรถยนต์ที่ส่งออกไปทุกล็อต โดยแต่ละล็อตของการส่งออกมีการใช้เวลาตรวจนานพอสมควร เนื่องจากเวียดนามมีห้องแลปเพียง 1 ห้องเท่านั้น ทำให้รถยนต์ส่งออกต้องรอการตรวจนานตั้งแต่ 14 วันถึงเกือบ 1 เดือน นอกจากนี้ ยังคิดค่าตรวจจากผู้ประกอบการไทยด้วย และการทดสอบการปล่อยมลพิษท่อไอเสียที่จะต้องมีการทดสอบขับรถยนต์ก็ให้ผู้ประกอบการไทยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายน้ำมันด้วย ซึ่งการช่วยเหลือผู้ประกอบการรถยนต์ไทย ทางรัฐบาลจะต้องมีการเจรจากับทางรัฐบาลเวียดนามต่อไป
“ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมขอให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์รวบรวมสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือและส่งเข้ามาให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) รวบรวม รวมถึงเกี่ยวกับการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพราะทราบว่าบางบริษัทระบุว่า ยื่นคำขอรับส่งเสริมโครงการลงทุนเข้าไปแล้ว แต่การพิจารณายังช้า แม้ที่ผ่านมาบีโอไอ มีการให้บริการในลักษณะ ONE STOP SERVICE แล้ว ซึ่งเรื่องนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงและให้ความสำคัญเชื่อว่าเมื่อมีการแจ้งเข้ามาจะได้รับการแก้ไขทันที” นายสุริยะ กล่าว
นายสุริยะ กล่าวว่า กรณีบุหรี่ผลิตในฟิลิปปินส์ส่งมาขายในประเทศไทย ทางศุลกากรไทยระบุว่าแจ้งราคานำเข้าต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อให้เสียภาษีในอัตราต่ำ ซึ่งทางฟิลิปปินส์ต้องการให้แก้ไข หากไม่แก้ไขจะมีมาตรการตอบโต้ประเทศไทย ทางกระทรวงอุตสาหกรรมเห็นว่าเรื่องนี้จะต้องเจรจากัน เนื่องจากประเทศไทยส่งออกรถยนต์และจักรยานยนต์ไปประเทศฟิลิปปินส์ปีละประมาณ 100,000 คัน.-สำนักข่าวไทย