FETCO เสนอแยกวงเงินลดหย่อนภาษี LTF-RMF

ไบเทค 28 พ.ย. – สภาธุรกิจตลาดทุนไทยยันต้องแยกวงเงินลดหย่อนภาษี LTF-RMF หวั่นนักลงทุนเมินออม-เงินเข้าตลาดหุ้นลดลง 


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของกระทรวงการคลังที่จะรวมวงเงินลดหย่อนภาษีของกองทุนใหม่ที่จะมาแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (RMF) รวม 500,000 บาทต่อปีนั้น เนื่องจากจะทำให้เม็ดเงินการออมระยะยาวเข้าสู่ตลาดทุนลดลง เพราะปัจจุบันการลงทุนใน RMF จะมีวงเงินสะสมของนายจ้างรวมอยู่ด้วย รวมถึงประชาชนยังไม่ตระหนักถึงการออมเพื่อวัยเกษียณมากนัก ดังนั้น หากรวมวงเงินจะทำให้การออมระยะยาวลดน้อยลง

ทั้งนี้ FETCO ยังเสนอให้แยกวงเงินระหว่างกองทุนใหม่ และ RMF โดยให้ RMF คงวงเงินลดหย่อนภาษีได้ 500,000 บาทต่อปีเช่นเดิม และเพิ่มวงเงินลดหย่อนสำหรับกองทุนใหม่อย่างน้อย 200,000-250,000 บาทต่อปี เพื่อให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละปีมีเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน LTF เข้ามาลงทุนเฉลี่ยปีละ 50,000 ล้านบาท ซึ่งสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดทุนไทยค่อนข้างมาก 


“คิดว่าควรแยกวงเงิน เพราะคนละวัตถุประสงค์ หากรวมกันคนจะให้ความสนใจกับกองทุนใหม่น้อย และจะทำให้เม็ดเงินลงทุนใหม่ไม่เข้ามาในตลาดหุ้น ซึ่งขณะนี้คนยังไม่มีความเชื่อมั่นและรอดูท่าทีของกองทุนใหม่ จึงทำให้เม็ดเงินจากการลงทุน LTF ปีนี้ไม่ค่อยคึกคัก” นายไพบูลย์ กล่าว

ส่วนระยะเวลาการออม FETCO มองว่าควรอยู่ที่ 10 ปี น่าจะเพียงพอต่อการออม และความสนใจของประชาชนที่จะเริ่มสร้างวินัยการออมระยะยาว เพราะหากเป็น 15 ปีอาจเป็นการออมที่ยาวเกินไป 

นายไพบูลย์ ยอมรับว่า นักลงทุนยังไม่มีความเชื่อมั่น สะท้อนผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน ยังสร้างผลตอบแทนต่ำรั้ง 5 อันดับสุดท้ายของโลก หรือมีผลตอบแทนเติบโตเพียง 2-3% เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศที่มีสงครามการค้าระหว่างกัน โดยสหรัฐผลตอบแทนการลงทุนในตลาดทุนสูงถึง 30% ขณะที่จีนมีผลตอบแทนสูงถึง 20% 


“ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย โปแลนด์ และชิลี เป็น 5 อันดับสุดท้ายของประเทศที่ให้ผลตอบแทนต่ำสุดปีนี้ เพราะนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ไม่เหมือนสหรัฐและจีนที่แม้จะเกิดสงครามการค้า แต่นักลงทุนยังมีความเชื่มมั่นและพร้อมลงทุนในตลาดหุ้น ดังนั้น กระทรวงการคลังจะต้องเร่งหาข้อสรุปและให้ความสำคัญกับตลาดหุ้น และหากรวมวงเงินกันระหว่างกองทุนใหม่และ RMF  ปีหน้าอาจทำให้เม็ดเงินลงทุนที่เคยได้จาก LTF จะหายไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง” นายไพบูลย์ กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพบว่าเม็ดเงินต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนระยะสั้น แต่ไทยยังขาดนักลงทุนระยะยาว ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด โดยมองว่าไทยยังขาดนักลงทุนในระยะยาว ดังนั้น จึงต้องเร่งหาข้อสรุปให้เสร็จโดยเร็ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร