ธปท.พร้อมใช้นโยบายการเงินดูแลเศรษฐกิจ จับตาเงินบาทปลายปี ห่วงการเก็งกำไร

หลวงพระบาง  25 พ.ย. – ผู้ว่าฯ ธปท.เผยกำชับติดตามการเคลื่อนไหวเงินบาทปลายปีอย่างใกล้ชิด หวั่นเก็งกำไร หรือมาพักเงิน พร้อมเตรียมปรับลดประมาณการจีดีพีปีนี้ใหม่และใช้เครื่องมือนโยบายการเงินดูแลเศรษฐกิจ


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้วางแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีข้างหน้า (2563-2565) โดยมองว่า 3 ปีข้างหน้าจะเป็นโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วกว่า 3 ปีที่ผ่านมามาก ธปท.ใช้แนวคิดหลัก “ธนาคารกลางท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง” เพื่อรับมือกับปัจจัยที่จะมากระทบมากขึ้น

ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มมีความผันผวนสูง  โดยยอมรับว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากที่สุด หากเปรียบเทียบกับประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย เงินบาทแข็งค่าเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน  และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในปีหน้ายังมีอยู่สูงมาก โดยไม่สามารถตอบได้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าหรือจะอ่อนค่า โดยเป็นไปได้ทั้ง 2 ทิศทาง  ดังนั้น เอกชนต้องบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น


นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้กำชับให้ติดตามการเคลื่อนไหวของเงินบาทอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภาวะที่ปัจจัยต่างประเทศเปลี่ยนแปลงเร็วและในช่วงปลายปีที่อาจมีธุรกรรมมากกว่าปกติ ธปท.ก็จะติดตามธุรกรรมของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสถาบันการเงินไทยและสถาบันการเงินต่างประเทศอย่างใกล้ชิดด้วย พร้อมกำชับสถาบันการเงินโดยเฉพาะสถาบันการเงินต่างประเทศที่มีธุรกรรม Non Resident กับนักลงทุนต่างประเทศ ว่าต้องปฏิบัติตามเกณฑ์อย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะนักลงทุนที่จะมาเก็งกำไรหรือมาพักเงินในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงปลายปี

ส่วนการดำเนินนโยบายการเงินนั้น ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า วันนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยต่ำสุดในประวัติศาสตร์ที่ร้อยละ 1.25 และต่ำสุดในภูมิภาค เเละต่ำจนไม่มีความสามารถในการทำนโยบายการเงิน เเรง ๆ โดยอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ  1.25 เคยใช้ช่วงหลังเกิดวิกฤติการเงินโลกปี 2550-2551 ซึ่งช่วงนั้นดอกเบี้ยลดจากร้อยละ  3 เหลือ 1.25 และถือเป็นยาเเรง แต่ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ  1.25 ไม่สามารถใช้เป็นยาแรงเเบบเดิมได้ เพราะอัตราดอกเบี้ยไม่สามารถลงได้มากกว่านี้ และไม่คิดว่าไทยจะใช้ดอกเบี้ยติดลบ เพราะไม่ใด้อยู่ในช่วงเวลาที่จะทำเพราะจะเป็นการสร้างปัญหาด้านเสถียรภาพ ดังนั้น ต้องชั่งน้ำหนักว่าการใช้ดอกเบี้ยช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือรักษาขีดความสามารถในการทำนโยบายการเงินไว้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม พร้อมที่จะใช้เครื่องมือนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจถ้าประมาณการเศรษฐกิจและแนวโน้มเศรษฐกิจไม่เป็นไปอย่างที่คาด

นาย วิรไท กล่าวด้วยว่า ในการประชุม  กนง.เดือนธันวาคมนี้จะมีการปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่ โดยมีแนวโน้มที่จะโตต่ำกว่าร้อยละ 2.8 หลังจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2562 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ออกมาขยายตัวร้อยละ 2.4 โตต่ำกว่าที่ ธปท.คาดไว้


ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2563 คาดว่าจะดีกว่าปีนี้ เพราะจะมีการใช้งบประมาณรายจ่ายจำปี 2563 ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 บวกกับมีการย้ายฐานการผลิตจากนักลงทุนต่างชาติได้รับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้ามาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งก็จะช่วยทำให้การผลิตและการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย