ชลบุรี 16 มี.ค. – ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย ปรับลดจีดีพีปี 2567 ของไทย เหลือ 2.3% คาด กนง. ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง เหลือ 2.0% ปลายปีนี้มีโอกาสเห็นเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หากดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท ทันปีนี้ อาจดัน GDP ขยับเพิ่ม 0.5%
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2567 เหลือ 2.3% จากเดิม 3.1% จากปัจจัยการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัว การใช้จ่ายภาครัฐที่ล่าช้า และภาคการส่งออกที่ยังเติบโตน้อยกว่าที่คาด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว ขณะที่ภาคการผลิตก็ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก อย่างไรก็ตาม มองว่าภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งปีจำนวน 34 ล้านคน
ทั้งนี้ จะต้องประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งคาดว่าไตรมาส 1/2567 จะเติบโตน้อยกว่า 1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 และเมื่อมีการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐช่วงกลางปีนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเร่งตัวแรงในไตรมาส 3 และ 4 นี้ ซึ่งในระหว่างนี้จะต้องพึ่งนโยบายทางการเงินเข้ามาเป็นตัวช่วยพยุงเศรษฐกิจ โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายปีนี้ 2 ครั้ง จาก 2.50% เหลือ 2.0% ซึ่งครั้งแรกคาดว่าจะเห็นในการประชุม กนง. นัดหน้าเดือนเมษายนนี้ปรับลดลง 0.25% และเชื่อว่าจะมีการปรับลดประมาณการณ์เติบโตเศรษฐกิจในปีนี้ด้วย ส่งผลให้ความน่าสนใจของสินทรัพย์ไทยลดลง ทำให้เกิดการเทขยายทั้งตลาดหุ้นและพันธบัตร คาดว่าปลายปีนี้มีโอกาสเห็นค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท เกิดขึ้นภายในปีนี้ น่าจะส่งผลให้ GDP ขยับเพิ่ม 0.5% หากจะกระตุ้น GDP ให้ขยับขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 3% จะต้องพึ่งนโยบายการคลัง การลงทุน และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาว โดยย้ำว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นเพียงการพยุงเศรษฐกิจเท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้างระยะยาวที่ต้องเร่งแก้ไข.-516-สำนักข่าวไทย